“ข้า… ข้าไม่ตาย! ฮ่าๆๆ ข้าไม่ตายจริงๆ!”
ความรู้สึกตอนที่ถูกเศษดับนับร้อยนับพันนั้นพุ่งผ่านทะลุร่างไปยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
ตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองคงต้องตายแน่แล้ว
เว้นเสียแต่ว่าตอนนี้เขาจะกลับรอดมาได้
ที่ด้านข้างผู้อาวุโสเถากล่าวขึ้น “ใจเย็นก่อน ครานี้ผู้อาวุโสเจียงหงออกมาจัดการเรื่องเองมันย่อมไม่มีใครสังหารเจ้าลงได้!”
ความตื่นตกใจปรากฏออกมาเต็มใบหน้าของเชียนเย่ เพื่อเขาแล้วผู้อาวุโสถ่ายทอดถึงกับออกมารับหน้าให้แทน
เรื่องนี้มันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในสายตาของผู้อาวุโสถ่ายทอดอย่างมาก
ผู้อาวุโสถ่ายทอดนั้นปกติแล้วไปไหนมาไหนไม่มีใครรับรู้ได้ พวกเขาเหล่าศิษย์ทั้งหลายมิอาจติดต่อพวกท่านได้และย่อมไม่สามารถรู้ด้วยว่ายอดหลักกำลังต้องการอะไร
เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยอดดอกตูมสวรรค์ปกติแล้วผู้อาวุโสเถา ผู้อาวุโสแห่งโถงหน้าคนนี้จะเป็นคนจัดการ
“มีเรื่องแบบนั้นด้วย! นี่มันโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตเลยนี่นา ข้าอยากจะขอบคุณผู้อาวุโสเจียงหงท่าน สงสัยเหลือเกินว่าจะมีโอกาสนั้นไหม” เชียนเย่บอกอย่างตื่นเต้น
แต่ผู้อาวุโสเถากลับทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีตอบกลับมา “เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป วันนี้ยอดดอกตูมสวรรค์เราต้องเสียหน้าไปมาก เรื่องทั้งหมดทั้งสิ้นนี้มันเกิดเพราะคนนิกายบุปผาเหิน ที่ผู้อาวุโสเจียงหงออกมาจัดการเรื่องราวให้มันก็คงขัดใจตัวเขาเองอยู่ไม่น้อย ในวันหน้าเจ้าจงหมั่นพยายามฝึกฝนและกู้หน้ายอดดอกตูมสวรรค์เรากลับมาให้ได้ ทำเช่นนั้นได้ผู้อาวุโสเจียงหงก็คงพอใจเช่นกัน”
เมื่อเชียนเย่ได้ยินเช่นนั้นความตื่นเต้นดีใจใดๆ ที่เขาเคยมีมันก็จางหายไปสิ้น
“ไอ้เด็กเย่หยวนคนนั้น ต-ตายไหม?” เชียนเย่ถามขึ้น
“ตาย? หึๆ เรื่องของเจ้ามันยังไม่จบง่ายๆ หรอก!” ผู้อาวุโสเถาหัวเราะขึ้นมา
เชียนเย่สะดุ้งตัวขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน “ยังไม่จบ?”
ผู้อาวุโสเถาบอกเล่าเรื่องที่เย่หยวนท้าทายกลองเจ็ดดาวหมีใหญ่ให้ฟัง เรื่องนั้นมันทำให้เชียนเย่อดหัวเราะลั่นออกมาไม่ได้
“ฮ่าๆ ไอ้เด็กคนนี้มันฉลาดดีจริงๆ ถึงขั้นคิดจะใช้วิธีนี้ในการสังหารข้า! ข้าขอยอมรับว่ามันนั้นมากพรสวรรค์ แต่ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์แค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่ราชันพระเจ้า มีหรือที่มันจะตีกลองเจ็ดดาวหมีใหญ่ได้?”
เมื่อเชียนเย่ได้ยินว่าเย่หยวนไป ‘ทำเรื่องโง่ๆ’ นั้นเขาก็กล่าวออกมาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
เรื่องเช่นนี้ใครมันจะไปทำได้?
ผู้อาวุโสเถาหัวเราะขึ้น “ไอ้เด็กคนนี้มันก็ช่างเป็นคนรั้นไม่ยอมฟังใคร เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนที่ผู้คนได้ยินมันบอกเช่นนั้น ทุกคนมองมันด้วยสายตาแบบไหน”
ผู้ดูแลเถาเองก็ไม่ชอบใจในตัวเย่หยวนผู้ดื้อรั้นมาก
เขาและเชียนเย่หันไปมองหน้าพร้อมหัวเราะลั่นขึ้นพร้อมๆ กัน
ตึง!
จู่ๆ ก็มีเสียงกลองหนึ่งดังลอยทะลุฟ้าออกมา
ผู้อาวุโสเถาและเชียนเย่นั้นกำลังหัวเราะกันอยู่ เมื่อพวกเขาได้ยินปากที่อ้าหัวเราะอยู่นั้นก็ได้แต่อ้าค้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียนเย่ที่ตอนนี้ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความตื่นตกใจ
“ผู้อาวุโสเถา นี่… นี่มัน… เสียงตีอะไร?”
น้ำเสียงของเชียนเย่เปี่ยมไปด้วยความสั่นกลัวอย่างที่ไม่อาจปกปิดได้
ผู้อาวุโสเถาเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก ดวงตาของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นตกใจเช่นกัน “ไม่รู้ว่าในนิกายเงาจันทร์นี้มีคนตีกลองมากมายแค่ไหน แต่เสียงกลองที่ออกมาจากหุบเขาเจ็ดดารานั้นข้าย่อมจำมันได้แน่!”
เชียนเย่นั้นอายุน้อยและขาดประสบการณ์กว่าผู้อาวุโสเถามาก แต่เมื่อเขาได้ยินคำยืนยันจากผู้อาวุโสเถาใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลง
“เช่นนั้น… งั้นมัน… ไม่มี…”
เชียนเย่รู้สึกเหมือนปากคอร้อนเป็นไฟ ท่าทางยโสของเขาเมื่อสักครู่นั้นมันไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว
ตึง!
เสียงแรงยังไม่ทันหาย เสียงที่สองก็ดังตามขึ้นมา
แถมเสียงนี้มันยังดังกว่าเสียงก่อนหน้ามาก
ขณะเดียวกันนั้นเหล่าคนในนิกายเงาจันทร์ทั้งหลายต่างก็ตื่นตกใจ
เพราะนี่คือครั้งแรกของพวกเขาเลยที่ได้ยินเสียงกลองลั่นดังเช่นนี้ออกมาจากหุบเขาเจ็ดดารา
เสียงกลองนี้มันดังสนั่นราวเสียงฟ้าร้อง ราวกับว่านี่มันคือเสียงคำรามของสวรรค์
เสียงของมันนี้สามารถทำให้ทุกผู้คนได้ยินมันจากทุกซอกมุมของนิกายเงาจันทร์
ทุกคนที่ยอดหลัก ยอดรองทั้งเก้า รวมไปถึงยอดร้างนับร้อยและดินแดนในเทือกเขาเงาจันทร์ทั้งหมดต่างได้ยินเสียงของกลองนี้
เหล่าคนเดินออกมาจากโถง ออกมาจากถ้ำหลวงของตน พวกเขาทั้งหลายต่างหันไปมองดูที่หุบเขาเจ็ดดารากันอย่างมิได้นัดหมาย
เมื่อเป็นศิษย์นิกายเงาจันทร์แล้วพวกเขาย่อมรู้ดีว่าเสียงกลองนี้มันคืออะไร
พวกเขาแค่สงสัยว่ากลองนี้มันจะดังขึ้นมากี่ครั้ง
เวลานี้ทุกผู้คนต่างปล่อยปราณเทวะของตนออกมาตามจังหวะคลื่นของเสียงกลอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...