ครึ่งปีมานี้เย่หยวนใช้เพียงดาบเดียวฟาดฟันใส่พวกเขามาตลอด
ดาบเดียวนี้มันสุดแสนที่จะรุนแรง มากพอที่จะพรากชีวิตของพวกเขาได้ง่ายๆ
ตอนแรกพวกไป่หลี่ชิงหยานทั้งหมดไม่อาจขยับตัวได้แม้แต่น้อย
หากเย่หยวนคิดอยากสังหารจริง พวกเขาคงได้ตายจนแม้แต่วิญญาณก็ไม่เหลือรอด
จะบอกว่าเวลาครึ่งปีมานี้เป็นการไปเที่ยวประตูนรกในทุกๆ วันก็ไม่ผิดนัก
ตอนเริ่มต้นกันใหม่ๆ จิตวิญญาณการต่อสู้ของอี้ชิงเซียงและเจียงเชอเหยียนถึงกับแทบพังทลาย
ด้วยพลังดาบที่รุนแรงและรวดเร็วเช่นนั้น พวกเขาย่อมไม่มีทางใดที่จะต่อต้านได้เลย
พลังที่เหนือล้ำนี้มันทำให้ผู้พบเจอรู้สึกสิ้นหวังหมดหนทาง
ตั้งแต่เข้านิกายมาพวกเขาทั้งหลายต่างก็คิดว่าตัวเองเป็นยอดอัจฉริยะสวรรค์ส่ง วางตัวเองไว้อย่างสูงส่งเหนือหัวทุกผู้คน มีหรือที่พวกเขาจะเคยคาดคิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้แก่คนรุ่นเดียวกันอย่างย่อยยับเช่นนี้?
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป พวกเขาก็ยิ่งเคยชิน
ตอนนี้พวกเขาเริ่มเข้าใจความแข็งแกร่งของเย่หยวนและพยายามหาทางที่จะหลบเลี่ยงมัน
เป้าหมายของเย่หยวนนั้นง่ายดาย ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถบอกยอมแพ้ได้มันก็เพียงพอ
และวันนี้อี้ชิงเซียงก็ทำได้จริง!
ในความเป็นจริงแล้วเวลาครึ่งปีที่ผ่านพวกเขาทั้งหลายนั้นได้พัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นไปอย่างมากมายมหาศาล เพียงแค่ว่าพวกเขาทั้งหลายไม่มีเวลาไปมองดูเรื่องนั้นก็เท่านั้น
หยางเชินอยู่นิ่งบนสังเวียน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความโกรธแค้น
เย่หยวนสังหารศิษย์นิกายสว่างชัดไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่เขากลับไม่อาจสังหารอีกฝ่ายได้สักคน
ความอับอายขายหน้านี้มันทำให้เขาแทบคลั่ง
‘อ้าก!’
จู่ๆ หยางเชินก็ร่ำร้องขึ้นมาพร้อมจ้องมองเย่หยวน “ครั้งหน้าพวกเจ้าไม่โชคดีอีกแน่!”
เย่หยวนมองดูหยางเชินและตอบกลับไป “แม้ว่าแนวคิดแห่งกาลเวลามันจะแข็งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่เจ้ายังขาดการฝึกฝน ไม่มีปัญญาจะสังหารผู้คนในดาบเดียว”
พูดจบเย่หยวนก็พาอี้ชิงเซียงที่บาดเจ็บหนักกลับไป
“แนวคิดแห่งกาลเวลา! เป็นแนวคิดแห่งกาลเวลาจริงหรือ!”
“ไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกเลยว่าทำไมอี้ชิงเซียงถึงได้ยืนนิ่งเช่นนั้น ที่แท้มันคือแนวคิดแห่งกาลเวลา!”
“พระเจ้าช่วยแนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลา สองแนวคิดสุดยอดนี้ได้มาเจอกันในชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่แล้ว!”
“น่าเสียดายที่หยางเชินไม่อาจสังหารอี้ชิงเซียงลงได้ ชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่ในครั้งนี้นิกายสว่างชัดสูญเสียไปมากจริงๆ”
…
หลังจากได้ยินคำของเย่หยวนเหล่าผู้คนที่เฝ้ามองก็เริ่มพูดคุยกันอย่างออกรส
พวกเขาไม่ได้รับรู้เลยว่าเมื่อสักครู่นี้หยางเชินได้ใช้แนวคิดแห่งกาลเวลาออกมา
เพราะว่าแนวคิดแห่งกาลเวลานั้นมันเล็งเป้าไปที่อี้ชิงเซียงคนเดียว มันจึงเป็นการยากมากที่คนนอกจะสัมผัสได้ถึงมัน
แน่นอนว่าคนที่อ่อนไหวถึงพลังของเต๋าสวรรค์ย่อมสามารถสัมผัสถึงมันได้แต่แรก
เช่นเย่หยวน
หยางเชินนั้นพูดจาวางท่าใหญ่โต แต่สุดท้ายกลับไม่อาจลงมือทำได้
แม้ว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่เมื่อเริ่มรอบต่อไปอี้ชิงเซียงก็กลับมาขึ้นสังเวียนได้อย่างสมบูรณ์พร้อม
การปรากฏตัวนี้ของเขามันทำให้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้ทุกผู้คนได้รู้แล้วว่านิกายเงาจันทร์นั้นมีจอมเทพโอสถผู้เก่งกาจอยู่เบื้องหลัง
และจอมเทพโอสถผู้นั้นก็คือเย่หยวน!
ตราบเท่าที่ศิษย์นิกายเงาจันทร์ไม่ตายลง การแข่งรอบต่อไปพวกเขาก็จะกลับมาได้อย่างสมบูรณ์พร้อม
นั่นทำให้เหล่าศิษย์ของนิกายอื่นๆ ต่างอิจฉานิกายเงาจันทร์อย่างถึงที่สุด
ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยในเรื่องที่นิกายเงาจันทร์ได้ขี้นไปอยู่สวนป่าบนอีกต่อไปแล้ว พวกเขานั้นขึ้นไปอยู่ได้เพราะความสามารถมิใช่โชคช่วยเลย
หรือจะบอกว่า เย่หยวนนั้นมีคุณสมบัติมากพอที่จะขึ้นไปอยู่สวนป่าบนก็ไม่ผิด
ในด้านวรยุทธต่อสู้ เขานั้นสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ
ในด้านโอสถ เขานั้นคือคนที่สามารถหลอมโอสถระดับห้าที่มีความยากสูงๆ ได้ง่ายๆ
คนเช่นนี้แม้จะเอาหยางเชินไปเทียบมันก็ไม่มีทางเทียบเคียงได้
โชค?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...