จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1839

ตอนที่ 1839 ลักพาตัวเทพสวรรค์
ด้านในม่านพลังนั้นกงเหวินและกงเฉินมองดูเย่หยวนที่ด้านบนอย่างอิจฉาริษยา

“ชิๆ เราสองพี่น้องใช้เวลากว่าสี่แสนปีจึงจะบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติสี่ดาวได้! ไอ้เด็กคนนี้อายุแค่พันกว่าปีกลับสามารถทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว!” กงเหวินบอก

ตระกูลกงนั้นเป็นตระกูลที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลดวงใจแห่งมิติอนัตตามารุ่นต่อรุ่น พวกเขาจึงมีความได้เปรียบในด้านการทำความเข้าใจศึกษาแนวคิดแห่งห้วงมิติ

ที่สำคัญพี่น้องกงคู่นี้ยังถือได้ว่าเป็นยอดคนของตระกูลกงด้วย

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยังเริ่มบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติได้เมื่อเขาอยู่ในอาณาจักรนภาสวรรค์ขั้นปลายแล้ว

ที่สำคัญเวลาที่พวกเขาใช้มันยังแสนจะยาวนาน!

แต่เย่หยวนคนนี้ที่มีอายุแค่พันกว่าปีกลับสามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องใช้เวลากว่าสี่แสนปีเพื่อศึกษา

ปรากฏการณ์เช่นนี้มันคงได้แต่พูดว่าเป็นสัตว์ประหลาด

ตงน้อยหันมาบอก “ใครกันนะที่มันบอกว่าศิษย์ครั้งนี้มีคุณภาพต่ำ?”

กงเหวินตัวแข็งทื่อไปทันทีก่อนจะพูดขึ้นอย่างเขินอาย “นายท่าน ข้า… จะรู้ได้อย่างไรกัน?”

ตงน้อยหัวเราะบอก “ไม่รู้ก็อยากพูด คนบางคนนั้นคือตัวตนที่ทั้งชีวิตพวกเจ้าทำได้แค่เฝ้ามอง เพราะฉะนั้นจงอย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก”

กงเหวินนั้นแสดงท่าทีสำนึกผิดออกมาอย่างถึงที่สุด “ขอรับนายท่าน! กงเหวินจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้อีกแล้ว!”

ตอนนั้นเองที่เย่หยวนบนมิติว่างเปล่านั้นได้ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมถอนหายใจยาว “แนวคิดแห่งห้วงมิตินี้มันช่างเหนือล้ำ การทำความเข้าใจของข้าคงจบลงแค่นี้”

เมื่อพี่น้องกงเหวินได้ยินพวกเขาก็ร้องพ่นคำด่าทอออกมาในทันที “ไอ้เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าคิดท้าทายพวกเราอย่างนั้นหรือ? จากสี่ดาวขั้นต้นไปจนถึงขั้นสุดนั้นพวกเราใช้เวลากว่าห้าหมื่นปีนะ!”

ใช้เวลากว่าสามปีในที่สุดแนวคิดแห่งห้วงมิติของเย่หยวนก็บรรลุขึ้นมาถึงสี่ดาวขั้นสุดและไม่อาจจะพัฒนาไปได้อีก

เย่หยวนแค่บ่นออกมาอย่างไม่มีเจตนาใดแอบแฝง แต่พี่น้องกงเหวินกลับคิดว่ามันเป็นความรวดเร็วที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์จนทำให้ผู้คนที่ได้ยินต้องรู้สึกสิ้นหวัง

เย่หยวนขยับร่างและเมื่อเขาปรากฏกายออกมาอีกครั้งเขาก็มาอยู่ข้างๆ ตงน้อยเสียแล้ว

แนวคิดแห่งห้วงมิติสี่ดาว เคลื่อนย้ายมิติ!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนสามารถเคลื่อนตัวผ่านห้วงมิติได้แต่มันก็ได้แต่ในระยะไม่ไกลมาก

แต่ตอนนี้เย่หยวนสามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะนับหมื่นกิโลเมตรเพียงแค่คิดอยากไป แน่นอนว่ามันย่อมเทียบกับสภาพก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย

ยอดฝีมือนภาสวรรค์ส่วนมากก็พอจะใช้พลังแห่งห้วงมิติและทะลุผ่านมิติได้ในระดับหนึ่ง แต่พลังของพวกเขาเหล่านั้นมันต่างจากเย่หยวนราวฟ้ากับเหว

“ตงน้อย เจ้าตามข้ามาหน่อย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า” เย่หยวนเปิดปากพูดขึ้น

ตงน้อยแสดงท่าทีมึนงงออกมาเพราะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนกำลังคิดวางแผนอะไร แต่สุดท้ายก็ยังเดินตามเขาไป

“อะไรเล่า? เจ้ามีเรื่องใดก็รีบๆ พูดเสีย!” คนทั้งสองเดินมาจนถึงที่ไร้ผู้คนและตงน้อยก็ถามขึ้นอย่างหมดความอดทน

เย่หยวนหันมายิ้มให้ตงน้อยก่อนจะขยับเคลื่อนร่างราวสายฟ้าสกัดจุดบนร่างของตงน้อยไปหลายที

ตงน้อยหน้าถอดสี ตอนนี้เขาไม่อาจขยับไหวร่างกายได้เลย

“เด็กน้อย เจ้ารู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?” ตงน้อยถามขึ้นด้วยเสียงจริงจัง

เย่หยวนยิ้ม “อย่าเพิ่งกังวลไป ข้าแค่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย ท่านเทพสวรรค์!”

ตงน้อยผงะไปทันทีที่ได้ยิน “เจ้าพูดเรื่องอะไร? ข้าไม่เข้าใจ!”

เย่หยวนหัวเราะออกมา “คนตรงอย่างเราๆ ย่อมไม่ต้องพูดอ้อมค้อมให้มากความ ท่านเทพสวรรค์ท่านไม่ต้องแสร้งทำตัวอีกแล้ว ตอนที่เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายเห็นท่านคนพวกนั้นต่างแสดงท่าทางประหลาดออกมา หากข้าไม่อาจมองเรื่องนี้ออกได้ข้าก็คงโง่งมจนเกินทนแล้ว”

เพราะแท้จริงแล้วเย่หยวนรู้สึกได้มานานแล้วว่าตงน้อยนั้นมีอะไรแปลกๆ เขามักบอกว่าหมูสมบัติคือสัตว์เลี้ยงของเขา แต่มีหรือที่สัตว์เลี้ยงแปลกประหลาดเช่นนี้จะถูกส่งมอบมาให้เด็กตัวน้อย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ