“พลังฝีมือของมันแสนจะอ่อนแอไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้มากมาย ข้าว่าให้เย่หยวนไปทั้งๆ อย่างนี้มันยังจะดีกว่าเสียอีก!”
“น่าเสียดาย พลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันสามารถเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ได้แล้วแท้ๆ แต่เขากลับยังไม่อาจบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นไปได้”
…
บนลานกว้างหน้าโถงใหญ่ของยอดหลัก ตอนนี้เหล่าศิษย์อาจารย์ทั้งหลายของนิกายต่างมาเพื่อส่งเหล่าศิษย์ที่จะได้ไปเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่
ศิษย์ที่จะได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้มันมีทั้งหมดสี่คนประกอบไปด้วยไป่หลี่ชิงหยาน เจียงเชอเหยียน อี้ชิงเซียงและซ่งถิง
เดิมทีซ่งถิงย่อมไม่มีโอกาสใดๆ ที่จะได้เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ แต่เมื่อเชียนเย่ตายลงไปมันจึงเกิดช่องว่างขึ้นมา
ด้วยข้อกำหนดด้านอายุแล้วทางนิกายจึงต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดรองลงมา และตัวเลือกนั้นมันก็มีเพียงแค่ซ่งถิงเท่านั้น
ซ่งถิงบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวได้เมื่อประมาณร้อยปีก่อน ตอนนี้พลังฝีมือของเขาจึงพัฒนาไปอย่างที่ตัวเขาคนก่อนเทียบไม่ติดฝุ่น
ซ่งถิงในตอนนี้มีท่าทางยโสและร่าเริงมาก เพราะไม่ว่าอย่างไรการได้เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่มันก็เป็นเรื่องที่แสนยิ่งใหญ่
อย่างน้อยๆ มันก็จะช่วยนิกายคชสารมารได้บ้าง
“หึ เย่หยวนจะเก่งกาจมากมายแล้วทำไม? อย่างน้อยๆ ในครั้งนี้มันก็ไม่มีโอกาสเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่!”
ซ่งถิงนั้นกล่าวขึ้นมาในใจ
เขารู้ดีว่าการที่ตัวเองได้เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่นั้นมันขัดใจผู้คนมากแค่ไหน แต่เป็นเย่หยวนเองที่ไม่มีปัญญาบรรลุขึ้นมา จะไปโทษใครได้?
อีกด้านตอนนี้ไป่หลี่ชิงหยานกำลังกวาดสายตามองไปทั่วฝูงชนที่มาส่ง
เจียงเชอเหยียนยิ้มออกมาทันทีที่เห็นสภาพนั้น “เลิกมองเถอะ ไอ้เด็กคนนั้นมันคงไม่มากหรอก การบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ด้วยเวลาเพียงสิบปีนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือว่าเจ้าคิดว่าเขาจะมาส่งเจ้ากัน?”
ไป่หลี่ชิงหยานตอบเบาๆ กลับมา “ก็เขาบอกว่าเขาจะบรรลุนี่!”
ไม่รู้ว่าทำไม แม้แต่ตัวไป่หลี่ชิงหยานเองก็ไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้แต่สายตาของนางก็ยังคงเฝ้ามองหาเย่หยวน
บางทีความคิดสมองของคนเรามันก็ช่างแปลกประหลาด
เจียงเชอเหยียนยิ้มออกมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน “แม้ว่าไอ้เด็กคนนั้นมันจะมีแนวคิดที่แข็งแกร่งแต่ความเร็วในการบ่มเพาะของมันก็ไม่ได้รวดเร็วมาก มันย่อมไม่มีทางบรรลุจากอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ด้วยเวลาแค่แน่ เจ้าไม่คิดว่าอย่างนั้นหรือ?”
แต่ไป่หลี่ชิงหยานก็ยังยืนกราน “คนอื่นทำไม่ได้ แต่เขานั้น… อาจจะทำได้?”
เจียงเชอเหยียนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนี “นังเด็กโง่คนนี้นี่!”
การไปร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ครั้งนี้จะถูกนำไปโดยผู้อาวุโสถ่ายทอดประจำยอดพรรณสวรรค์นามซู่เหยียน
เพราะครานี้ยอดพรรณสวรรค์นั้นได้มีศิษย์เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ถึงสองคน เขาในฐานะผู้อาวุโสถ่ายทอดประจำยอดย่อมต้องรู้สึกภูมิใจ
เขากล่าวคำปลุกใจนิดหน่อยก่อนจะสะบัดแขนบอก “ออกเดินทาง!”
ไป่หลี่ชิงหยานหน้าเสียลงและถอนหายใจยาว “สุดท้ายก็ไม่มีจริงๆ!”
พูดจบนางก็ตามซู่เหยียนบินขึ้นฟ้าไป
“รอก่อน!”
เวลานั้นเองที่มีร่างหนึ่งพุ่งตัวออกมากลางอากาศปิดทางของผู้คนทั้งหลายไว้
“เย่หยวน! เขา… เขาบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ได้จริง!”
“น่าเหลือเชื่อ! เวลาแค่สิบปีเขากลับบรรลุขึ้นสองขั้นมาได้จนถึงอาณาจักรนภาสวรรค์!”
“หึๆ ซ่งถิงมันคงเจ็บใจมากสิใช่ไหม? เรื่องราวที่แน่นอนอยู่ตรงหน้าจู่ๆ ก็หายวับไปกับตา”
“สมน้ำหน้ามัน! ไอ้หมอนี่มันดูโอหังอวดดีขึ้นมากตั้งแต่วันที่มันรู้ตัวว่าตัวเองได้สิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่”
…
ตอนนี้ใบหน้าของซ่งถิงนั้นแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูก เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะสามารถบรรลุขึ้นมาได้ในวินาทีสุดท้ายเช่นนี้!
เท่านี้สิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ของเขาก็คงปลิวหายไปกับสายลมแล้ว
เรื่องเช่นนี้มันยากที่จะยอมรับได้เสียจริง
เจียงเชอเหยียนเองก็มีสีหน้าที่ดูไม่จืดไม่แพ้ซ่งถิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...