ด้านในห้องหนึ่งของยอดดอกตูมสวรรค์ จงฮันหลินกำลังด่าว่าเหล่าผู้ติดตามของนิกายบุปผาเหินทั้งหลาย
ดูแล้วเขากำลังไม่พอใจอย่างมาก
หลังจากผ่านไปร่วมสองร้อยปีจงฮันหลินที่มีพรสวรรค์เหนือล้ำศิษย์คนอื่นๆ ก็สามารถบรรลุขึ้นไปถึงอาณาจักรนภาสวรรค์ครึ่งก้าวได้
ตอนนี้อีกแค่ครึ่งก้าวเขาก็จะสามารถขึ้นไปเป็นยอดฝีมือนภาสวรรค์เต็มตัว
ตอนนี้เขาจึงได้กลายเป็นยอดคนอันดับหนึ่งของนิกายบุปผาเหินไปอย่างเป็นทางการแล้ว
ต้วนชิงหงและเขานั้นขับเคี่ยวกันมานานแสนนาน ตอนนี้ฝั่งต้วนชิงหงเองก็ได้กลายเป็นอันดับหนึ่งของนิกายดาบเมฆาไปแล้วเช่นกัน
และจนทุกวันนี้ คนทั้งสองก็ยังต่อสู้แข็งขันกันมาตลอด
จงฮันหลินกำลังด่าว่าผู้ติดตามคนอื่นๆ อย่างบ้าคลั่งจนจู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินเข้ามารายงานว่ามีคนกำลังมารอพบเขาอยู่ที่ด้านนอก
เขาพ่นลมออกมาอย่างโกรธเกี้ยว “พวกเจ้าอย่าเพิ่งไปไหน เดี๋ยวข้ากลับมาจัดการต่อ!”
เมื่อเขาเดินออกมานอกประตูจงฮันหลินก็ได้เห็นสภาพของตู้ซือชวนที่เนื้อหนังถูกตีจนเปิดอ้าในสภาพที่ดูไม่ได้
เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจมาก “ตู้ซือชวน ใครกันที่ทำเจ้าถึงขนาดนี้?”
แม้ว่าตู้ซือชวนจะเป็นคนที่ไม่ได้มากพรสวรรค์แต่เขาก็เก่งกาจในเรื่องควบคุมผู้คนและสามารถทำงานต่างๆ ให้เขาได้อย่างดี เพราะฉะนั้นจงฮันหลินจึงชอบใจตู้ซือชวนมาก
คิดจะทุบตีสุนัขของใครมันก็ต้องดูเจ้าของด้วย ใครจะไปคาดคิดว่าในนิกายเงาจันทร์นี้จะยังมีคนที่กล้ามาลงมือกับคนของจงฮันหลินได้ถึงขนาดนี้อยู่
“ข้าเอง”
จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวออกมาด้านหลังตู้ซือชวน
จงฮันหลินที่กำลังเตรียมพร้อมเขาโจมตีต้องสะดุ้งตัวกลับไปเมื่อได้เห็นใบหน้านั้น “จ-จ-เจ้า… ทำไมเจ้ายังไม่ตาย?”
“เจ้ายังไม่ตาย มีหรือข้าจะกล้าตายก่อน?”
เพียะ!
พูดยังไม่ทันขาดคำเย่หยวนก็ยกมือขึ้นตบออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
เสียงนั้นมันชัดเจนและสะท้าน!
เมื่อถูกโจมตีทีเผลอจงฮันหลินจึงต้องรับฝ่ามือนี้ของเย่หยวนเข้าไปเต็มหน้าจนฟันร่วงหายไปหลายซี่
แน่นอนว่าต่อให้เขาจะเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน มันก็คงไม่มีทางใดที่เขาจะหลบรอดฝ่ามือนี้ของเย่หยวนไปได้
ภาพนี้มันทำให้เหล่าศิษย์ที่เดินผ่านต้องหยุดหันมามองเห็นตาเดียว
“ใครกัน? ถึงกล้าไปตบหน้าจงฮันหลินเช่นนี้ มันเบื่อชีวิตมากแล้วหรือ?”
“ไม่เคยเห็นมาก่อน! ในหมู่ศิษย์ชั้นนอกมียอดคนเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“เมื่อกี้มันการโจมตีทีเผลอใช่ไหมล่ะ? ด้วยกำลังของจงฮันหลินมันไม่มีทางเลยที่ราชันพระเจ้าเก้าดาวเช่นนั้นจะเทียบเคียงจงฮันหลินได้”
…
จงฮันหลินล้มลุกคลุกคลานอยู่กับพื้นด้วยความมึนงงอย่างถึงที่สุด ตอนนี้เขาไม่อาจจะประคองตัวให้ลุกขึ้นยืนได้เลย
หลังมึนอยู่นานในที่สุดเขาก็กลับมาหันเจอร่างเย่หยวนอีกครั้งและกล่าวขึ้น “เจ้า… เจ้ากล้าตบข้า? ข้าขอบอกไว้เลยนะว่าเจ้า… เจ้าจะไม่ได้ตายดีแน่!”
เย่หยวนส่ายหัวออกมาพร้อมถอนหายใจ “คำพูดเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าเอง เชียนเย่ หรือแม้แต่เจียงเชอเหยียนต่างก็เคยพูดใส่ข้ามาหลายครั้ง แต่จนทุกวันนี้ข้าก็ยังอยู่ได้สบายดี”
จงฮันหลินหน้าถอดสีพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างจนแทบถลน
เขารู้ตัวดีว่ามิอาจเทียบเคียงฝีมือเย่หยวนได้ เขาจึงไม่ได้คิดที่จะต่อต้านใดๆ เลย
ตอนที่เย่หยวนเป็นราชันพระเจ้าหกดาว เขาที่เป็นราชันพระเจ้าเก้าดาวก็มิอาจต้านทานได้แม้แต่น้อยแล้ว
ตอนนี้เย่หยวนที่พัฒนาตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ บรรลุขึ้นมาเป็นถึงราชันพระเจ้าเก้าดาวได้ เขาที่เป็นแค่นภาสวรรค์ครึ่งก้าวย่อมไม่มีทางต่อต้านใดๆ ได้!
เรื่องแค่นี้จงฮันหลินย่อมรู้อยู่ในใจ
ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือการไปแจ้งเชียนเย่!
ตอนนี้เหล่าศิษย์จากนิกายบุปผาเหินต่างออกมาดูเรื่องราวตามๆ กันและจงฮันหลินก็ได้ส่งสัญญาณบอกศิษย์คนสนิทคนหนึ่งไป
ศิษย์คนนั้นเข้าใจได้ในทันทีและพุ่งตัวหายไป
มีหรือที่เรื่องนี้จะหลุดรอดสายตาเย่หยวนไปได้?
เพียงแค่ว่าเย่หยวนไม่คิดจะหยุดเขาและปล่อยให้ศิษย์คนนั้นไปรายงานเรื่อง
เพราะวันนี้เย่หยวนนั้นเดือดดาลกับเรื่องราวอย่างถึงที่สุด!
“ไปก้มกราบขอขมาพี่ข้าเสีย!” เย่หยวนบอก
จงฮันหลินผงะไปทันที เขาหันไปมองตามนิ้วของเย่หยวนที่ชี้ไปและอดไม่ได้ที่จะทำหน้าดำคร่ำเครียดออกมา
“ฮันยอง? เจ้าคิดจะให้ข้าไปก้มกราบขอขมาไอ้ขยะนั่น? ไม่มีทาง! หากเจ้ามีปัญญาก็สังหารข้าเสียเถอะ!”
จงฮันหลินยื่นคอออกมาด้วยท่าทางยอมตายดีกว่าต้องเสียเกียรติ เรื่องเลวร้ายถึงขนาดนี้แล้ว มันคงไม่มีทางเลวร้ายไปกว่านี้ได้
เว้นเสียแต่ว่าคำพูดนั้นมันจะทำให้ทุกคนที่มองดูเรื่องราวต้องอ้าปากค้าง
คนรอบๆ ที่มามุงดูนี้คือศิษย์ชั้นนอกทั้งหลาย พวกเขานั้นต่างรู้ดีว่าจงฮันหลินเก่งกาจแค่ไหนและปกติเป็นคนหยิ่งยโสไม่ยอมคนเพียงใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...