จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1855

ในวันนี้ ณ เทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ห่างจากทางเหนือของเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานไปนับหมื่นๆ กิโลเมตร จู่ๆ มันก็เกิดมีลำแสงส่องพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง

แสงนั้นส่องขึ้นมาเป็นเงาร่างสี่ร่างบนท้องฟ้าอย่างกระจ่างชัด มันเป็นภาพที่ชัดเจนแม้จะมองดูจากเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยาน

เมื่อมองดูดีๆ พวกเขาทั้งหลายจึงได้เห็นว่าเงาร่างทั้งสี่นั้นคือร่างของสี่สัตว์เทวะแห่งมหาพิภพถงเทียน

มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว วิหคชาด เต่าดำ!

พลังงานที่เหล่าเงาร่างสัตว์อสูรทั้งสี่ปล่อยมานั้นมันสุดแสนที่จะรุนแรงจนกระแทกมาได้ถึงยังเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยาน

แต่มันมิใช่เพียงแค่เมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยาน มันรวมไปถึงพื้นที่รอบๆ ที่มีดินแดนติดกับเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยาน รวมไปถึงเหล่าเมืองจักรพรรดิ เมืองหลวง หรือประเทศต่างๆ

มันเป็นพลังที่แค่เห็นก็รับรู้ได้ทันที

หลังจากนั้นเจ้าสัตว์เทวะทั้งสี่ก็เปิดปากพ่นลำแสงออกมาอีกครั้งจนปกคลุมทั่วท้องนภา

ส่วนตรงกลางนั้นค่อยๆ มีเงาร่างของชายชราปรากฏตัวขึ้น

“เฒ่าคนนี้คือจอมเทพสวรรค์นิรันดร์ที่ได้ตายลงยังที่แห่งนี้ พลังของข้านั้นไร้ผู้สืบทอด จะทิ้งมันไปก็น่าเสียดาย เพราะฉะนั้นข้าจึงได้ที่ตั้งถ้ำนิรันดร์ไว้ตรงที่แห่งนี้ หวังว่าจะมีผู้สืบทอดเข้ามารับช่วงมันต่อไป!”

เสียงนั้นพูดออกมาอย่างกึกก้องดังจนทั่วทุกคนต่างได้ยิน

ภายในเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานนั้นเย่หยวนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ต้องรู้สึกราวกับมีฟ้าผ่าลงกลางหัว

ที่แท้สิ่งที่หวู่เฉินบอกว่ากำลังจะเกิดขึ้นนั้นมันคือเรื่องราวเกี่ยวกับจอมเทพนิรันดร์!

“เป็นเขา! เป็นเขาจริงๆ! ฮ่าๆ เฒ่าคนนั้นมานอนตายลงตรงนี้นี่เอง!”

ภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนหวู่เฉินกำลังร่ำร้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อได้เห็นเงาร่างที่ดูคล้ายกับภาพวาดของพระผู้เป็นเจ้านั้นเย่หยวนก็ถึงขั้นพูดไม่ออกไปนานแสนนาน

นี่หรือคือจอมเทพสวรรค์นิรันดร์?

ช่างไร้ที่เปรียบและเหนือล้ำ!

ถึงขนาดที่ว่าการจะเลือกผู้สืบทอดก็ยังต้องประกาศบอกทุกผู้คน

ที่ด้านข้างเย่หยวนดวงตาคู่งามของเล้งชิวหลิงกำลังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจหยุดได้ ดูท่านางเองก็คงสนใจอย่างมาก

เทพสวรรค์!

ในมหาพิภพถงเทียนนั้นตัวตนของเทพสวรรค์นั้นมันเหมือนกับระเบิดปรมาณู

อย่างที่ว่าอาณาจักรราชันพระเจ้าจะหยุดนักยุทธทั่วๆ ไปส่วนใหญ่ไว้ อาณาจักรเทพสวรรค์นี้เองก็ได้เป็นป้ายหยุดของยอดอัจฉริยะมากมายเช่นกัน

ในมหาพิภพถงเทียนทั้งสิ้นนั้นตัวตนระดับเทพถ่องแท้นั้นมันมีมากมาย แต่ในหมู่พวกเขา คนที่จะสามารถขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือ!

ระหว่างเทพถ่องแท้และเทพสวรรค์นั้นมันมีกำแพงที่สูงใหญ่ขวางกั้น

ในเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานทั้งหมดมีแต่ความแตกตื่นให้เห็นทั่ว ตอนนี้นักยุทธแทบทุกคนนั้นคิดที่จะออกไปแสวงหาสมบัตินี้ ถึงขั้นมีหลายคนที่พุ่งตัวออกไปตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ยิน มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์

โอกาสเช่นนี้นับล้านปีมันจะมีผ่านมาสักครั้ง!

แต่ว่าเย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่น

จอมเทพสวรรค์นิรันดร์คนนี้กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?

“ทำไมหรือ? ดูพี่เย่จะไม่ค่อยสนใจโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตนี้เลยนะ!”

เพราะการตอบรับของเย่หยวนกับเรื่องราวครั้งนี้มันเหนือความคาดหมายเล้งชิวหลิงไปมาก

สมบัติสืบทอดของเทพสวรรค์ นี่คือทุกสิ่งอย่างที่ผู้คนจะเฝ้าฝันถึงได้ แต่เย่หยวนกลับเอาแต่นั่งขมวดคิ้ว

เพราะแม้แต่ตัวนางที่มีนิสัยเยือกเย็นก็ยังร้อนผ่าวขึ้นมา แต่เย่หยวนกลับมีท่าทางที่ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

เย่หยวนนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบกลับไป “ข้าสนใจแน่อยู่แล้ว เพียงแค่ว่ามันฟังดูแปลกๆ ไปหน่อย”

เล้งชิวหลิงนั้นเบิกตากว้างด้วยความสงสัย “แปลก?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ผู้อาวุโสท่านนี้บอกว่าเขาหาผู้สืบทอด แต่กลับไม่คิดกำหนดอายุขัย อาณาจักรบ่มเพาะ หรืออะไรก็ตามแต่เลย ที่สำคัญผู้อาวุโสท่านนี้ยังป่าวประกาศชื่อออกมาราวกับว่ากลัวศัตรูคู่แค้นจะไม่รู้ มันไม่น่าแปลกหรือ?”

นั่นทำให้เล้งชิวหลิงแทบสะดุ้งตัวขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเย่หยวนนางก็เริ่มมองเห็นถึงความน่าสงสัยอย่างเต็มเปี่ยมไปหมด

ปกติแล้วเวลาจะหาผู้สืบทอด พวกเขาที่คิดจะถ่ายทอดนั้นย่อมต้องมีเงื่อนไขที่เหนือล้ำผู้คนทั่วไป

และผู้สืบทอดของเทพสวรรค์นั้นมันยิ่งต้องมีคุณสมบัติที่มากล้นกว่าสิ่งใดๆ

เมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานนั้นสุดท้ายแล้วก็เป็นแค่กองกำลังเทพถ่องแท้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยังมีศิษย์คุณสมบัติอย่างเล้งชิวหลิงขึ้นมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ