จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1793

ตอนที่ 1793 คนที่คิดว่ายากไม่รู้ คนที่รู้คิดว่าไม่ยาก
หลังจากสามวันแห่งการพักผ่อนผ่านไปเหล่าศิษย์ที่มาเข้าร่วมการสอบในรอบที่สองต่างก็กลับมาพร้อมกับสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยอีกครั้ง

ผู้ดูแลหงหันหน้าเข้าไปก้มคารวะทางนิกาย

“ศิษย์นิกายเงาจันทร์ หงเซียวขอเรียนเชิญยอดกลองจรัส!”

พูดไปผู้ดูแลหงก็หยิบธงผืนหนึ่งออกมาเดินพลังปราณเทวะลงไปราวกับว่ามันถูกดูดเข้าไปในหลุมมิติ

ตุบ!

เสียงหนึ่งดังขึ้นสนั่นฟ้า เป็นเสียงที่ดังดินต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก

ในหมู่คนที่มาเข้าสอบทั้งหลายนั้น ดวงตาอันแตกตื่นของทุกคนต่างจับจ้องมองไปที่กลองใหญ่ตัวหนึ่งที่กำลังค่อยๆ ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า

“อ้า! หูข้า!”

“ข้า… ข้าไม่ไหวแล้ว!”

เสียงสั่นสะเทือนของเจ้ากลองยักษ์มันทำให้หลายผู้หลายคนเริ่มแสดงอาการเจ็บปวดออกมา

คนที่อ่อนแอมากๆ นั้นถึงขั้นต้องกระอักเลือดออกมาคำโต ดูท่าแรงสั่นนี้มันคงทำให้อวัยวะภายในของพวกเขาได้รับบาดเจ็บไปแล้ว

“นี่มัน…. ท่วงทำนองแห่งยอดเต๋า!”

เย่หยวนยักคิ้วสูงขึ้นด้วยความตื่นตกใจทันที

เพราะอาการแปลกๆ นี้เย่หยวนเองก็เคยรู้สึกรับมันมาแล้ว

ตอนนั้นที่เขากำลังศึกษาวิชาอยู่ที่เผ่าปีศาจ เขาเคยได้ทำให้ท่วงทำนองแห่งยอดเต๋าบรรเลงออกมาครั้งหนึ่ง และเสียงที่เจ้ายอดกลองจรัสนี้ส่งออกมามันก็ให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับเสียงนั้น

เพียงแค่ว่าท่วงทำนองยอดเต๋าที่เย่หยวนเคยทำให้ดังนั้นมันเป็นเต๋าแห่งโอสถ

ส่วนเจ้ายอดกลองจรัสตัวนี้มันเป็นยอดเต๋าที่แสนดุร้าย ดูท่าคงเป็นเต๋าสายโจมตีสักอย่างเป็นแน่

เย่หยวนนั้นตื่นตะลึง “ดูท่านิกายเงาจันทร์จะยิ่งใหญ่สมชื่อจริงๆ ยอดกลองจรัสนี้มันคงเป็นถึงสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำขั้นสูง เหนือล้ำจนถึงขั้นแค่ขยับหน้ากลองไม่มากก็กลับส่งเสียงทำลายล้างอันทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้”

สำหรับท่วงทำนองแห่งยอดเต๋านั้น เย่หยวนย่อมสามารถรับมันไว้ได้ไม่ยาก

แต่พวกไป่หลี่ชิงหยานและคนอื่นๆ นั้นกลับต้องเดินปราณขึ้นมาปกป้องกันร่างของตนไว้

จนในที่สุดเสียงของกลองนั้นก็ค่อยๆ จางหายไป ทำให้ทุกคนต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

ผู้ดูแลหงมองดูทุกผู้คนที่มาเข้าสอบครั้งหนึ่งแล้วบอก “คนที่กระอักเลือดกลับไปได้”

คนที่กระอักเลือดออกมานั้นล้วนแล้วแต่แสดงท่าทางสิ้นหวังออกมา แต่พวกเขาก็ได้แต่ต้องก้มหน้ายอมรับความจริง

“ข้าได้ยินมานานว่ายอดกลองจรัสนั้นมีพลังเหนือฟ้า แต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะน่ากลัวถึงขั้นนี้เลย!”

“หากมันถูกใช้งานจริงๆ ออกมาต่อให้เป็นยอดฝีมือนภาสวรรค์ก็คงถูกสังหารลงในพริบตาเลยใช่ไหม?”

พลังที่ยอดกลองจรัสแสดงออกมาในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหลายต่างตกตะลึงอย่างมาก

หลังคนเหล่านั้นจากไปแล้วผู้ดูแลหงก็บอกออกมา “เอาล่ะมาเริ่มการทดสอบรอบที่สองกัน ไม่เกี่ยวว่าพวกเจ้าจะใช้วิธีการใด ขอแค่พวกเจ้าสามารถทำให้ยอดกลองจรัสนั้นส่งเสียงออกมาได้ ก็จะนับว่าเป็นการผ่าน คนที่ผ่านจะได้เข้าเป็นศิษย์แท้ของนิกายเงาจันทร์ คนที่ไม่ผ่านวันนี้จะได้เป็นศิษย์ดูแลช่วยงานทั่วไป หากเจ้าอยากเป็นศิษย์ทั่วไปแล้วพวกเจ้าก็สามารถถอนตัวได้ทันที แต่ว่าเฒ่าคนนี้ต้องขอเตือนก่อนเลยว่าจงประเมินตัวเองให้ดี! การโจมตีของพวกเจ้านั้นยอดกลองจรัสจะคืนสนองมันกลับมาหลายเท่าตัว บางทีมันอาจจะถึงขั้นทำให้พวกเจ้าต้องเสียชีวิตลงเลยก็ได้”

คำพูดนี้ของผู้ดูแลหงทำให้หลายๆ คนหน้าซีดเผือดลง

ยอดกลองจรัสนี้จะมีพลังที่เหนือล้ำจนเกินไปแล้ว

การตีกลองนี้มั่วๆ อย่างไม่ประเมินตัวเองมันเท่ากับการรนหาที่ตายดีๆ นี่เอง

“เอาล่ะตอนนี้พวกเจ้าจงออกมาทดสอบกันเรียงตามลำดับกลับด้านจากผลการสอบคราวก่อน” ผู้ดูแลหงบอก

นั่นทำให้คนแรกที่ได้ขึ้นสนามสอบคือคนที่ได้ที่โหล่ของการสอบรอบที่ผ่านมา เขาเป็นชายร่างผอมบางคนหนึ่ง

เมื่อเขาเดินขึ้นไปยืนอยู่กลางอากาศ คนทั้งหลายก็ได้เห็นว่าเขาหยิบแท่งเหล็กยาวขึ้นมาไว้ในมือ

“กระบองทิพย์ไร้จำกัด!”

ชายร่างผอมบางคนนี้ฟาดกระบองเหล็กลงไปยังยอดกลองจรัส

ปัง!

มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา แต่กลับไม่มีเสียงของยอดกลองจรัสเลยแม้แต่น้อย แขนขวาของเขาคนนั้นแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ในวินาทีที่มันตีถูกกลอง

เมื่อต้วนชิงหงเห็นภาพนี้เขาก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน “หึ ขยะจริงๆ! มันคิดว่ากำลังตีกลองที่บ้านมันอยู่หรือถึงได้เอาท่อนเหล็กไปฟาดเอาดื้อๆ แบบนั้น?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ