จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1870

“ชิ! ฉูชิงนี่กะคิดสังหารเย่หยวนลงเลยเหรอ!”

“แต่เขาจะสามารถผ่านระดับหกไปได้หรือไม่?”

“เมื่อเขากล้า เขาก็ย่อมมีความมั่นใจ! การผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันพร้อมๆ กับสายเลือดพยัคฆ์ขาวมันย่อมทำให้พลังของเขานั้นเหนือล้ำกว่าที่เราจะคิดคาดได้”

การกระทำอันบ้าบิ่นของฉูชิงนี้มันทำให้ผู้คนทั้งหลายแตกตื่นขึ้นทันที

ตั้งแต่เรื่องของเฟนหมิงผ่านไปนักยุทธ์อาณาจักรนภาสวรรค์ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะท้าทายระดับที่สี่อีกเลย

เพราะค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นมันจะปรากฏขึ้นมาเฉพาะเมื่อผ่านระดับที่สามและหกเท่านั้น

หากคนผู้นั้นไม่อาจผ่านสามระดับพร้อมๆ กันได้ พวกเขาจะก็ต้องพบเจอกับความตายเท่านั้น

ตอนนี้หลายต่อหลายคนต่างหันมามองที่เย่หยวน เท่านี้หากฉูชิงผ่านไปถึงระดับหกได้จริงๆ เย่หยวนก็คงได้ทำเรื่องสนุกๆ ให้พวกเขาดูแล้ว

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะกลัวจนฉี่ราดไปก่อน

ฉูชิงนั้นไม่ได้ทำให้ทุกผู้คนผิดหวัง แม้ตอนนี้มันจะลำบากมากแต่เขาก็ยังผ่านระดับสี่ไปได้ในที่สุด

ในระดับที่ห้า พลังสายเลือดพยัคฆ์ขาวในร่างของฉูชิงก็ปะทุขึ้นมาทำให้เขาสามารถทนทานผ่านมาได้

ทุกคนนั้นต่างได้แต่ยืนตกตะลึง รวมไปถึงเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายด้วย เพราะพวกเขาทุกผู้คนต่างรู้สึกอับอายถึงการที่ไร้ความสามารถของตนเอง

ตอนนี้มีนักยุทธ์อาณาจักรนภาสวรรค์กำลังจะผ่านเข้าไปได้ถึงระดับหก!

ส่วนพวกเขาเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายกลับไม่กล้าแม้แต่จะท้าทายระดับนั้น

เหล่ายอดอัจฉริยะนี่มันแตกต่างจากผู้คนทั่วไปเสียจริงๆ

ในค่ายกลดาบระดับที่หกนั้นพลังของมันแสนที่จะรุนแรงทำให้สภาพของฉูชิงที่ต้องปะทะกับเหล่าดาบแสงนั้นแตกต่างจากระดับก่อนๆ มาก บาดแผลบนร่างกายของเขานั้นเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

ฉูชิงสะบัดดาบ ใช้พลังของสามแนวคิดจนถึงที่สุด ทั้งยังใช้พลังสายเลือดพยัคฆ์ขาวออกมาจนถึงขีดจำกัด

ถึงจะเป็นเช่นนั้นตอนนี้ฉูชิงก็ยังมีสภาพปางตาย หลบรอดเฉียดจุดตายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

นั่นทำให้ทุกผู้คนต่างตื่นตะลึง ไม่อาจทราบได้เลยว่าเขาจะสามารถผ่านระดับนี้ไปได้หรือไม่

แต่จู่ๆ ค่ายกลดาบก็เงียบสงบลงก่อนจะเผยให้เห็นค่ายกลเคลื่อนย้าย

ฉูชิงสามารถผ่านระดับที่หกได้!

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างถอนหายใจยาวออกมา ตอนนี้ฉูชิง นภาสวรรค์หกดาวขั้นสุดคนนี้กลับสามารถผ่านระดับที่หกมาได้จริง!

เรื่องนี้มันจะกลายเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของเขา!

สภาพของฉูชิงในตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ภาพนั้นมันกลับสุดแสนที่จะยิ่งใหญ่ในสายตาของผู้มองดู

นี่คือชายหนุ่มที่ไม่รู้จักคำว่าขีดจำกัด!

จากนั้นฉูชิงก็ค่อยๆ ลากร่างปางตายของตนเข้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้าย

แต่ก่อนจะเข้าค่ายกลเคลื่อนย้ายไปฉูชิงกลับหันมามองดูทางเย่หยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน

‘พรึบ!’

สายตาทุกคู่จึงหันมาจับจ้องที่เย่หยวนในทันที

เพราะการอวดอ้างนั้นมันถูกร้องบอกไปทั่ว!

ตามที่เย่หยวนได้อวดอ้างไว้ เขาจะต้องผ่านค่ายกลดาบไปถึงระดับเก้า ถึงจะมีสิทธิในการอยู่ในมิติวิเศษนี้ต่อไป

แต่ค่ายกลดาบระดับเก้านั้นมันเป็นไปได้หรือ?

จีคังเองเป็นถึงเทพถ่องแท้เก้าดาวกลับไม่อาจจะผ่านไปถึงระดับเจ็ดได้

แน่นอนว่าพลังของระดับเก้านั้นมันย่อมไม่มีใครกล้าพอที่จะคาดเดา

เพราะนั่นคือสิ่งต้องห้ามอย่างแท้จริง!

“คุณชายเย่ ถึงตาเจ้าแล้ว! เมื่อสักครู่นี้เจ้าอวดอ้างตัวเองอย่างล้นเหลือตอนนี้เจ้าพร้อมที่จะมุดแผ่นดินหนีรึยัง?” คนที่พูดขึ้นนี้คือยอดอัจฉริยะคนหนึ่งของเมืองหลวงจักรพรรดิเก้าอัคคีนามฉีเหิง

เย่หยวนนั้นแค่มองทีเดียวก็เข้าใจท่าทางของคนผู้นี้ได้ทันที เขานั้นต้องการที่จะประจบฉูชิง

แต่คำพูดนี้ของเขาเหล่าผู้คนต่างไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมเลย

เพราะอย่างไรเสียเย่หยวนก็เป็นคนที่อวดอ้างตัวเองขึ้นมาก่อน

ไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะเข้าค่ายกลดาบไปอย่างแน่นอนเพราะเย่หยวนคงไม่เอาชีวิตไปทิ้งง่ายๆ

“เจ้าหมาตัวนี้มันมาจากไหนกัน? มาเห่ามาหอนอยู่แถวนี้?” เย่หยวนไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองฉีเหิงและกล่าวขึ้นมา

นั่นทำให้ฉีเหิงหน้าแดงก่ำขึ้นทันที “หากถามหาหมา ก็เจ้าน่ะสิหมา?! ตอนนี้เจ้ากลัวจนตัวสั่นเหมือนหมาข้างถนนเลยมิใช่?”

เย่หยวนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “เจ้านายเจ้าแค่ผ่านระดับหกของค่ายกลดาบได้แต่ดูเจ้าวางท่าเข้าสิ หากเจ้าอยากเลียเท้าของเขาปานนั้นทำไมเจ้าไปลองเจ้าไปท้าทายค่ายกลดาบด้วยตัวเองเล่า?”

ทุกคนต่างมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน จนถึงตอนนี้ปากของเขาก็ยังดีไม่เปลี่ยน

แค่ระดับหก?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ