เล้งห่าวนั้นถูกเย่หยวนซัดจนลอยปลิวไป ตอนนี้สายตาที่เขามองมายังเย่หยวนมันจึงเปี่ยมไปด้วยความแค้นเคือง
ตั้งแต่ที่เล้งซู่ได้มารู้จักเย่หยวน ทุกสิ่งอย่างมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไป
แต่ตอนนี้มันเป็นโอกาสอันแสนดีงาม!
เย่หยวนนั้นรนหาที่ตาย ไปท้าทายหานดงจุนเช่นนั้น นี่มันคือโอกาสที่จะทำให้เขาพลิกกลับมาได้!
เมื่อหานดงจุนเห็นเย่หยวนดวงตาทั้งสองของเขาก็แทบลุกเป็นไฟ
“เจ้าหรือคือเย่หยวนที่สังหารเซี่ยวเอ๋อของข้า?” หานดงจุนกัดฟันกล่าวขึ้น
เย่หยวนนั้นแค่ยิ้มตอบกลับมาน้อยๆ ก่อนจะลากร่างของชายชุดดำและสาวใช้คนหนึ่งออกมาบนสังเวียน
เขาหันหน้าไปหาเล้งหงซิ่ว “สาวใช้นางนี้คือสายลับที่เล้งห่าวใช้ให้มาจัดการเล้งซู่ ไม่กี่วันก่อนนางได้ผสมผงหอมสวรรค์เอ็นอ่อนใส่อาหารของเล้งซู่ เพื่อที่จะทำให้เล้งซู่หมดสภาพในการต่อสู้วันนี้ไป ส่วนเจ้าชายชุดดำคนนี้เขาคือคนสนิทของเล้งห่าว สิ่งที่เล้งห่าวได้ทำมาหลายปีนี้ หากท่านผู้นำตระกูลลองค้นจิตของมันดู ท่านก็ย่อมจะรู้ทุกสิ่งอย่างได้”
เมื่อได้เห็นคนทั้งสองนั้นสีหน้าของเล้งห่าวก็เปลี่ยนไปทันที
สาวใช้นางนั้นยังพอว่า แต่ชายชุดดำนั้นเป็นดั่งแขนขวาของเขาเรื่องราวใดๆ เขาย่อมรู้ดีไม่ต่างจากตัวเล้งห่าว
หากเขาถูกค้นวิญญาณแล้วเรื่องราวมันคงจบสิ้นกัน!
แท้จริงแล้วในวันนั้นที่หน้าบ้านตระกูลเล้ง เย่หยวนก็สามารถสัมผัสรับรู้ได้ถึงตัวตนของชายชุดดำนี้
เพียงแค่ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายไม่คิดลงมือ เขาจึงไม่คิดที่จะทำอะไรเช่นกัน
ในวันก่อนหน้านี้ทั้งชายชุดดำและสาวใช้คนนี้แอบพบกันและถูกเย่หยวนรับรู้ได้เพราะสัมผัสด้านมิติของเขา เขาจึงสามารถจับได้อย่างคาหนังคาเขา
แต่เพื่อไม่ให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาจึงปล่อยให้ชายชุดดำนั้นได้กลับไป
วันนี้เขาได้ใช้โอกาสที่มีคนมาขัดจังหวะการประลองหานายน้อยคนใหม่ เย่หยวนจึงไปจับทั้งตัวชายชุดดำและสาวใช้มา
เล้งห่าวนั้นแทบจะล้มทรุดลงกับพื้น
“ผู้นำตระกูล อย่าได้ฟังคำของมัน! มันนั้นมีความคิดชั่วร้าย ข้าไม่รู้จักคนทั้งสองนี้เลย!” เล้งห่าวนั้นตื่นตกใจอย่างมากแต่ก็ยังพยายามพูดปกป้องตัวเองออกมา
หลายปีมานี้เขาได้ทำเรื่องราวที่ไม่อาจเปิดเผยได้อย่างมากมายเพื่อที่จะได้รับตำแหน่งนายน้อยของตระกูลมาครอง
เมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาแล้วเรื่องราวทั้งหมดคงจบสิ้น!
แต่เย่หยวนกลับกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางเหยียดหยาม “หากไม่ใช่เพราะเล้งซู่ ข้าเองก็ไม่ได้อยากมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวสุดจะน่าทุเรศนี้หรอก กล่าวหาเจ้าหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอหรือ?”
ใบหน้าของเล้งหงซิ่วเองก็ดูไม่ค่อยดีเช่นกัน
เพราะตอนนี้เรื่องราวมันกำลังดำเนินไปอย่างเหนือความคาดหมายของเขามาก
มีหรือที่เขาจะมองไม่เห็นถึงความลนลานในสายตาของเล้งห่าว?
แต่ว่าเล้งห่าวในสายตาของเขานั้นมิใช่คนชั่วร้ายอย่างที่ถูกกล่าวว่านี้เลย
กลับกัน เขาคิดว่าเล้งห่าวเป็นคนดีมีน้ำใจเสียด้วยซ้ำ
เพราะเช่นนั้นเขาถึงได้คิดจะแต่งตั้งให้เล้งห่าวเป็นนายน้อยสืบทอดตระกูลต่อไป
เล้งซู่นั้นมีนิสัยรักอิสระไม่มีความรับผิดชอบ ให้พูดตรงๆ แล้วคนเช่นนี้ย่อมไม่เหมาะที่จะรับภาระหน้าที่ของผู้นำตระกูล
เรื่องนี้เล้งหงซิ่วได้คิดคำนวณมาอย่างดีแล้ว
เพราะเขานั้นคือผู้นำตระกูล ย่อมต้องคิดการใดๆ ให้รอบคอบก่อนลงมือ
แต่ตอนนั้นเองที่หานดงจุนกลับพูดขึ้นมาด้วยท่าทางโกรธแค้นเพราะตัวเองถูกทำราวกับเป็นอากาศธาตุ “เด็กน้อย ข้าพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าไม่ได้ยินข้ารึ? เจ้าคือผู้ที่สังหารเซี่ยวเอ๋อของข้าใช่หรือไม่?”
เย่หยวนได้แต่กลอกตากลับไปตอบ “เจ้าเป็นใคร คิดว่าข้ารู้จักเจ้าไหม? ทำไมข้าต้องเสียเวลาไปคุยกับเจ้าด้วย? ที่สำคัญเล้งห่าวก็เพิ่งเรียกชื่อข้าไปมิใช่หรือ? เจ้าหูหนวกหรืออย่างไร?”
“ฮ่าๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...