ปัง!
ปัง!
ปัง!
บนลานนั้นเกิดเสียงการปะทะกันของปราณเทวะอย่างรุนแรงจนทำให้ทุกผู้คนต่างตกตะลึงอย่างไม่อาจหาคำใดมาเปรียบ
ชนะอย่างเหนือล้ำ!
เว้นเสียแต่ว่าผู้ชนะมันมิใช่คนที่พวกเขาคาดหมาย ศึกครั้งนี้เป็นเย่หยวนที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดของเย่หยวนนั้นซัวหานจึงถูกกระทืบอย่างไม่มีชิ้นดี
“ทำไม… ทำไมมันกลายเป็นเช่นนี้ไป?”
“ซัวหานนั้นมีพรสวรรค์เป็นอันดับต้นๆ ของเมืองหลวงจักรพรรดิแต่เขากลับถูกนภาสวรรค์สองดาวคนนี้กระทืบจนไม่เหลือเค้าเดิม”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์พี่เล้งถึงได้ไปไหนมาไหนกับเขาคนนี้จนแทบจะตัวติดกัน แท้จริงแล้วมันเป็นเช่นนี้นี่เอง!”
…
เหล่าศิษย์ของคฤหาสน์พันทะยานนั้นต่างตื่นตกใจอย่างมาก ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนคนที่พวกเขาดูถูกเหยียดหยามว่าลับหลังมาตลอดจะกลับกลายเป็นยอดคนที่เหนือล้ำขนาดนี้
เพราะตอนนี้นภาสวรรค์ห้าดาวอย่างซัวหานกลับถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวอย่างที่ไม่อาจสวนกลับได้แม้แต่น้อย
หากจะมีใครบอกว่าการโจมตีแรกของเย่หยวนสำเร็จได้เพราะการลอบโจมตี ตอนนี้เย่หยวนก็ได้ใช้พลังที่มีเข้าปะทะอย่างตรงไปตรงมาแล้ว
ไม่มีอะไรให้สงสัยอีก!
ปัง!
เย่หยวนเหยียบเท้าลงบนอกของซัวหานจนตัวเขาแนบติดพื้นก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยท่าทางขยะแขยง “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะสั่งสอนข้าหรือ? ด้วยพลังฝีมือเพียงแค่นี้? ไม่มีกำลังแต่กลับกล้ามาดูถูกคนอื่นวางตัวเหนือผู้คน ว่ากล่าวคนอื่นเป็นมดปลวก? เจ้าไปเอาความมั่นใจผิดๆ เช่นนี้มาจากที่ไหนกัน?”
ความตื่นตกใจของซัวหานในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะบรรยายได้
หลายร้อยปีก่อน ตอนที่เขาพบเจอเย่หยวนครั้งแรกนั้นเขาสามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้ด้วยฝ่ามือเดียว
แต่แม้จะมีพรสวรรค์ระดับเขา ช่องว่างนี้มันกลับไม่ห่างออกแต่ตรงกันข้าม มันกลับค่อยๆ สั้นลงจนในที่สุดเย่หยวนก็ตามเขาจนทันและแซงหน้าเขาไปได้!
เจ้าหมอนี่มันผสานแนวคิดแห่งห้วงมิติและแนวคิดแห่งดาบเข้าด้วยกัน แน่นอนว่าต้องมีพลังที่เหนือล้ำกว่าใครๆ
ความภาคภูมิใจในชื่อยอดอัจฉริยะของซัวหานต้องแหลกสลายลงภายใต้เท้านี้ของเย่หยวน
“ปล่อยข้านะ เจ้าคนโง่! หากอาจารย์ข้ารู้เรื่องราวนี้เขาจะต้องทำลายพลังบ่มเพาะของเจ้าทิ้งจนไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้อีกเป็นแน่” ซัวหานยังคงกัดฟันพูดจาข่มขู่ขึ้น
นั่นทำให้เย่หยวนหรี่ตาลงมองทันทีด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเอาชนะเองไม่ได้ ทีนี้ก็เลยไปใช้ชื่อของอาจารย์? ช่างโง่เง่าเสียจริง!”
พูดจบเย่หยวนก็ใช้นิ้วแตะเข้าไปยังทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของซัวหาน
ซัวหานได้แต่เบิกตากว้างด้วยความสิ้นหวัง
แต่เวลานั้นเองที่เย่หยวนกลับรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่ใกล้เข้ามา
“เด็กน้อยเจ้ากล้า?!”
เทพถ่องแท้!
เย่หยวนรู้สึกได้ถึงพลังของอีกฝ่ายในทันทีทันใด ร่างของเขาแข็งค้างด้วยพลังกดดันนี้จนไม่อาจขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว
แม้ว่าตอนนี้เท้าของเขาจะเหยียบบนอกของซัวหาน แต่เท้านี้กลับไม่อาจลงแรงเหยียบไปได้มากกว่านั้น
เทพถ่องแท้ระดับปลายนี้มันช่างแข็งแกร่ง!
แต่ทว่านี่คือเย่หยวน!
เขานั่นคือผู้สำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ!
แม้จะเจอกับพลังของเทพถ่องแท้แต่หากเอามาเทียบด้วยความเข้าใจในแนวคิดแล้วเย่หยวนก็ยังเหนือล้ำกว่า
จิตสังหารนี้มันเย็นเยือก แต่มันย่อมไม่มีทางใดที่เย่หยวนจะยอมรับความตายง่ายๆ เช่นนี้
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันนี้ดวงตาของซัวหานก็เบิกกว้างด้วยความดีใจ “ท่านอาจารย์!”
แต่ทว่าเล้งชิวหลิงนั้นกลับหน้าถอดสีอย่างมาก หากคิดอยากลงมือตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
เย่หยวนหัวเราะขึ้นก่อนที่ร่างของเขาจะเลือนหายไป!
มันหายไปพร้อมๆ กับร่างของซัวหานที่อยู่ใต้เท้า
เงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากความว่างเปล่าและมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจและโกรธแค้น
“เคลื่อนย้ายมิติ! ช่างเป็นเด็กที่น่ากลัวนัก!”
ผู้ที่มาถึงนี้มันย่อมมิใช่ใครที่ไหนนอกไปเสียจากอาจารย์ของซัวหาน เจ้าเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นทีจี้ฉุน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...