“อย่าไป? เด็กน้อยเจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่กันแน่?”
กู่เทียนเฉขมวดคิ้วแน่นจนมันติดกัน ดูท่าแล้วจะไม่พอใจอย่างมาก
โอกาสอันดีงามขนาดนี้มันมาวางอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะมาหยุดเขามันย่อมต้องถูกมองเป็นศัตรูคู่แค้นราวกับสังหารบิดามารดากันมา
แม้ว่าคนที่มาหยุดเขานี้จะเป็นศิษย์ของเขาเองก็ตาม
เล้งชิวหลิงนั้นยังต้องยืนยันอย่างหนักแน่น “อาจารย์ สมบัติเทพสวรรค์ที่ว่านี้มันมีอะไรแปลกๆ อยู่”
เล้งชิวหลิงค่อยๆ เล่าคำของเย่หยวนออกมาอีกต่อหนึ่งให้แก่กู่เทียนเฉฟังจนเขาต้องเลิ่กคิ้วสูง
“เจ้าจะหมายความว่าอย่างไร? เจ้าไม่รู้หรือว่าสมบัติสืบทอดเทพสวรรค์มันมีความหมายต่ออาจารย์ของเจ้ามากเพียงใด?” กู่เทียนเฉตอบกลับมาด้วยท่าทางไม่คล้อยตาม
ความดึงดูดของสมบัติสืบทอดจากเทพสวรรค์นั้นมันเหนือล้ำ โดยเฉพาะกับตัวกู่เทียนเฉที่ไม่มีหวังใดจะบรรลุขึ้นไปได้อีกแล้ว
เล้งชิวหลิงพูดขึ้นด้วยท่าทางกังวล “สิบวัน แค่สิบวันนะ?”
กู่เทียนเฉหรี่ตาลงทันที “นี่ไม่ใช่ความคิดของเจ้าใช่ไหม?”
เล้งชิวหลิงเองก็ไม่คิดจะปิดบังใดๆ “นี่เป็นความคิดเย่หยวน!”
กู่เทียนเฉหน้าเปลี่ยนสีและเริ่มกลับไปคิดอย่างจริงจังทันที
เรื่องของเย่หยวนนั้นเล้งชิวหลิงย่อมไม่คิดปิดบังจากเขาผู้เป็นอาจารย์แม้แต่น้อย
ตัวตนของเขาคนนี้มันทำให้กู่เทียนเฉเกิดความสงสัยขึ้นในทุกสิ่งอย่าง
เมื่อหยุดคิดไปพักหนึ่งกู่เทียนเฉก็พยักหน้ารับออกมา “ก็ได้ แต่แค่สิบวัน!”
เรื่องราวความวุ่นวายในเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานนั้นกระจายออกไปทั่วในทันที
นี่มันคือเรื่องราวแสนใหญ่โตที่สั่นสะท้านทั้งเมืองหลวงจักรพรรดิ ต่อให้คิดอยากปิดมันก็ย่อมไม่มีทางจะปิดได้
จากวันที่สองมา ตอนนี้ก็เริ่มปรากฏยอดคนจำนวนมากมายในเขตเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยาน
แม้จะเป็นเมืองหลวงจักรพรรดิเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีเทพถ่องแท้เดินเล่นกันทั่วไปได้
แต่ตอนนี้ทั้งด้านในและนอกเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานมันกลับมีแต่ยอดฝีมือเทพถ่องแท้อยู่ทุกหนแห่ง
บ้างมีคลื่นพลังที่แสนรุนแรงอย่างที่ไม่ด้อยกว่ากู่เทียนเฉเลย
ในวันที่สาม กู่เทียนเฉก็ไม่อาจอดทนรอได้อีก
“อาจารย์ ท่านสัญญาว่าจะรอสิบวันมิใช่หรือ?”
เล้งชิวหลิงที่จับตามองดูกู่เทียนเฉอยู่ตลอดย่อมเห็นได้ในวินาทีที่ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
กู่เทียนเฉบอก “เด็กน้อย อาจารย์เจ้ารอไม่ไหวแล้ว! ถอยไป!”
เล้งชิวหลิงร้องบอกขึ้นอย่างดื้อดัน “ไม่ ท่านห้ามไป!”
กู่เทียนเฉหรี่ตาลงก่อนที่จะส่งร่างของตัวเองจางหายไปจากสายตาของเล้งชิวหลิงในทันที
หากเทพถ่องแท้เจ็ดดาวคิดอยากไป มีหรือที่เล้งชิวหลิงจะสามารถหยุดเขาไว้ได้?
กู่เทียนเฉเดินทางมาจนถึงเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ในพริบตา
ความห่างไกลนับล้านกิโลเมตรนั้นมันไม่ได้เป็นปัญหาแก่เทพถ่องแท้เลย แค่ไม่กี่อึดใจกู่เทียนเฉก็มาถึงเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่รุนแรงจากยอดเขา กู่เทียนเฉก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจจนแทบไม่อาจหักห้ามตัวเองไว้ได้
และจู่ๆ เขาก็หัวเราะขึ้นมา “ไม่ว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันจะเป็นใครมาจากไหน สุดท้ายมันก็เป็นแค่อาณาจักรนภาสวรรค์ขั้นต้น จะมีความรู้ประสบการณ์ใดมากมาย? สมบัติของเทพสวรรค์นี้ข้ากู่เทียนเฉจะรับมันไปเอง!”
พูดจบเขาก็พุ่งร่างเข้าไปยังเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์
แต่เวลานั้นเองที่กลับมีหมอกสีดำสนิทพุ่งตัดหน้าเขาไปในพริบตา
“พวกเจ้าหลบทางไป! สมบัติของเฒ่าจอมเทพสวรรค์นิรันดร์เป็นของข้าเห่ยโหมว!”
“อ่อก!”
แค่คำพูดเดียวกลับทำให้เทพถ่องแท้เจ็ดดาวอย่างกู่เทียนเฉบาดเจ็บได้
แถมนี่มันยังเป็นการโจมตีเป็นวงกว้าง!
ตอนนี้เหล่าเทพถ่องแท้ที่กำลังแอบซ่อนอยู่ในเทือกเขาต่างได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กันไม่ต่างจากเขานัก
“เทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจ!” กู่เทียนเฉร้องขึ้นอย่างตื่นตกใจ
หมอกสีดำนี้มันต้องเป็นตัวตนระดับเทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจแน่นอน!
กู่เทียนเฉไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์จะออกมากันได้รวดเร็วปานนี้
ที่สำคัญมันกลับยังเป็นเทพสวรรค์ของฝ่ายปีศาจอีก
“ไอเจ้าเย่หยวนนั่นมันหลอกข้าเสียแล้ว!”
กู่เทียนเฉได้แต่ตบเข่าตัวเองด้วยความคับแค้นใจอย่างถึงที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...