“แค่ใช้เจ้าไปส่งหินทองแค่ไม่กี่ก้อนเจ้ากลับใช้เวลาเสียมหาศาล! นี่เจ้าได้กินข้าวไหมเนี่ย? ไอ้เจ้าคนไร้ประโยชน์เอ้ย ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะทนอยู่ไปอีกทำไม? ไม่ตายๆ ไปให้พ้นเสียล่ะ?”
ราชันพระเจ้าเจ็ดดาวคนนี้ถือแส้ยาวไว้ในมือพร้อมฟาดมันลงยังร่างของชายร่างกำยำ
การฟาดนี้มันแสนรุนแรงจนแผลนั้นลึกถึงกระดูก
ปึง!
แค่นี้มันยังไม่พอที่จะระบายความไม่พอใจออกมาเขาจึงเลือกที่จะเตะเข้าที่ร่างของชายคนนั้นอีกครั้ง ส่งร่างใหญ่โตนั้นจนลอยลิ่วไป
เมื่อชายร่างกำยำคนนั้นร่วงลงถึงพื้นเขาก็ต้องกระอักเลือดออกมาคำโต
ตอนนี้ศิษย์ทั่วไปหลายต่อหลายคนกำลังยืนมองดูการกระทำของหัวหน้าอยู่ แต่ทุกคนกลับมองดูมันอย่างเคารพและไม่มีใครกล้าเดินออกมาห้ามสักคน
หัวหน้าคนนี้ใส่ชุดศิษย์ของยอดหทัยสวรรค์เป็นที่สะดุดตาอย่างมาก
ฮันยองนั้นลุกขึ้นยืนแทบไม่อยู่พร้อมสายตาที่จ้องมองกลับไปยังหัวหน้าคนนั้นอย่างเย็นชา เขายกมือขึ้นมาลูบคล้ำที่คางของตัวเอง
“โห ดื้อด้านไม่เลวนี่! ยังกล้าจ้องมองข้าแบบนั้นอีก? ข้าจะให้เจ้าได้มองเอง!”
เพียะ!
เสียงแส้ฟาดลงมาอีกครั้งทำให้เนื้อบนใบหน้าของฮันยองหลุดออกมาเป็นภาพที่แสนโหดร้ายและป่าเถื่อนจนเกินคน
หัวหน้าคนนั้นมีวิชาแส้ที่สูงส่งไม่น้อย ปราณเทวะที่ไหลลงมากับแส้นั้นมันมีปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หนักจนสังหารผู้คนแต่จะค่อยๆ ตัดทำลายชิ้นเนื้อและสร้างความเจ็บปวดอย่างมหาศาลแทน
ฮันยองมีใบหน้าที่ดำมืดพร้อมกัดฟันแน่น “ตู้ซือชวน ข้าขึ้นเขาไปส่งหินทองและได้เจอเข้ากับหลี่จินเหยาจากนั้นมันก็สั่งใช้งานข้าอีกครั้ง เจ้ายังจะมีหน้ามาบอกว่านี่มิใช่ฝีมือเจ้าที่จัดฉากขึ้นมาอีก?”
ตู้ซือชวนตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างมาก “ไอ้คนโอหัง เจ้าเป็นแค่ศิษย์ทั่วไปกลับกล้ามาทำตัวเช่นนี้ต่อหน้าศิษย์ชั้นนอกอย่างข้า! เจ้าไปกินใจหมีดีเสือที่ไหนมา?”
เพียะ!
พูดไปเขาก็ฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง
ตู้ซือชวนกล่าวออกมาด้วยท่าทางแสนดูถูก “เจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นยอดศิษย์อัจฉริยะคนนั้นอีกหรือ? เจ้ามันก็แค่ไอ้ขยะตัวหนึ่งแล้ว! เป็นได้แค่ขยะที่รอวันเน่าตาย! ฮ่าๆๆ…”
ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสที่ฮันยองได้รับมาจากจงฮันหลินเมื่อตอนนั้น ต่อให้จากนั้นเขาจะรักษาตัวกลับมาได้แต่เขาก็มิอาจกลับหวนคืนสู่จุดสูงสุดของตัวเองได้อีก
สภาพของฮันยองตอนนี้เขาเสียพลังบ่มเพาะไปมากและกลายเป็นแค่ราชันพระเจ้าสามดาวเท่านั้น
เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าตู้ซือชวน เขาย่อมไม่มีพลังใดๆ จะไปต่อต้านได้
ฮันยองกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าที่ดำมืด “ไอ้เจ้าสุนัขรับใช้ หากเจ้ามีปัญญาก็สังหารข้าสิ! ไม่เช่นนั้นสักวันหนึ่งเจ้าจะต้องเสียใจที่ไม่ยอมลงมือทำ!”
เขานั้นเป็นคนที่ดื้อด้านมาก แม้ว่าจะถูกเหยียดหยามสารพัดแต่เขากลับไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง
ตู้ซือชวนหัวเราะลั่น “สังหารเจ้า? ทำไมข้าต้องสังหารเจ้าด้วย? ตอนนี้ชีวิตข้ามันแสนสุขสบาย สังหารเจ้าไปก็อดสนุกพอดีสิ? ที่สำคัญศิษย์พี่จงยังสั่งให้ข้าคอยดูแลเจ้าให้ดีด้วย! แต่ตอนนี้ข้าเริ่มไม่พอใจขึ้นมาไม่น้อยแล้ว เจ้าจงรับความพิโรธของข้าไป!”
พูดจบตู้ซือชวนก็ฟาดแส้ลงมายังร่างของฮันยองราวกับงูพิษที่กำลังพุ่งเข้าฉกเหยื่อ
ชายคนนี้ดูอย่างไรก็เป็นยอดคนในวิชาการทรมาน การฟาดแต่ละครั้งนั้นมันล้วนทำให้เลือดเนื้อของฮันยองหลุดติดแส้ออกมาด้วย
เรื่องนี้มันอาจไม่ทำให้ถึงตาย แต่มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าตาย
ฮันยองนั้นถูกทำร้ายจนได้แต่กลิ้งเกลือกไปบนพื้น แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะร้องออกมาและอดทนอดกลั้นมันไว้
วุด!
เสียของแส้ถูกตีผ่านลมออกมา แต่คราวนี้มันกลับไม่ถูกเป้าหมาย
นั่นทำให้ตู้ซือชวนหน้าถอดสีทันที เขารู้สึกเหมือนตาเบลอๆ ไปนิดหน่อยก่อนจะพบว่าที่ด้านหน้าของเขานั้นปรากฎร่างของชายคนหนึ่งขึ้นมา
ชายคนนี้จับแส้ของเขาไว้มั่นอย่างที่ไม่ว่าตู้ซือชวนจะดิ้นรนแค่ไหนเขาก็ไม่อาจขยับเขยื้อนแส้ของตนได้เลย
ตู้ซือชวนหน้าแดงก่ำขึ้นมาเพราะแรงที่ใช้ก่อนจะตะโกนร้อง “ป-ปล่อยนะ!”
ดวงตาของเย่หยวนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชา ก่อนที่เขาจะสั่นข้อมือน้อยและปล่อยแส้หลุดกลับไป
ตู้ซือชวนนั้นตื่นตกใจเป็นอย่างมากและกล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นกลัว “เจ้า… เจ้าเป็นใคร ถึงกล้ามาทำตัวโอหังในยอดหทัยสวรรค์เช่นนี้? เจ้า… เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”
เย่หยวนตอบ “ข้ารู้ สุนัขรับใช้ของจงฮันหลิน!”
ตู้ซือชวนหน้าซีดลงทันที ตอนนี้ยังมีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนมาเพื่อหาเรื่อง
แต่เขานั้นไปไหนมาไหนด้วยความเป็นคนของนิกายบุปผาเหิน เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้คิดที่จะเกรงกลัวเย่หยวนแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...