จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1874

คำพูดของเย่หยวนนั้นดังก้องไปทั่วด้วยน้ำเสียงที่แสนหยิ่งยโส

แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเลยที่คิดว่าเขากำลังพูดจาอวดดี

เพราะเย่หยวนที่มีธงศึกดาวฤกษ์อยู่ในมือนี้มันมีคุณสมบัติพอที่จะเทียบเคียงกับเทพถ่องแท้ขั้นสุดหลายคนด้วยกัน

แต่อีกด้านทางฉูชิงที่อยู่ห่างออกไปนั้นกำลังยืนมองดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าซีดเผือด

ระหว่างทางที่เดินทางมานี้เขาได้ดูถูกเย่หยวนอยู่ตลอดมา

จนมาถึงเวลาที่เย่หยวนผ่านค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้ที่เขาเริ่มได้เห็นความน่ากลัวที่แท้จริงของเย่หยวน

ถึงเวลานั้นเขาก็ได้ยอมรับแล้วว่าเย่หยวนนั้นเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง

แต่ตอนนี้เขากลับกำลังรู้สึกกลัว!

เย่หยวนที่มีธงศึกดาวฤกษ์อยู่ในมือนี้สามารถต่อสู้จนเสมอกับจีคัง หยางอี้เต่าและพวกได้

การจะสังหารตัวฉูชิงมันก็คงง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ

เย่หยวนหันมองดูสี่ทิศรอบกายพร้อมโบกสะบัดธงศึกดาวฤกษ์ในมือด้วยรอยยิ้ม “ธงศึกดาวฤกษ์อยู่ที่นี่แล้ว ใครคิดอยากได้ก็จงเข้ามาเอาไป”

ถึงตอนนี้จะยังมีใครกล้าเข้าไปแย่งชิงธงศึกดาวฤกษ์อีก?

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาทั้งหลายจะเบื่อหน่ายในชีวิตแล้ว

จีคังและพวกต่างแสดงสีหน้าไม่สู้ดีออกมาด้วยความรู้สึกเสียดาย

สองเทพถ่องแท้เก้าดาวบวกกับเทพถ่องแท้แปดดาวอีกคนกลับทำได้แต่ปัดป้องเสมอกับนภาสวรรค์สามดาวคนหนึ่ง

เรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังมันก็คงเป็นได้แค่เรื่องตลก

แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้รู้แล้วว่าเย่หยวนมีคุณสมบัติพอที่จะครอบครองสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์จริง!

“หึ! ไปกัน!” จีคังหันไปบอกทุกคนและเดินนำหน้าไปยังยอดเขาต่อไป

สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ในที่แห่งนี้มันต้องไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียวอย่างแน่นอน แถมพลังฝีมือของเย่หยวนเองก็ไม่ธรรมดา เช่นนี้การจะต่อสู้เสี่ยงชีวิตกันเสียแต่ตรงนี้มันคงเป็นเรื่องไม่ฉลาดนัก

เมื่อพวกจีคังจากไปทางหยางอี้เต่าเองก็ตามไปติดๆ

เมื่อเหล่ายอดคนทั้งหลายจากไปแล้วพวกคนอื่นๆ ที่เคยว่าดูถูกเย่หยวนไว้ก็ค่อยๆ เดินหายลับไปเช่นกัน

ในค่ายกลดาบสังหารสวรรค์ตอนนี้คงเหลือแค่จี้ฉุนที่กำลังทนทานผ่านมันมาอยู่

เย่หยวนค่อยๆ เดินหาที่นั่งพักและเริ่มทำสมาธิกับตัว

เดิมทีเขานั้นได้รับความรู้จากค่ายกลดาบสังหารสวรรค์มาไม่น้อย ทำให้ความเข้าใจในแนวคิดแห่งดาบของเขาเพิ่มพูนขึ้นไปจนถึงห้าดาวขั้นปลาย เขาจึงต้องนำมันมาวิเคราะห์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้อีกครั้ง

แถมเรื่องราวในตอนนี้มันก็เป็นอะไรที่พอเหมาะพอดี ทั้งเล้งชิวหลิงและกู่เทียนเฉนั้นต่างยังไม่ผ่านค่ายกลข้ามมายังฝั่งนี้ ทำให้เขาสามารถนั่งรอได้อย่างสบายใจ

แต่เวลานี้เองที่จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเย่หยวน

เย่หยวนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองดูตรงหน้าพร้อมถามขึ้น “มีอะไรหรือ?”

“หึๆ เปล่าหรอก ข้าแค่เห็นว่าพี่เย่นั้นมีพลังเหนือล้ำและคิดอยากมาทำความรู้จักไว้ ข้ามีนามว่าถังเหยียนเป็นนักยุทธจรคนหนึ่ง” ชายหนุ่มคนนั้นยกมือขึ้นคารวะพร้อมพูดแนะนำตัว

เย่หยวนเองก็มองเห็นชายหนุ่มคนนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้า เดิมทีตอนที่เขาเข้าท้าทายค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นั้นเขาสามารถผ่านสามระดับแรกมาได้อย่างง่ายดาย มันจึงทำให้เย่หยวนประหลาดใจไม่น้อย

แต่ทว่าตัวเขาผู้นี้กลับไม่ได้คิดที่จะท้าทายค่ายกลต่อและเลือกที่จะเดินผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมาทันที

แม้ว่าถังเหยียนคนนี้จะเป็นนักยุทธจรแต่เขาก็มีพลังฝีมือที่นับได้ว่าเหนือล้ำมาก

แต่ว่าเขานั้นทำตัวต่างจากฉูชิงหรือซัวหาน เพราะเขานั้นไม่พยายามที่จะทำตัวเด่นสักเท่าใด

“ที่แท้เป็นพี่ถังนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จัก!”

เย่หยวนนั้นเป็นคนที่ตอบรับมารยาทด้วยมารยาท

ถังเหยียนคนนี้เข้ามาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มและคำพูดแสนสุภาพ แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ทำตัวเสียมารยาทใส่อีกฝ่าย

ถังเหยียนยิ้มตอบ “แท้จริงแล้วตอนที่อยู่ในประตูวิหคชาด ข้านั้นได้เห็นพี่เย่ลงมือจนรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งกาย! การผสานแนวคิดแห่งดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติเข้าด้วยกันได้ถึงขั้นนี้มันเป็นสิ่งที่ถังคนนี้เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น!”

เย่หยวนกล่าว “เจ้าเองก็พูดเกินไป พี่ถังเองก็คงไม่ได้มีพลังฝีมือที่ธรรมดาเช่นกันใช่ไหมเล่า?”

ถังเหยียนยิ้มขึ้นมาอย่างขื่นขมเมื่อได้ยินเช่นนั้น “หึ ถังคนนี้เคยคิดมาตลอดว่าตัวเองนั้นเก่งกาจแต่หากเทียบเคียงกับพี่เย่แล้วมันเหมือนอยู่กันคนละภพ ก่อนหน้าที่จะมานี้ถังคนนี้เองก็มั่นใจในตัวเองอย่างมากเหลือ แต่ตอนนี้มันช่างน่าขัน เมื่อขึ้นหลังเสือมาแล้วมันย่อมยากที่จะลงได้ ข้าเป็นเพียงแค่นักยุทธจรคนหนึ่งที่ไม่มีที่พึ่งพา ข้าแค่นึกสงสัยว่า… ข้าจะติดตามพี่เย่ไปได้หรือไม่? เป็นแค่ผู้ติดตามก็เพียงพอกับข้าแล้ว”

ถังเหยียนพูดออกมาอย่างสละสลวยแต่แท้จริงแล้วความหมายของเขาก็คือเขาต้องการจะได้คนช่วยคุ้มครอง

เพราะการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้มันมิใช่สิ่งที่เขาจะยุ่งเกี่ยวด้วยได้เลย

นักยุทธจรหลายต่อหลายคนคิดที่จะเข้ามาเพื่อหยิบชิ้นปลามันไปในเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็ต้องกดพลังบ่มเพาะของตนลงมายังอาณาจักรนภาสวรรค์

แต่ตอนนี้ทุกผู้คนต่างได้รับพลังเดิมกลับคืนมา สำหรับนักยุทธ์นภาสวรรค์อย่างพวกเขาแล้วเรื่องราวมันคงไม่ง่ายอีก

ตอนนี้จะกลับตัวก็ไม่ได้ จะให้ไปต่อมันก็คงไม่มีทางถึง

แม้ว่าเย่หยวนคนนี้จะเป็นนักยุทธ์นภาสวรรค์เช่นกัน แต่ตอนนี้มันคงไม่มีใครที่จะมองว่าเขาคนนี้เป็นแค่นภาสวรรค์คนหนึ่งแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ