เซียวเฟิงนั้นได้แต่เปิดปากแต่ไม่อาจพูดอะไรออกมา
คำพูดของเย่หยวนนี้เขาไม่อาจเข้าใจได้
ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นคือสถานที่ที่โด่งดังในเรื่องโอสถอย่างมากภายในดินแดนมนุษย์ด้วยกัน
และเหตุผลมันก็มิใช่ใครที่ไหนนอกจากตัวเทพสวรรค์เปียวหยู จอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้นี้ที่มีชื่อเสียงดังสนั่นไปทุกทิศ
เพราะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นคือสุดยอดตัวตนที่ผู้คนธรรมดาจะเข้าใจได้แล้ว
เหล่ายอดฝีมือจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นล้วนแล้วต่างทำตัวลึกลับอย่างที่แม้แต่เทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังไม่อาจพบเจอพวกเขาได้ง่ายๆ
และแน่นอนว่าจอมเทพโอสถแปดดาวมันยิ่งต้องลึกลับมากเสียยิ่งกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไป
เมื่อก้าวขึ้นไปถึงระดับของจอมเทพโอสถแปดดาวแล้วพวกเขาทั้งหลายนั้นก็แทบจะไม่สนใจสิ่งของใดๆ ทางโลกทั้งสิ้น หากคิดอยากเชิญพวกเขาเหล่านั้นมาลงมือมันก็คงเป็นได้แค่ฝัน
มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์ด้วยกันเท่านั้นที่จะเชิญพวกเขาไปได้
เพราะฉะนั้นเทพสวรรค์เปียวหยูที่มีพลังฝีมือความเข้าใจเต๋าโอสถอย่างลึกซึ้งนี้จึงเป็นตัวตนที่สูงสุดเท่าที่ผู้คนทั่วๆ ไปจะเข้าถึงได้
ด้วยความสามารถด้านโอสถของเย่หยวนในตอนนี้เหล่าจอมเทพโอสถทั่วๆ ไปทั้งหลายมันย่อมไม่อาจอยู่ในสายตาของเขาได้
มีเพียงแค่เทพสวรรค์เปียวหยูยอดฝีมือระดับนี้เท่านั้นที่เขาคิดจะสนใจคบหาสมาคมด้วย
คำพูดเหล่านี้มันย่อมอาจจะฟังดูหลงตัวเองหากออกมาจากปากคนอื่น แต่ตงน้อยและพวกต่างก็รู้ดีว่าเย่หยวนเก่งกาจได้ขนาดนั้น
…
ในพริบตาเวลาก็ผ่านไปได้หลายปีจนในที่สุดพวกเย่หยวนทั้งหลายก็ได้เดินทางมาถึงยังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาว
“พระเจ้าช่วย ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวทำมาจากทองทั้งเมืองเลยหรือ?”
ต่อให้เขาจะพบเจอเรื่องราวมามากมายแค่ไหนจากการติดตามเย่หยวนแต่หนิงเทียนปิงก็ยังไม่เคยพบเคยเห็นความอลังการในระดับนี้มาก่อน
จะใช้คำว่าสุดยอดหรืออลังการมาบรรยายความหรูหราของเมืองนี้มันก็คงไม่พอ
ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นถูกล้อมไปด้วยเทือกเขาโดยมีกำแพงเมืองเป็นสีทองอร่ามราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำบริสุทธิ์ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่อลังการ
“หึ เจ้าเองก็จะดูถูกยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวจนเกินไป! หินอิฐแต่ละก้อนในเมืองนี้มันถูกสร้างด้วยทรายเหล็กทองครึ่งแถมยังมีค่ายกลระดับเจ็ดติดตั้งไว้ภายใน ต่อให้เป็นเทพสวรรค์มาลงมือเองมันก็คงไม่มีทางทำให้เกิดรอยขีดข่วนใดๆ ได้” เซียวเฟิงอธิบาย
หนิงเทียนปิงกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “ทรายเหล็กทองครึ่ง! นั่นมันวัสดุระดับเจ็ดแค่ก้อนเล็กๆ ก็มีค่ากว่าทองนับหมื่นแล้ว! เมืองนี้มันตั้งกว้างตั้งใหญ่ เช่นนี้แล้วทรายเหล็กทองครึ่งของทั้งมหาพิภพถงเทียนมันจะไม่หมดสิ้นไปแล้วหรือ?”
เซียวเฟิงยิ้มขึ้น “หอมหาสมบัตินั้นตั้งอยู่ทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียน รายได้แต่ละวันของพวกเรานั้นมันมากเกินกว่าที่จะนับ เมืองนี้มันสุดแสนจะอลังการแน่นอนล่ะ แต่หากเทียบกับทรัพย์สินของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วมันยังเทียบไม่ได้แม้แต่ขนหน้าแข้งสักเส้น”
ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนเองก็ตกตะลึงขึ้นในใจเช่นกัน
จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปานั้นจะนับว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดก็คงไม่ผิดนัก!
“หยุด! พวกเจ้าทั้งหลายมีเอกสารยืนยันตนหรือไม่?” ยามที่หน้าประตูเมืองร้องหยุดพวกเย่หยวนไว้
เมื่อเซียวเฟิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็รีบก้มหัวลงทันที “พี่ชายท่าน ข้านั้นเป็นผู้ดูแลในโถงวาโยขจี นี่คือเหรียญประจำตัวข้า คนเหล่านี้ทั้งหลายคือสหายของหอมหาสมบัติข้าเราหวังจะเข้าไปเจรจาธุรกิจกับโถงวาโยขจี หวังว่าท่านจะเข้าใจ”
เซียวเฟิงในตอนนี้นับเป็นยอดคนอันดับต้นๆ ของหอมหาสมบัติในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ แต่เมื่อมาถึงตรงนี้แม้แต่กับยามเขาก็ยังต้องก้มหัวให้
ยามคนนั้นยิ้มเย้ยออกมาเมื่อเห็นเหรียญ “แค่ผู้ดูแลระดับต่ำกลับกล้ามาพูดเรื่องธุรกิจที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิ เจ้าคงไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่? เจ้ารู้หรือไม่ว่าธุรกิจในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนี้มันเป็นเช่นใด? รีบๆ ไสหัวไปเสียเถอะ เข้าไปก็เสียเวลาคนอื่นเขาเปล่าๆ!”
เซียวเฟิงหันไปมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ อย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อ
เพราะตัวตนของเขานั้นมันต่ำต้อยจนเกินไปในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิเช่นนี้ แม้แต่ยามก็ยังไม่คิดให้เกียรติเขา
เมืองที่ใหญ่แค่ไหนมันก็จะต้องทำธุรกิจที่ใหญ่เท่านั้น คนที่เดินทางมาคุยธุรกิจยังยอดเมืองหลวงจักรพรรดินี้มีใครบ้างที่ไม่ใช่มหาเศรษฐี?
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก่อนที่พวกเขาทั้งหลายจะได้เข้าไปในเมืองมันก็ยังต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารต่างๆ มากมาย
แล้วแค่จอมเทพโอสถสี่ดาวจากเมืองจักรพรรดิเมืองหนึ่งมีหรือที่จะนำพาธุรกิจใหญ่โตใดมาได้?
ยอดฝีมือที่เขาผู้นี้เคยพบเจอมันก็มีมากมายไม่ขาดสาย แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดจะสนใจว่าพวกเย่หยวน เหล่านักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายนี้จะมาทำอะไรเป็นการเป็นงานได้
แม้ว่าตัวเขาเองนั้นก็จะเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์สามดาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...