สมบัติความรู้ที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลทิ้งไว้ให้นั้นมันทำให้เย่หยวนได้เข้าใจถึงอาณาจักรเต๋าโอสถ
ก่อนจะมาถึงอาณาจักรเต๋านั้นมันคืออาณาจักรต้น ระดับเป็นพื้นฐานที่คนเริ่มรู้เรื่องราวของวิชาการหลอมโอสถ
นักหลอมโอสถในอาณาจักรต้นนั้นจะใช้ความรู้และประสบการณ์ล้วนๆ ในการหลอมโอสถออกมาทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะหลอมโอสถให้ได้ระดับคุณภาพสูง
หลังผ่านอาณาจักรต้นมาแล้วก็จะเป็นอาณาจักรเต๋า อาณาจักรเต๋านั้นคืออาณาจักรที่เหล่านักหลอมโอสถเริ่มเข้าใจในยอดเต๋าและสามารถหลอมโอสถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเก่า ทำให้การหลอมโอสถเองก็สามารถสร้างหลอมสร้างโอสถที่มีคุณภาพสูงได้แม่นยำขึ้น
เย่หยวนนั้นขึ้นมายังอาณาจักรนี้ตั้งแต่ตอนที่ไปทำให้ทำนองแห่งยอดเต๋าบรรเลง
ในตอนนี้เวลาหนึ่งร้อยปีในการทำความเข้าใจเต๋าและการพยายามสร้างโอสถครองวิญญาณผสานเต๋ามันจึงทำให้ความรู้ความเข้าใจในจิตศักดิ์สิทธิ์และเต๋าโอสถของเย่หยวนั้นพัฒนาขึ้นในทุกๆ วันจนได้มาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดแล้ว
มันเป็นอย่างที่เย่หยวนคาดการ การวิจัยหาทางสร้างโอสถครองวิญญาณผสานเต๋านั้นมันทำให้เขาได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจในเต๋าโอสถไปอย่างมากจริงๆ
ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือการลองลงมือทำ แต่มันก็ได้ให้ประโยชน์กับเขาอย่างมากมายแล้ว
จากความรู้ที่ได้รับมาจากมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มันยังมีอาณาจักรที่เหนือล้ำอาณาจักรเต๋าขึ้นไปอีกคืออาณาจักรบรรพกาล
ทั้งโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นได้ยืนอยู่ในจุดนี้
อาณาจักรบรรพกาลนั้นเป็นอาณาจักรที่แสนกว้างใหญ่เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่แค่สองคนนี้เท่านั้นที่เดินขึ้นไปถึงอาณาจักรบรรพกาลได้ จักรพรรดิเทพสวรรค์ที่เก่งกาจหลายคนเองก็สามารถขึ้นไปถึงอาณาจักรบรรพกาลนี้ได้ เพียงแค่ว่าคนทั้งสองนี้เดินนำคนอื่นๆ ไปไกลลิบเท่านั้น
อาณาจักรเต๋าของเย่หยวนนั้นอยู่ที่ขั้นสุดเพียงแค่ก้าวเดียวจากอาณาจักรบรรพกาล แต่ว่าก้าวเดินข้างหน้านี้มันช่างเป็นเรื่องสุดแสนยากเย็น
นักหลอมโอสถที่สามารถขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดเองนั้นแท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้มีมากมายเลยและส่วนมากก็จะเป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวหรือแปดดาว
ส่วนอาณาจักรบรรพกาลนั้นมันยิ่งหาได้ยากยิ่งกว่า
ในตอนนี้เย่หยวนนั้นอยู่ที่อาณาจักรเต๋าขั้นสุด จะบอกว่าความเข้าใจในวิชาโอสถของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่านักหลอมโอสถกว่าเก้าในสิบของมหาพิภพถงเทียนแล้วก็ว่าได้
แถมตอนนี้เขายังเป็นแค่จอมเทพโอสถห้าดาวผู้หนึ่ง
หลังจากผ่านไปได้สิบปีในที่สุดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งหลายมันก็ชัดเจนขึ้นมาในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์
ในเวลาแค่สิบปีนี้เมืองนี้ได้ให้กำเนิดยอดฝีมือนภาสวรรค์มากมาย เหล่าราชันพระเจ้านั้นยิ่งมีมากมายอย่างไม่อาจนับได้ ทำให้กำลังของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นพัฒนาได้อีกขั้น
ที่สำคัญกว่านั้นคือเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์น้อยๆ แห่งการโอสถไปแล้ว
ตอนนี้เหล่านักหลอมโอสถจากทั่วทุกทิศต่างมุ่งหน้ามาเพื่อจะเข้าหอโอสถ มันมากเสียจนเกินกว่าจะนับได้
หอโอสถเองนั้นก็ได้ตั้งเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เข้มงวดอย่างมากขึ้นมาในการรับคนใหม่ๆ
เมื่อเย่หยวนออกมาจากการเก็บตัวเขาก็พบตงน้อยและหมูสมบัติมารออยู่ที่ด้านนอกก่อนหน้าแล้ว
เมื่อเห็นเย่หยวนหมูสมบัติก็พุ่งตัวเข้ามาใส่อกของเย่หยวนในทันที แน่นอนว่าเป้าหมายของมันย่อมชัดเจนเสียยิ่งกว่าชัดเจน
“อู๊ดๆ!”
หมูสมบัตินั้นแสดงท่าทางเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเย่หยวนและร้องออกมาด้วยท่าทางดีใจ
ตงน้อยเองก็รู้สึกได้ถึงมันเขาจึงกล่าวขึ้นมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “ใจอิสระดั่งเมฆ จิตมั่นคงดั่งสายน้ำ เจ้า… ถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดแล้ว?”
อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นคือตัวตนที่ลึกลับซับซ้อน คนที่ขึ้นไปถึงนั้นมีจำนวนไม่มาก
แต่ตงน้อยนั้นเดิมทีก็เป็นคนที่ยืนอยู่ในอาณาจักรเต๋า เขาจึงพอที่จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ของเย่หยวน
เย่หยวนยิ้มออกมา “เก็บตัวไปสิบปีนี้ข้าได้ความเข้าใจมาบ้าง ตอนนี้จึงอยู่ที่ขั้นสุดแล้ว!”
ได้ยินเช่นนั้นมุมปากของตงน้อยก็กระตุกขึ้นทันที สายตาที่เขามองดูเย่หยวนนั้นเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...