จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1860

ตอนที่ 1860 ฉูชิง
“นี่มัน… ท่านลุงกู่…”

“หุบปาก! ใครเป็นลุงเจ้า เจ้าคนหน้าไม่อาย! ในอดีตข้านั้นยังคิดว่าเจ้าเป็นผู้เป็นคนบ้าง ไม่นึกว่าแท้จริงแล้วจะเป็นคนไร้ยางอายเช่นนี้! ข้าแค่อนุญาตให้เจ้าและชิวหลิงพบปะกัน ข้าไปยอมรับเรื่องงานแต่งของพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อใด? เจ้ามาอวดอ้างตัวสร้างข่าวลือเสียๆ หายๆ ในคฤหาสน์พันทะยานเช่นนี้เจ้ายังมีความเคารพต่อข้าบ้างหรือไม่?”

กู่เทียนเฉนั้นโกรธแค้นขึ้นมาอย่างถึงที่สุดผสานกับความกลัวอย่างสุดขีดในเวลาเดียวกัน

หากเย่หยวนตายลงด้วยน้ำมือของจี้ฉุนเสียแล้วเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานของเขาคงต้องพบเจอกับภัยพิบัติเข้าแน่!

โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปมาก เพราะสามารถรอดน้ำมือของจี้ฉุนมาได้ เรื่องนี้เองทำให้เขาตื่นตะลึงไม่น้อย

แต่ทว่าตัวซัวหานที่เมื่อก่อนนี้เขายังเคยคิดว่าเป็นผู้เป็นคนพอดีใช้ได้ มันกลับไม่สามารถที่จะทำให้เขาพอใจได้ในด้านใดๆ อีก

เมื่อเห็นท่าทางโกรธแค้นของกู่เทียนเฉนั้นซัวหานก็หน้าซีดลงราวกับศพคนตาย

“จี้ฉุน เจ้าจะยังอยู่ทำอะไรอีก? รีบๆ พาเจ้าศิษย์ไร้ประโยชน์ของเจ้าแล้วรีบไปจากหน้าข้าเสีย!” กู่เทียนเฉกล่าวขึ้น

จี้ฉุนขมวดคิ้วแน่น “กู่เทียนเฉ เจ้าคิดจะแตกหักกับข้าเพียงเพื่อเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนเดียวนี้หรือ?”

กู่เทียนเฉตอบกลับไป “เย่หยวนนั้นคือผู้ช่วยชีวิตข้าไว้ เจ้าคิดว่ามันพอไหมล่ะ?”

จี้ฉุนหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีก่อนจะหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาตกตะลึง

จากนั้นเขาก็พยักหน้าออกมา “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว แต่เรื่องวันนี้มันยังไม่จบหรอกนะ! เจ้าเด็กน้อย จงระวังอย่าเจอข้าเข้าอีกก็แล้วกัน! หานเอ๋อไปกัน!”

พูดจบจี้ฉุนก็ได้สะบัดแขนพาร่างของซัวหานไปจากมือของเย่หยวน

เมื่อจี้ฉุนจากไป เย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงความดำมืดที่เข้าปกคลุมเบื้องหน้าพร้อมกับทิ้งร่างร่วงลงกับพื้น

เมื่อต้องมารับการโจมตีจากเทพถ่องแท้อย่างจี้ฉุนโดยตรงนั้นมันย่อมทำให้เย่หยวนไม่กล้าจะประมาทแม้สักก้าว จนตอนนี้เขาก็ไม่อาจที่จะฝืนทนบาดแผลต่อไปไหวจนล้มลงในที่สุด

สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในวันนี้เหล่ายอดฝีมือจำนวนมากมายมหาศาลกำลังมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมๆ กัน

เพราะชื่อว่าสมบัติสืบทอดจากเทพสวรรค์มันย่อมน่าดึงดูดจนเกินไป

ต่อให้พวกเขาจะรับรู้ดีว่ามันมีความอันตรายแค่ไหนรออยู่ แต่มันก็ยังมีผู้คนมากมายที่พร้อมจะทำตัวเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

และในหมู่ยอดคนทั้งหลายนั้นมันก็เป็นกลุ่มคนจากเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานนี้เองที่มีกองกำลังแข็งแกร่งที่สุด

เทพถ่องแท้คนหนึ่งกล่าวขึ้น “พี่กู่ ใกล้ได้เวลาแล้ว ขึ้นเขากันเถอะ!”

กู่เทียนเฉพยักหน้ารับ “ไปกัน”

“รอก่อน!” เวลานั้นเองที่มีสองเงาร่างพุ่งตัวลงมาจากท้องฟ้า

เมื่อเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายได้เห็นการมาถึงนี้พวกเขาก็รีบก้มหัวลงแสดงความเคารพในทันที “ขอคารวะท่านอาจารย์จีคัง!”

คลื่นพลังที่ปล่อยออกมาจากร่างของเทพถ่องแท้ตรงหน้านี้มันแสนรุนแรง เขาคนนี้เป็นยอดฝีมือเทพถ่องแท้ขั้นสุด

จากนั้นคนทั้งสองนั้นก็พยักหน้ารับออกมา “เรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างของข้าย่อมต้องมาร่วมด้วยอยู่แล้ว ฉูชิง ทำไมเจ้ายังไม่ทักทายลุงๆ ทั้งหลายอีก?”

ที่ด้านหลังจีคังนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้นมาทำความเคารพ “หลานนั้นมีนามว่าฉูชิง ขอคารวะท่านลุงทั้งหลาย”

“เจ้าคือฉูชิงเองรึ หึๆ สมชื่อเป็นยอดคนแห่งยุคจริงๆ!”

“ข้าได้ยินมานานว่ามียอดอัจฉริยะมากพรสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้าง ผสานแนวคิดสามอย่างเข้าด้วยกันได้มีพลังฝีมือที่เหนือล้ำ! ได้เจอกันวันนี้ข้าคงต้องบอกว่าสมชื่อเสียงจริงๆ!”

เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายนี้กลับถือโอกาสนี้ในการยกยอเด็กนภาสวรรค์คนหนึ่ง เรื่องนี้มันทำให้ยอดฝีมือที่มองดูอยู่ไม่ห่างต้องอ้าปากค้าง

แต่ว่ายิ่งได้ยิน พวกเขาก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น

สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วคนที่สำเร็จแนวคิดสองหรือสามอย่างได้นั้นมันมีมากมาย

แต่คนที่สามารถผสานแนวคิดสองอย่างเข้าด้วยกันได้นั้นมันมีจำนวนน้อยมาก อย่าว่าถึงการผสานสามแนวคิดเลย

คนที่สามารถผสานแนวคิดสามอย่างเข้าด้วยกันได้นั้นมันคือยอดอัจฉริยะที่เหนือโลกหล้า

ฉูชิงนั้นมีใบหน้าท่าทางภูมิใจยอมรับคำชมของเหล่าเทพถ่องแท้ไปแต่โดยดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ