เขานั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ แม้ว่าตอนนี้พลังฝีมือการบ่มเพาะของเขาจะไม่เป็นอย่างเดิมแล้วแต่เขาก็ไม่คิดจะยอมให้ใครมาเล่นหัวง่ายๆ
เขาไม่คิดว่าเย่หยวนจะกล้าลงมือทำอะไรต่อเขาจริงๆ
ตราบเท่าที่คนอื่นๆ รู้ถึงเรื่องนั้น เย่หยวนต้องตายลงแน่
มีหรือที่ตงน้อยจะยังมีท่าทางสดใสเหมือนเด็กๆ อยู่? ตอนนี้สภาพของเขานั้นทั้งเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และดูมากเล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก
หมูสมบัติหันไปมองดูตงน้อยด้วยความสงสาร มันเป็นท่าทางที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามากอดอุ้มมัน
แต่ตงน้อยกลับตะโกนบอก “เจ้าหมูโง่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า กลับมานี่!”
หมูสมบัติส่ายหัวออกมาอย่างรุนแรงและยังคงเกาะขาเย่หยวนไว้อย่างไม่คิดปล่อย
เย่หยวนยิ้มตอบ “อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์! ท่านไม่คิดที่จะก้าวขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์บ้างหรือ?”
คำพูดนี้ทำให้ตงน้อยเปลี่ยนสีหน้าไปทันที
แต่ไม่นานเขาก็กลับมาหัวเราะเย้ย “หึ อาณาจักรเทพสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้า นักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์จะมาสัญญาอะไรให้แก่ข้าได้หรอก”
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและคงรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ “มิติอนัตตาก่อไผ่นั้นมันก็เป็นเพียงแค่โลกใบแคบๆ แค่ส่วนเล็กๆ ที่เทียบเคียงมหาพิภพถงเทียนไม่ได้ แม้ท่านจะเป็นตัวตนที่ราวกับเทพเจ้าในมิตินี้ สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่การหลอกตัวเองและคนอื่นมิใช่หรือ? ที่สำคัญสภาพของท่านในวิหารตอนนี้มันก็คงไม่ดีนักใช่ไหมล่ะ?”
ตงน้อยหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยิน เย่หยวนนั้นมีทักษะการสังเกตและวิเคราะห์ที่แม่นยำมาก
เขาย่อมไม่เคยพบเจอกับเหล่าผู้ปกครองวิหารมากก่อนแน่นอนและย่อมไม่มีทางรู้สถานการณ์ภายในของวิหาร แต่เพียงแค่ใช้การเดาวิเคราะห์เขากลับสามารถฟันธงเรื่องราวลงมาได้อย่างแม่นยำ
เรื่องนี้มันเหนือล้ำกว่าที่คนทั่วๆ ไปจะเทียบเคียงได้!
ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนี้มันยังกระแทกเข้ากลางใจเขาอย่างรุนแรง
เพราะพวกเขาเหล่าผู้ปกครองมิติอนัตตาก่อไผ่นี้ต่างยินดีปรีดาที่ได้รับการยกย่องราวกับเป็นเทพเจ้า
แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างกลัวโลกภายนอก
เทพสวรรค์นั้นเป็นกำลังที่ไม่ต่ำต้อยในมหาพิภพถงเทียน แต่หากให้พูดถึงความสูงส่งแล้วมันก็ยังไม่อาจนับได้ว่าเป็นตัวตนที่สูงส่งเลยสักนิด
เพราะเหนือเทพสวรรค์ไปมันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ และเหนือจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปมันก็ยังมีถึงเต๋าบรรพกาล!
เทพสวรรค์จะไปมีค่าใด?
หากเจอจักรพรรดิเทพสวรรค์สักคนเข้า พวกเขาก็คงถูกสังหารลงอย่างไม่มีทางต้าน!
ให้พูดตรงๆ พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่กบในกะลา ปกครองดินแดนอันคับแคบของตัวเอง
เย่หยวนมองดูสีหน้านั้นของเขาและบอก “ข้านั้นเป็นแค่นภาสวรรค์ ข้าย่อมไม่มีสิทธิ์ใดๆ ไปพูดถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ทักษะการโอสถของข้าท่านก็ได้เห็นมันแล้ว ท่านคิดว่ามันเป็นอย่างไรบ้างเล่า?”
ตงน้อยเงียบไปทันทีด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
‘อู๊ดๆ…’
ตงน้อยไม่คิดพูด แต่เจ้าหมูสมบัติกลับร้องขึ้นแทน
ความหมายของมันนั้นชัดเจนมาก โอสถของเย่หยวนนั้นอร่อยกว่าของตงน้อย!
ตงน้อยแทบคิดอยากเตะมันให้ปลิวคาเท้า “เจ้าสัตว์หน้าขนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เจ้าไปกับมันเลยสิ ยิ่งไปไกลมันยิ่งดี!”
หมูสมบัติทำหน้าเศร้าออกมาเพราะมันแค่พูดบอกความจริงเท่านั้น
เมื่อเย่หยวนเห็นเช่นนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมา
หมูสมบัตินั้นมีลิ้นที่สัมผัสถึงคุณภาพของโอสถได้อย่างดี ตอนนี้เมื่อมันชินกันโอสถที่เย่หยวนหลอมไปแล้ว แม้จะเป็นโอสถของตู้หรูเฟิงก็คงกลายเป็นไร้รสชาติสำหรับมัน
“หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่าวันหน้าข้าจะไม่อาจหลอมโอสถช่วยท่านบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิสวรรค์ได้?”
พูดจบเย่หยวนก็เงียบปากลงรอฟังคำตอบของตงน้อย
เขานั้นมั่นใจมากว่าตงน้อยต้องยอมรับคำ
เพราะตอนนี้เขามีพลังที่แสนอ่อนแอ หากอยู่ในวิหารต่อไปมันมีแต่จะทำให้เกิดอันตราย สู้ออกไปท่องโลกภายนอกเสียจะยังดีกว่า
“เอาล่ะ เจ้าชนะ ข้าจะไปกับเจ้า! ปล่อยข้าได้แล้ว!” ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่ในที่สุดตงน้อยก็ยอมรับคำ
ได้ยินคำของตงน้อยหมูสมบัติก็รีบกระโดดโลดเต้นอย่างยินดีทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...