จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1838

สรุปบท ตอนที่ 1838 บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ: จอมเทพโอสถ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1838 บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ – จอมเทพโอสถ โดย Internet

บท ตอนที่ 1838 บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ ของ จอมเทพโอสถ ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 1838 บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ
“พลังแห่งห้วงมิติที่หนาแน่นนัก!”

คนทั้งหลายเดินมาจนถึงด้านหน้าทางเข้าและเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงพลังแห่งห้วงมิติปะทะเข้าร่างในทันทีที่มาถึง

ตู้หรูเฟิงพยักหน้ารับ “ดวงใจมิติอนัตตานั้นคือแหล่งกำเนิดมิติที่มีมิติอนัตตาก่อไผ่ทั้งหมดตั้งอยู่แน่นอนว่ามันต้องมีพลังมิติที่แสนรุนแรง เจ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับแนวคิดแห่งห้วงมิติมากที่สุด บางทีเจ้าอาจจะได้ประโยชน์ใดกลับไปก็ได้”

เย่หยวนพยักหน้ารับด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่น้อย

ขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าไปด้านในก็ปรากฏสองเงาร่างขึ้นมาขวางทางไว้เสียก่อน “หยุดก่อน! พวกเจ้าเป็นใคร?”

คนทั้งสองใส่ชุดสีดำสนิทพร้อมด้วยคลื่นพลังที่แสนรุนแรง

เมื่อคนทั้งสองปรากฏตัวขึ้นเย่หยวนก็ต้องเบิกตากว้าง

แนวคิดแห่งห้วงมิติ!

คนทั้งสองรู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ ที่สำคัญยังบรรลุมันได้ถึงขั้นสูงด้วย

ตู้หรูเฟิงกล่าวขึ้น “กงเหวิน กงเฉิน พวกท่านลืมหน้าข้าไปแล้วเรอะ?”

“อ่า…ที่แท้เป็นอาจารย์ตู้นี่เอง! ท่านเป็นแขกที่ไม่ได้มาบ่อยนัก มีเรื่องใดกัน?” กงเหวินหัวเราะถามขึ้น

ตู้หรูเฟิงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “เจ้ารู้ใช่ไหมว่างานชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่รอบพันปีมันเคลื่อนมาถึงแล้ว? และข้าก็ได้รับหน้าที่นี้มา ข้าจึงพาคนทั้งหลายที่ผ่านเข้าวิหารมายังดวงใจมิติอนัตตานี้เพื่อเรียนรู้มัน”

กงเหวินหันมองดูเย่หยวนและคนอื่นๆ พร้อมขมวดคิ้วแน่น “ที่แท้คนเหล่านี้คือศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าวิหารมานี่เอง แต่… งานชุมนุมครั้งนี้ดูท่าจะคุณภาพต่ำไปหน่อย ทำไมจึงมีนภาสวรรค์หนึ่งดาวขั้นกลางหลุดเข้ามาได้กัน?”

ในเวลาหนึ่งปีนี้เหล่าศิษย์ทั้งหลายที่เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่ล้วนแล้วแต่พัฒนาตัวเองไปอย่างมาก

เย่หยวนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่นานมานี้เขาได้พัฒนาตัวเองและทำการบรรลุขึ้นมา ตอนนี้เขาจึงกลายเป็นนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวขั้นกลางแล้ว

แม้ว่ามันจะยังเป็นแค่ขั้นเล็กๆ แต่ความเร็วในการบ่มเพาะระดับนี้มันก็เกินกว่าจะเชื่อได้แล้ว

เพราะยังไงเสียหากยอดยุทธนภาสวรรค์คนอื่นๆ คิดจะบรรลุจริงๆ พวกเขาก็ต้องใช้เวลานับพันๆ ปีหรืออาจจะเป็นหมื่นปี

แต่คำพูดนี้ของกงเหวินมันทำให้ทุกคนแสดงสีหน้าแปลกๆ ออกมา

คุณภาพต่ำ?

เย่หยวนนั้นจะคุณภาพสูงจนเกินไปต่างหาก!

ตู้หรูเฟิงหัวเราะบอก “หึๆ พี่กงเหวินท่านมองผิดแล้ว เย่หยวนนั้นเอาชนะทุกผู้ในงานชุมนุมการต่อสู้แห่งก่อไผ่รอบนี้มาได้และสมควรได้รับตำแหน่งอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย”

กงเหวินผงะไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยท่าทางดูถูกอีกครั้ง “เขานี่หรือที่หนึ่ง? หึๆ ดูท่าศิษย์ในฤดูกาลนี้มันจะแย่เสียยิ่งกว่าที่ข้าคิด!”

ตู้หรูเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรกลับไป เพราะพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นไม่ได้เห็นกับตามันย่อมไม่มีใครคิดเชื่อ

‘เหอะ!’

ตอนนั้นเองที่ตงน้อยหัวเราะเย้ยขึ้นมา

เป็นเวลานั้นเองที่พวกกงเหวินได้เห็นว่าแท้จริงแล้วกลุ่มคนนี้มีผู้ติดตามมาด้วย

แต่ว่าเมื่อพวกเขาเห็นหมูสมบัติในอ้อมอกของเด็กน้อยสีหน้าของพวกเขาทั้งสองกลับซีดลงทันที

“เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระเถอะ รีบๆ เปิดให้เราเข้าไปด้านในได้แล้ว” ตู้หรูเฟิงบอก

กงเหวินเองก็ไม่คิดจะพูดตอบใดๆ กลับมา รีบหยิบอาวุธวิเศษสองชิ้นออกมาเปิดผ่าประตูม่านพลังออก

ตู้หรูเฟิงบอก “พวกเจ้าเข้าไปก่อนเถอะ ข้าจะตามไปทีหลัง”

เย่หยวนหรี่ตาลงทันทีอย่างที่ไม่มีใครอาจเข้าใจความคิดของเขาได้

แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังเดินเข้าม่านพลังไปกับคนอื่นๆ

หลังจากเหล่าศิษย์ไปแล้วกงเหวินก็พูดขึ้นมา “นั่นมัน… หรือว่าเด็กคนนั้น… จะเป็นท่านผู้นั้น?”

ตู้หรูเฟิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เรื่องราวของท่านเจ้าเกาะพวกเจ้าเองก็ย่อมรู้ดี เรื่องครั้งนี้อย่าได้นำไปแพร่งพรายอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น… ผลที่ตามมามันจะหนักหนาจนพวกเจ้าไม่อาจต้านทานได้แน่”

คนทั้งสองเบิกตากว้างและตอบกลับมาอย่างพร้อมเพรียง “แน่นอน!”

บนมิติอันว่างเปล่านี้มีก้อนผลึกขนาดใหญ่วางตั้งอยู่

เมื่อได้เห็นหัวใจของมิติอนัตตาเย่หยวนก็เริ่มคิดหนักขึ้นมา

แนวคิดแห่งห้วงมิติของเย่หยวนนั้นมันหยุดอยู่ที่สามดาวมานานแสนนาน วันนี้เมื่อต้องพบเจอกับพลังแห่งห้วงมิติที่รุนแรงขนาดนี้เขาจึงสามารถเข้าใจและสามารถบรรลุได้ในทันที

เมื่อคนอื่นๆ เห็นภาพนี้พวกเขาต่างตื่นตกใจจบหุบปากที่อ้าค้างไม่ลง

หลัวเจินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ!”

คำพูดที่เขาบอกออกมานี้มันช่างขื่นขมเสียจริงๆ

เวลาพันกว่าปีมานี้เขาได้รับชื่อของยอดอัจฉริยะอย่างเสมอมา แม้แต่ตัวเขาเองก็คิดเช่นนั้น

ไม่ว่าจะด้านความเร็วในการบ่มเพาะหรือความเข้าใจในแนวคิด เขาคิดว่าตัวเองนั้นจะไม่มีทางแพ้พ่ายให้แก่ใครอย่างแน่นอน

จนเขาได้มาเห็นเย่หยวนทำการบรรลุในวันนี้ มันเป็นภาพที่ทำลายความมั่นใจใดๆ ที่เขาเคยมีลงจนสิ้น

คนทั้งสี่รวมไปถึงไป่หลี่ชิงหยานเองก็รู้สึกเช่นนั้นอยู่ลึกๆ ในหัวใจเช่นกัน

“นี่มันไม่ใช่แนวคิดทั่วๆ ไป แต่เป็นหนึ่งในสุดยอดแนวคิด! เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!” หลี่หลงร้องขึ้นราวกับคนเสียสติ

ภายใต้สายตาของทุกผู้คนเย่หยวนก้าวเท้าเดินเข้าไปจนร่างหายไปกับตา

เย่หยวนเข้าไปไปหนึ่งกับความว่างเปล่า

ตอนนั้นเองที่ตู้หรูเฟิง กงเหวินและกงเฉินก็เดินตามเข้ามาพอดี และได้ทันเห็นการบรรลุของเย่หยวนและภาพที่เขาเดินเข้าสู่ความว่างเปล่านั้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“นี่มัน… นี่มันแนวคิดแห่งห้วงมิติ! เขาคนนั้นบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติสี่ดาว! ไอ้เด็กคนนี้มันเก่งกาจถึงขั้นนี้เลยหรือ?” กงเหวินร้องบอก

“ความเข้าใจที่สั่งสมของเขาปะทุขึ้นเมื่อได้เจอกับพลังแห่งห้วงมิติของดวงใจมิติอนัตตา เขาสามารถวิเคราะห์พลังแห่งห้วงมิติได้ในทันทีที่เห็นมันและยังเข้าใจมันอย่างดี! เราไม่มีทางเทียบเคียงกับเด็กคนนี้ได้เลย!” กงเฉินบอก

ตอนนี้แม้แต่ตู้หรูเฟิงก็ตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด

เขารู้ดีว่าเย่หยวนน่าจะได้เข้าใจเต๋ามากขึ้นบ้างแต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่วินาทีแรกเช่นนี้

คนอื่นๆ ยังไม่ทันเริ่มวิเคราะห์แต่เขากลับเข้าใจไปแล้ว!

………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ