จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1781

ตอนที่ 1781 สองทางเลือก
บนถนนเส้นใหญ่ ตอนนี้เย่หยวนกำลังค่อยๆ เดินไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ

บนถนนเส้นนี้มีนักยุทธที่ทั้งมาคนเดียวและมาเป็นกลุ่มอยู่หลากหลาย

คลื่นพลังของคนเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอเลย พวกเขาแท้จริงแล้วเป็นถึงราชันพระเจ้ากันทั้งสิ้น!

เย่หยวนรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาเพื่อเข้าร่วมการทดสอบของนิกายเงาจันทร์ เพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

เย่หยวนได้รู้จากทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของสีกงซิ่วว่าในหมู่นิกายระดับเทพถ่องแท้ทั้งหลาย ตอนนี้มีเพียงนิกายเงาจันทร์เท่านั้นที่กำลังเปิดรับศิษย์อยู่

และตอนนี้มันก็ยังเหลือเวลาอีกประมาณสองร้อยปีกว่าจะถึงงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ครั้งหน้า

เย่หยวนต้องใช้เวลาสองร้อยปีนี้ในการบรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด

เพราะคนที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่นั้นจำเป็นต้องมีพลังบ่มเพาะอาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นไป

และเย่หยวนนั้นก็ยังห่างไกลจากอาณาจักรนภาสวรรค์ไปมากทีเดียว

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนเอาแต่เก็บตัวเฝ้าศึกษาวิชาโอสถของเผ่าอสูรจนไม่ได้มีเวลาไปฝึกฝนวิชาฝีมือด้านอื่นๆ เลย

ช่วงสองร้อยกว่าปีที่เหลือนี้เย่หยวนจะต้องทำการบ่มเพาะด้วยทุกอย่างที่มีและรีบบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ให้ได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“นี่ น้องชาย เจ้ามาจากนิกายใดกัน? ดูท่าจะเป็นหน้าใหม่สินะ!”

บางทีชายร่างกำยำคนนี้อาจจะเบื่อเลยเดินเข้ามาชวนเย่หยวนคุย

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้ามาจากนิกายระดับราชันพระเจ้าน้อยๆ แห่งหนึ่ง ไม่มีชื่อเสียงมากมายหรอก”

ชายร่างกำลังยิ้มตอบ “แบบนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าเจ้าถึงได้อ่อนแอปานนี้ ด้วยพลังฝีมือของเจ้าในตอนนี้มันคงยากที่จะผ่านการสอบเข้านิกายเงาจันทร์ไปได้!”

เย่หยวนยิ้มออกมาในใจ ดูท่าแล้วชายคนนี้คงเป็นคนนิสัยตรงๆ

เย่หยวนมองออกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ตรงถึงขั้นว่ามีอะไรคิดอยู่ในหัวก็ไม่กลัวที่จะต้องพูดออกมาตรงนั้น โดยไม่คิดจะไตร่ตรองมันผ่านสมองเลย

เย่หยวนยิ้มรับ “ข้าแค่มาลอง เพราะยังไงเสียในนิกายเก่าของข้าก็ไม่มีอะไรที่ข้าจะสามารถเรียนรู้ได้อีกแล้ว”

ชายร่างกำยำบอก “ก็นั่นสินะ สำหรับเจ้าที่อยู่ในนิกายเล็กๆ แบบนั้นแต่สามารถบ่มเพาะมาจนถึงระดับนี้ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้ว แต่ว่าอัจฉริยะที่จะเข้านิกายเงาจันทร์ได้นั้นมันมีจำนวนแค่หนึ่งในล้าน หากเจ้าอยากผ่านการสอบเข้านี้ไปเจ้าคงต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีทีเดียว”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “อืม หากมันไม่ผ่านข้าก็คงต้องทำในทั่วๆ ไปในนิกายเงาจันทร์แทนล่ะ เมื่อพลังฝีมือของข้าพัฒนาถึงระดับเมื่อใดข้าค่อยกลับไปทำการสอบเข้าเป็นศิษย์อีกครั้ง”

มิติอนัตตาก่อไผ่นั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ นิกายค่ายสำนักต่างๆ ตั้งกันกระจัดกระจาย และเหล่านิกายระดับเทพถ่องแท้นั้นก็คือผู้ปกครองที่แท้จริง

แต่นิกายระดับนภาสวรรค์และระดับราชันพระเจ้านั้นก็ยังมีอยู่มากมาย หลังจากศิษย์ในนิกายเหล่านั้นประสบความสำเร็จ พวกเขาทั้งหลายก็จะพยายามหาทางเข้าสู่นิกายระดับสูงขึ้น

อย่างแรกเลยก็เพราะว่านิกายเก่านั้นมันไม่มีอะไรที่จะสามารถสั่งสอนให้พวกเขาพัฒนาตัวไปได้อีกแล้ว อยู่ไปก็รังแต่จะเสียเวลาเปล่าๆ

อย่างที่สองคือหลังจากศิษย์เหล่านั้นเข้านิกายระดับเทพถ่องแท้ได้ พวกเขาก็จะสามารถช่วยกลับมาดูแลนิกายเดิมให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปได้

เพราะฉะนั้นเหล่าคนที่มาเข้าร่วมการสอบของนิกายเงาจันทร์นี้ล้วนเป็นยอดศิษย์ที่เทียบได้กับศิษย์ของนิกายระดับเทพถ่องแท้แล้ว

แน่นอนว่าเหล่าศิษย์จากนิกายเล็กๆ เองก็คิดจะมาเข้าร่วมไม่น้อย แต่ส่วนมากก็ไม่มีทางที่จะผ่านการสอบครั้งนี้ไปได้

คำพูดของชายร่างกำยำคนนี้ไม่ได้ผิดเลย

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนนั้นมีพลังการต่อสู้ที่เหนือล้ำกว่าใครๆ ในระดับเดียวกันไปมาก

ชายร่างกำยำบอก “ฮ่าๆ ข้าเองมาจากนิกายเมฆาสายฟ้านามว่าฮันยอง ในวันหน้าหากมีใครกล้ามารังแกเจ้า เจ้าจดชื่อพวกมันมาบอกข้าได้เลย”

เย่หยวนยิ้มรับ “ขอบพระคุณพี่ฮัน ข้านามเย่หยวน”

ระหว่างที่คนทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้นก็มีน้ำเสียงเย้ยหยันดังมาจากด้านข้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ