จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1858

ตอนที่ 1858 เจ้าไม่มีโอกาส
“เย่หยวน! เป็นเจ้าจริงๆ! วันนี้เจ้าจะไม่โชคดีอีกแน่ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันจะยังมีใครมาช่วยเจ้าได้อีก!”

เมื่อซัวหานเห็นหน้าเย่หยวนเขาก็รู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นที่ปะทุพล่าน

แต่เขาเองก็ยังตื่นตกใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะไม่เจอกันแค่ไม่กี่ร้อยปีเย่หยวนกลับสามารถบ่มเพาะขึ้นมาได้จนถึงอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวอย่างรวดเร็ว

หากเทียบกันแล้วความเร็วในการบ่มเพาะระดับนี้มันไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าเขาเลย!

เจ้าหมอนี่มันคือขยะที่ไม่อาจบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้มิใช่หรือ?

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย ตอนที่เขาพบเจอเย่หยวนครั้งก่อน เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่บรรพชนพระเจ้าขั้นสุด

เย่หยวนมองดูซัวหานด้วยรอยยิ้มเย้ย “ไม่ต้องให้ใครมาช่วยหรอก แค่จัดการกับเจ้านั้นมีหรือที่ข้ายังต้องให้ใครมาช่วย?”

เมื่อซัวหานได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมา “แค่นภาสวรรค์สองดาวกลับคิดพูดจาใหญ่โต! วันนี้ข้าจะกระทืบเจ้าให้มันล้มคว่ำจนต้องร้องขอชีวิตเลย!”

เมื่อนึกได้ถึงเรื่องที่ว่าเล้งชิวหลิงและเย่หยวนสนิทกันที่ศิษย์คนก่อนหน้านี้พูด มันยิ่งทำให้จิตใจของซัวหานรุ่มร้อนด้วยความริษยา ความแค้นเก่ามาทับถมลงกับความไม่พอใจอันใหม่นี้

เล้งชิวหลิงพูดขึ้นมาขัดด้วยใบหน้าสุดเย็นเยือก “ซัวหาน ที่นี่คือคฤหาสน์พันทะยาน มิใช่เมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นทีของเจ้าที่จะให้เจ้ามาอวดอ้างอำนาจได้!”

ซัวหานแทบสำลักเมื่อได้ยินเช่นนั้น การที่เล้งชิวหลิงแสดงท่าทีปกป้องออกมาเช่นนี้มันกลับยิ่งทำให้เขาไม่พอใจหนักขึ้นกว่าเก่า

ซัวหานมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “หลบหลังผู้หญิงอีกแล้วเรอะ? ไหนๆ ที่นี่ก็เป็นลานฝึกพอดี หากเจ้าเป็นชายก็ตรงมาต่อสู้แข่งขันกับข้า ให้ชิวหลิงได้รู้ว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับนางมากกว่า!”

เล้งชิวหลิงยิ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาหนักกว่าเก่า ซัวหานคนนี้มันช่างไม่รู้จักตัวถึงขั้นกล้าพูดจาอะไรเช่นนี้ออกมา

นางนั้นไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ต่อเขา ทั้งอย่างนั้นเขายังกลับหน้าด้านหนามาคิดว่านางจะหยิบเลือกตัวเอง

“ซัวหาน ในฐานะที่เจ้าเป็นแขก ข้าได้อดทนกับท่าทางของเจ้ามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว! หากยังพูดจาไร้สาระต่อไปอย่าหาว่าข้าไม่มีมารยาท!” เล้งชิวหลิงพูด

ซัวหานนั้นยังคงหนักแน่นมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ย “ไอ้คนขี้ขลาด ขยะที่รู้จักแค่หลบหลังผู้หญิง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องข้าขี้ขลาดหรือไม่หรอก แต่ถ้าเราแค่เทียบกับเรื่องความหนาของหนังหน้านั้น ข้าต้องขอยอมรับเลยว่าด้อยกว่าเจ้าอย่างมาก!”

ซัวหานหัวเราะขึ้น “ท่านเจ้าเมืองกู่นั่นยอมรับเห็นด้วยในเรื่องของข้ากับชิวหลิงมาก ตอนนี้เมื่ออาจารย์ของข้าถึงขั้นเอาเรื่องแต่งงานไปคุยด้วยเช่นนี้มันย่อมเท่ากับว่างานแต่งได้เริ่มไปแล้วครึ่งตัว จะว่าหน้าข้าหนาได้อย่างไรอีก?”

เย่หยวนยิ้มตอบ “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าคิดว่าทำไมข้าที่ไม่ได้เป็นศิษย์ของคฤหาสน์พันทะยานถึงได้เข้าออกคฤหาสน์ได้ตลอดเวลา? เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายปีมานี้ข้าและเล้งชิวหลิงนั้นแทบจะได้อยู่ตัวติดกันตั้งแต่เช้ายันมืดค่ำ? เจ้าไม่มีโอกาสหรอก”

ซัวหานหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ทีแรกเขายังคิดว่าเย่หยวนเป็นศิษย์ของคฤหาสน์พันทะยานแต่ซัวหานไม่ได้นึกถึงเลยว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่

แถมตอนนี้ใบหน้าเย็นชาของเล้งชิวหลิงกลับมีสีชมพูอ่อนๆ เกิดขึ้นจากความอับอาย

แท้จริงแล้วทั้งนางและเย่หยวนต่างรู้ดีว่ากู่เทียนเฉพยายามมากแค่ไหนที่จะสร้างสถานการณ์ให้คนทั้งสองใกล้ชิดกัน

ตัวตนลึกลับของเย่หยวนนั้นมันถูกยอมรับโดยกู่เทียนเฉมานานแสนนานแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่คิดฟังคำของเย่หยวนและหยุดเท้าไม่เข้าเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ไปถึงสามวัน

แต่ระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้น คนหนึ่งก็เย็นเยือกราวน้ำแข็ง อีกคนก็ไม่มีอารมณ์จะมารักใคร่ใดๆ มันย่อมไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้นได้เลย

เล้งชิวหลิงนั้นย่อมรู้ดีว่าตอนนี้เย่หยวนแค่จะช่วยพานางออกจากจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางจึงไม่ได้ปฏิเสธใดๆ และแค่นั่งยอมรับไป

เมื่อซัวหานได้เห็นเช่นนั้นเขาก็รู้สึกถึงลางไม่ดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่เขาไม่คิดจะเชื่อ!

กู่เทียนเฉนั้นชื่นชอบเขามาก มันย่อมไม่มีทางที่อนาคตของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปได้

เมื่อรวมกับตัวตนตำแหน่งของเขาแล้ว เขาและเล้งชิวหลิงนั้นจึงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างถึงที่สุด

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? แค่นภาสวรรค์สองดาวกลับมีค่าพอเคียงคู่ชิวหลิงแล้ว? หากเจ้ามีปัญญาเจ้าก็กล้าๆ หน่อย ออกมาต่อสู้กับข้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป”

ซัวหานนั้นเห็นว่าเย่หยวนเป็นแค่นภาสวรรค์สองดาวและย่อมคิดว่าเย่หยวนไม่กล้าที่จะรับคำท้าจึงได้พยายามพูดจาท้าทายเย่หยวนไปเรื่อยๆ

เหล่าศิษย์คฤหาสน์พันทะยานทั้งหลายเองก็แสดงสีหน้าท่าทางเหยียดหยามออกมาไม่แพ้กันเพราะคิดว่าเย่หยวนนั้นมันปอดแหกจนเกินไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ