“ท้าทายต่อ!”
เย่หยวนไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เลือกที่จะท้าทายต่อในทันที
สำหรับคนอื่นๆ แล้วค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้มันเป็นสิ่งที่ใหญ่ยิ่งสามารถพรากชีวิตพวกเขาทั้งหลายไปได้ง่ายๆ
แต่กับเย่หยวนแล้วมันไม่สามารถจะทำอะไรได้มากมาย
ที่เขาผ่านรอบแรกมาได้อย่างง่ายดายนั้นก็มิใช่เพราะแนวคิดแห่งห้วงมิติเสียด้วยซ้ำ
การกลับมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมันก็เหมือนได้กลับบ้านเกิด ตราบเท่าที่เย่หยวนปล่อยคลื่นเต๋าสวรรค์ของจอมเทพนิรันดร์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลดาบที่แข็งแกร่งปานใดมันก็ไม่มีทางทำอันตรายเขาได้เลย
ค่ายกลดาบสังหารสวรรค์มันก็ไม่มีข้อยกเว้น กับเลือดแท้วิหคชาดเองก็เช่นกัน ทุกสิ่งอย่างมันล้วนดำเนินไปเช่นนี้
เย่หยวนนั้นมีไข่มุกสยบวิญญาณและศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ สองสมบัติวิญญาณอยู่กับตัวมีหรือที่กับดักของจอมเทพนิรันดร์จะทำอันตรายใดๆ ต่อเขาได้?
ในค่ายกลดาบระดับที่สี่ จู่ๆ คนทั้งหลายก็เห็นพลังของมันที่เพิ่มพูนขึ้น
ตอนนี้เย่หยวนจึงเริ่มลงมือ
แต่การลงมือของเขานั้นเรียบง่าย เพียงแค่เขาขยับมือเหล่าดาบแสงทั้งหลายมันก็ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดาย
เหล่าดาบแสงที่ว่ารุนแรงนั้นไม่สามารถจะเข้าถึงตัวเขาได้แม้แต่น้อย
“แข็งแกร่ง! เย่หยวนสามารถผ่านระดับที่สี่ไปได้สบายเสียยิ่งกว่าฉูชิงเสียอีก!”
“ฉูชิงผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกัน แถมยังมีเลือดแท้พยัคฆ์ขาวในกายถึงสามารถทำได้ขนาดนั้น แต่เย่หยวนคนนี้… เขาพึ่งพาอะไรกัน?”
ทุกคนต่างมองดูท่าทางสบายๆ ของเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัว
ตอนนี้เย่หยวนนั้นไม่ได้ใช้พลังของเต๋าสวรรค์อีกแล้ว
ฉูชิงที่ผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันนั้นมันอาจจะฟังดูแข็งแกร่งแต่การผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันมันย่อมจะทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะเข้าใจแนวคิดแต่ละแนวคิดของเขาช้าลงไปด้วยอย่างมาก
แม้ว่าฉูชิงจะมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันไปอย่างมากหลังผสานแนวคิดทั้งสามได้แต่มันก็ยังไม่พอหากเขาคิดอยากกระโดดข้ามสองถึงสามดาวไปสู้อย่างที่เย่หยวนทำ
แถมตอนนี้เย่หยวนยังบรรลุแนวคิดแห่งดาบมาถึงห้าดาวขั้นกลาง แนวคิดแห่งห้วงมิติถึงสี่ดาวขั้นสุด
แน่นอนว่าเมื่อนำทั้งสองแนวคิดนี้มาผสานกันมันจะสร้างพลังที่เหนือล้ำกว่าใครๆ
ค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้มันจะทำการประเมินโดยรวมถึงพลังของผู้ท้าทายและพลังคล้ายๆ นภาสวรรค์สามดาวอย่างเย่หยวนมันย่อมไม่ถูกประเมินไว้สูง ทำให้เขาสามารถผ่านระดับที่สี่มาได้อย่างไม่ยากนัก
หลังจากนั้นไปก็เป็นระดับที่ห้า ระดับที่หก สุดท้ายเย่หยวนก็สามารถผ่านบรรลุมาได้จริงๆ
เมื่อค่ายกลเคลื่อนย้ายปรากฏขึ้นมาอีกครั้งทุกคนต่างแทบลืมหายใจ
เขาจะเลือกท้าทายต่อหรือไม่?
“เจ้าสามารถเลือกที่จะออกไปหรือท้าทายต่อได้!” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
ที่ส่วนลึกที่สุดของมหาค่ายกลตอนนี้ฉูชิงนั้นเดิมทีกำลังดีใจเพราะสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำที่ได้มาไว้ในมือ
แต่ทว่าตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเหยเกอย่างถึงที่สุด
เขาจ้องมองดูเย่หยวนหวังเพียงแค่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกการท้าทายต่อไป
เพราะเขามั่นใจมากว่าเย่หยวนจะไม่สามารถผ่านสามระดับหลังสุดไปได้แน่
สามระดับหลังนี้ มันไม่เคยมีใครกล้าที่จะเข้าไปท้าทายมาก่อน
“ท้าทายต่อ!” เย่หยวนกล่าว
นั่นทำให้สติของหลายๆ คนต้องสั่นสะท้าน ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะกล้าทำการท้าทายต่อเช่นนี้
เพื่อที่จะข่มฉูชิง เขากลับไม่คิดรักชีวิตตัวเองอีกแล้วหรือ?
หลายๆ คนที่เห็นเรื่องราวต่างก็มองออกว่าระดับที่หกนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายกับเย่หยวนนัก แม้มันจะไม่ได้ลำบากถึงขั้นฉูชิงแต่มันก็คงเป็นภาระที่หนักไม่น้อยแก่เขา
สามระดับสุดท้ายนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถผ่านไปได้!
ระดับที่เจ็ดนั้นไม่ได้เปิดใช้งานขึ้นในทันที
ก่อนที่มันจะเปิดใช้มันกลับมีพลังทำลายล้างได้พวยพุ่งออกมายังพื้นที่รอบๆ
‘ฟุ ฟุ ฟุ…’
เหล่านักยุทธ์หลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ค่ายกลถึงกับถูกคลื่นพลังนี้ทำลายจนแหลกสลายลง!
นั่นทำให้สีหน้าของเหล่านักยุทธ์ทั้งหลายถอดสีและรีบพุ่งตัวถอยหลังกลับออกมาทันที
ค่ายกลดาบระดับเจ็ดนั้นช่างมีพลังที่แสนน่ากลัว แค่พลังที่ถูกปล่อยออกมารอบๆ มันก็มากพอที่จะระเบิดร่างของนักยุทธ์อาณาจักรนภาสวรรค์ทิ้งไปได้
เย่หยวนที่อยู่กลางดงพลังนี้จะต้องพบเจอแรงกดดันแค่ไหนมันก็คงไม่อยากที่จะเดา
นั่นทำให้สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่เย่หยวน
“นี่มัน… ต้องมีคนได้ตายแน่! เย่หยวนประเมินพลังของตนสูงเกินไป!”
“นี่หรือคือพลังของเทพสวรรค์? เด็กคนนี้มันต้องตายลงแน่!”
“ระดับเจ็ดยังน่ากลัวขนาดนี้ ถ้าเป็นระดับแปดหรือเก้ามันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...