หนึ่งนั้นดุร้าย อีกหนึ่งนั้นเยือกเย็น
หยางเชินนั้นมีคลื่นพลังที่แสนหนักหน่วงส่วนเย่หยวนนั้นมีคลื่นพลังที่แสนมั่นคงดั่งขุนเขา
นี่คือศึกตัดสินระหว่างนิกายสว่างชัดและนิกายเงาจันทร์ และยังเป็นการปะทะของสองสุดยอดแนวคิด
โอกาสเช่นนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
“เย่หยวน หวังว่าเจ้าจะไม่คิดยอมแพ้ไปก่อนนะ! วันนี้มาสู้กันให้ตายไปข้าง เจ้ากล้ารับคำไหม?” หยางเชินถามขึ้นมาด้วยสายตาที่จ้องมองเย่หยวน
ไม่อาจฆ่าคนอื่นได้ เขาก็ขอสู้กันให้ตายไปข้างกับเย่หยวนเลยจะดีกว่า
หยางเชินนั้นมั่นใจในพลังฝีมือของตัวเองมาก มันไม่มีทางใดที่เขาจะพ่ายแพ้แก่เย่หยวนแน่
เย่หยวนตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ย่อมได้”
หยางเชินหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ เย่หยวน ความอับอายที่เจ้าสร้างให้แก่นิกายสว่างชัดนี้ วันนี้ข้าจะนำมันคืนให้เจ้าเอง! เจ้าตายแน่!”
เย่หยวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม “เรื่องนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีปัญญาหรือเปล่าด้วย!”
หยางเชินหัวเราะ “เจ้ามีสุดยอดแนวคิด ข้าเองก็มีสุดยอดแนวคิด ที่สำคัญข้ายังมีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าเจ้าเกือบสองดาว! เจ้าคิดจะเอาอะไรมาชนะข้า? วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้รับรู้ถึงพลังของข้าเอง! พลังที่แท้จริงของอันดับหนึ่งแห่งนิกายสว่างชัด!”
เมื่อต้องมาเจอกับหยางเชิน เรื่องเดียวที่เย่หยวนเสียเปรียบอย่างมากนั้นก็คือพลังการบ่มเพาะ
เย่หยวนนั้นเป็นแค่นภาสวรรค์หนึ่งดาวขั้นต้น ส่วนหยางเชินนั้นเป็นนภาสวรรค์สองดาวขั้นสุด นับแล้วมันก็เรียกได้ว่าห่างกับเกือบสองดาว
สองดาวนี้มันอาจจะไม่ได้แตกต่างมากกับอาณาจักรพระเจ้าช่วงต้นๆ แต่ในอาณาจักรนภาสวรรค์นี้สองดาวมันเป็นความห่างที่ทิ้งชั้นกันอย่างขาดลอย
ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะอย่างไป่หลี่ชิงหยานนางเองก็ต้องใช้เวลามากมายนับร้อยๆ ปีกว่าจะขึ้นสองดาวไปได้ แน่นอนว่าช่องว่างมันต้องมากมายมหาศาล
“ตาย!”
หยางเชินพุ่งร่างเข้ามาหาเย่หยวนพร้อมเสียงร้อง เขายกดาบในมือขึ้นพร้อมฟาดฟัน
เจ้าดาบนี้มันแฝงมาด้วยจิตที่หนักแน่น!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือพลังโลกของหยางเชินที่แสนจะรุนแรง มันเข้าปกคลุมทุกพื้นที่ราวกับนี่เป็นโลกของเขาเองและไม่เหลือเว้นช่องว่างให้เย่หยวนรอดออกไปได้เลย
ต่อหน้าดาบคมนี้ เย่หยวนดูอ่อนแอไปทันตา
แต่ตอนนั้นเย่หยวนก็ขยับร่างบ้าง
ดาบฝ่าน้ำค้างแข็งขยับพร้อมร่างของเย่หยวนที่ตัดผ่านมิติมารับดาบของหยางเชินไว้
ดาบฝ่าน้ำค้างแข็งนี้คือสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ!
หลังจากดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าหักลงเย่หยวนก็ไม่ได้มีอาวุธดีๆ ติดมือไว้ใช้เลย
จนหลังจากที่เย่หยวนบรรลุระดับห้ามาได้ เย่หยวนจึงสามารถเปิดโถงบัลลังก์ม่วงชั้นที่สองออกและได้รับสมบัติภายในนั้นมา
เขาเลือกที่จะหยิบสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำหนึ่งชิ้นออกมาและมันก็คือดาบฝ่าน้ำค้างแข็งเล่มนี้
พร้อมๆ กันนั้นลายสีฟ้าครามก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเย่หยวน
ดาบเดียวที่ฟาดฟันออกมานี้ มันกลับตัดผ่านพลังโลกอันหนาแน่นของหยางเชินได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีทีท่าว่าจำลำบากใดๆ เลย
‘เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!’
แนวคิดที่แสนรุนแรงถูกปล่อยออกมาจนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นติดๆ
ในวินาทีนั้นคนทั้งสองกลับแลกกระบวนท่ากันไปแล้วนับสิบ พลังของแนวคิดที่ทั้งสองมีปะทุขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เสมอ!
หยางเชินหรี่ตาเล็กทันที เขานั้นมีพลังบ่มเพาะที่เหนือล้ำกว่าเย่หยวนแท้ๆ แต่พลังโลกของเขากลับไม่อาจขัดขวางใดๆ เย่หยวนได้แม้แต่น้อย
เจ้าลายสีฟ้านี้มันคืออะไรกัน?
ด้านนอกสังเวียนทุกผู้คนเองก็ตื่นตะลึงอย่างมาก
ระดับการต่อสู้ของคนทั้งสองนี้มันเหนือล้ำกว่าที่ใครจะจินตนาการถึงได้
ในหมู่คนทั้งหกสิบสี่ที่มาเข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่นี้ พวกเขาทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะ
แต่คนทั้งสองนี้อยู่เหนือล้ำกว่ายอดอัจฉริยะใดๆ เป็นตัวตนที่อยู่ในอีกระดับหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...