“เจ้าว่าอย่างไรนะ?! ฝางคุนตายลงด้วยน้ำมือของนภาสวรรค์ห้าดาวผู้หนึ่ง?”
เมื่อหยูจินซงได้ยินข่าวนี้เขาก็แทบจะลุกกระโดดขึ้นจากที่นั่ง
พลังฝีมือของฝางคุนนั้นเขารู้ถึงมันอย่างดี
มีหรือที่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งจะฆ่าสังหารเขาลงได้?
ท่าทางความคิดแรกที่เขามีหลังได้ยินเรื่องราวคือเขาไม่คิดจะเชื่อมันเลยแม้สักนิด
“ช-ใช่ไหมล่ะขอรับ? แต่เจ้าเด็กคนนั้นมันใช้วิชาแปลกประหลาด ปล่อยอะไรบางอย่างออกมาเหมือนเป็นรังไหมครอบท่านฝางคุนเข้าไปด้านในภายในพริบตาเขาก็ตายลง”
เมื่อหัวหน้าของสี่ยอดผู้พิทักษ์นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวที่ปะทุขึ้นมาในจิตใจอีกครั้ง
เมื่อเย่หยวนสร้างเรื่องราวใหญ่โตขนาดนั้นแน่นอนว่าทางดงปิติย่อมต้องปิดตัวลงเป็นการชั่วคราว
และที่แห่งนั้นมันคือแหล่งสูบเงินชั้นดีของจวนเจ้าเมือง
เท่านี้เรื่องราวที่เย่หยวนก่อมันย่อมทำให้หยูจินซงโกรธแค้นอย่างสาหัส
หยูจินซงนั้นโกรธจนใบหน้าแดงดำมองดูผู้พิทักษ์คนนั้นก่อนจะบอก “เจ้าบอกว่าเด็กคนนี้มันมาจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แห่งสันเขาใต้? แถมยังเป็นแค่ผู้อาวุโสใหญ่ของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ด้วย?”
ผู้พิทักษ์คนนั้นพยักหน้ารับออกมาพร้อมด้วยเหงื่อเย็นเยียยบ “ขอรับนายน้อย! เด็กคนนั้นมันถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้อาวุโสใหญ่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จริง นามว่าเย่หยวน ก่อนจะมายังดงปิติมันนั้นได้ไปก่อเรื่องที่สำนักอากาศแจ่มจนแทบฉีกหอลมไหลเป็นชิ้นๆ! อ่า จริงด้วย ก่อนที่มันจะมายังเมืองหลวงจักรพรรดินั้นมันยังฆ่าสังหารนายน้อยตระกูลหวู่ หวู่เทียนลงด้วยพร้อมๆ กับคนรับใช้ตระกูลหวู่พลังบ่มเพาะนภาสวรรค์แปดดาว หวู่หยุน มาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิในครานี้มันคงมาเพื่อเรื่องของเจียงยู่ถังเป็นอย่างแน่”
จวนเจ้าเมืองนั้นย่อมมีเส้นสายในการหาข้อมูลอย่างมากมาย พวกเขาแค่ใช้เวลาคืนเดียวก็สามารถสืบสาวเรื่องราวของเย่หยวนได้จนครบถ้วน
ได้ยินคำรายงานของผู้พิทักษ์หยูจินซงก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที
ในเวลาครึ่งเดือนมานี้เย่หยวนแทบจะกลับเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นนี้จากหน้ามือเป็นหลังมือท้าทายสามขั้นอำนาจใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว
และแม้ว่าตระกูลหวู่นั้นจะไม่ได้มีพลังอำนาจเทียบเคียงกับสามขั้วอำนาจใหญ่ได้พวกเขาเองก็ไม่ใช่ตัวตนที่ใครๆ จะไปท้าทายได้ง่ายๆ เช่นกัน
เพราะบรรพบุรุษของตระกูลหวู่เองก็เป็นถึงเทพถ่องแท้เช่นกัน!
หยูจินซงหรี่ตาลงมองราวกับงูพิษที่คิดแผนชั่วร้ายได้ “ส่งคำสั่งลงไป สามวันจากนี้ให้ทำการประหารเจียงยู่ถังต่อหน้าผู้คนที่ลานดงสวรรค์! ถึงเวลานั้นเราจะวางกำลังให้รอบ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีสามเศียรหกกรหรือไม่!”
…
ข่าวเรื่องนี้แพร่ไปทั่วจวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว และในฐานะหนึ่งในสามขั้วอำนาจใหญ่ทางสำนักอากาศแจ่มเองก็ย่อมต้องรู้เรื่องราวด้วยเช่นกัน
ซ่งหยานไคในตอนนี้กำลังยืนอยู่ต่อหน้าชายวัยกลางคนผู้หนึ่งด้วยท่าทางกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างจับใจ
โชคยังดีที่ตอนนั้นเขาได้ปล่อยเย่หยวนเดินออกไปและไม่ได้ลงมือคิดหยุดอีกฝ่าย
ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่เขาต้องพบเจอมันก็คงไม่ต่างจากฝางคุน
ไม่สิ ตัวเขานั้นอ่อนแอกว่าฝางคุนมาก มันย่อมไม่มีความหวังจะรอดชีวิตใดๆ
“ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองมันซับซ้อนยุ่งเหยิงอย่างมากตั้งแต่คืนก่อน ไม่มีใครนึกใครฝันว่าแค่ผู้อาวุโสใหญ่จากเมืองจักรพรรดิเบื้องล่างคนหนึ่งจะสามารถสร้างเรื่องราวให้ใหญ่โตได้ขนาดนี้!” ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมถอนหายใจยาว
ซ่งหยานไคนั้นได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ใครจะไปคิดว่านภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งจะกล้าเดินสังหารออกมาจากดงปิติตรงๆ เช่นนั้นได้?”
ชายคนนั้นพยักหน้ารับออกมา “เจียงยู่ถังเองก็เป็นแค่ผู้ตรวจการน้อยๆ คนหนึ่งไม่มีอะไรสำคัญ การต้องไปทำสงครามกับจวนเจ้าเมืองและหอยอดดอกเพราะตัวเขาคนเดียวมันดูจะไม่คุ้มเสียจนเกินไป ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเขาจะไปรู้จักเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์เช่นนี้เข้า ธุรกิจของดงปิตินั้นต่างเป็นสิ่งที่ทุกผู้คนอิจฉา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าไปสร้างเรื่องราวใดๆ มาก่อน ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนคนเดียวนี้จะทำลายมันลงจนสิ้น!”
ซ่งหยานไคพูดขึ้น “เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรต่อดี? เย่หยวนนั้นได้เปิดศึกต่อฟ้าแล้ว แต่เรา… เรากลับอยู่เฉย!”
ชายวัยกลางคนนั้นส่ายหัวออกมา “เบื้องบนได้สั่งลงมาแล้ว เราต้องปกป้องเจียงยู่ถัง! ทั้งจวนเจ้าเมืองทั้งหอยอดดอกต่างคิดจะลงมือกันเต็มที เด็กคนนี้มันมากพรสวรรค์วันข้างหน้าต้องช่วงเหลือเราได้มากมายแน่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำการแก้ตัวไถ่โทษกับเรื่องที่ผ่านมาให้ดี!”
เมื่อซ่งหยานไคได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีไปอีกครา
…
ทุกคนในเมืองนั้นต่างตามหาเย่หยวนกันอย่างไม่หยุดพักแต่หลังจากพาเจียงไห่ถังออกไปจากดงปิติแล้วมันก็ราวกับว่าคนทั้งสองนั้นได้หายไปกับอากาศ ไม่อาจตามหาร่องรอยใดๆ ได้ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...