จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1916

“นี่มัน… นายท่านเจียงหัว ท่านช่วยผ่อนปรนหน่อยได้หรือไม่? เรานั้นมีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับผู้อาวุโสเจียงหยวนจริงๆ”

เซียวเฟิงนั้นไม่นึกฝันว่ารอมาตั้งนานกว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนแต่กลับต้องมาพบเจอเรื่องราวเช่นนี้

เขานั้นไม่ได้กลัวที่จะเสียหน้าใดๆ แต่เขาแค่เจ็บปวดหัวใจที่ตัวเองไม่อาจช่วยเป็นกำลังใดๆ ให้เย่หยวนได้

มันเป็นเรื่องราวที่ยากจะยอมรับได้!

เดิมทีเขานั้นคิดว่าไม่ว่าอย่างไรเสียอาจารย์ของเขานั้นก็เป็นถึงจอมเทพโอสถห้าดาว อีกฝ่ายย่อมจะพอไว้หน้ากันบ้าง ไม่นึกไม่ฝันว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดสนใจเลยแม้แต่น้อยเช่นนี้

เซียวเฟิงนั้นรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ

เพียงแค่เขานั้นยังไม่อยากยอมแพ้และคิดสู้ต่อมัน

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าฝั่งเจียงหัวนั้นจะแสดงใบหน้าดำมืดออกมา “เรื่องสำคัญ? ตัวเจ้า แค่ผู้ดูแลระดับต่ำคนหนึ่งไม่ได้เข้าใจตำแหน่งของตัวเลยหรือ? ทุกคนมายังที่แห่งนี้เพื่อขอพบท่านผู้นำตระกูลด้วยเรื่องสำคัญกันทั้งสิ้น หากข้าปล่อยให้ทุกผู้คนเข้าไปแล้วมีหรือที่ข้าจะยังทำงานเป็นผู้ช่วยได้? ที่สำคัญจดหมายแนะนำจากจอมเทพโอสถห้าดาวมันก็จะช่วยให้เจ้าเข้าพบท่านผู้นำตระกูลได้แล้ว? ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดินี้แค่จอมเทพโอสถห้าดาวมันจะมีค่าใด? เจ้ารีบไสหัวไป อย่าได้ขวางทางผู้คน!”

วินาทีนั้นความโกรธเคืองของเซียวเฟิงก็ปะทุขึ้นทันที

เขานั้นเป็นแค่คนไม่มีชื่อไร้อำนาจใดๆ แต่คำพูดดูถูกของเจียงหัวต่อตัวอาจารย์เขานั้นมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจยอมรับได้

“เจ้า! จะดูถูกผู้คนจนเกินไปแล้ว! เจ้าเองก็เป็นแค่นภาสวรรค์ผู้หนึ่ง เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจมากมายหรือ?” เซียวเฟิงร้องขึ้นอย่างโกรธแค้น

เจียงหัวหรี่ตาลงทันทีและมือขึ้นตบลงมาอย่างไม่คิดส่งสัญญาณเตือนใดๆ

เซียวเฟิงนั้นเป็นแค่ราชันพระเจ้าคนหนึ่งแน่นอนว่าเมื่อเจอกับฝ่ามือนี้มันย่อมเหมือนมีขุนเขาพุ่งตกลงมาใส่ร่าง มีหรือที่เขาจะป้องกันไว้ได้?

แต่ในเวลานั้นเองที่เจียงหัวกลับรู้สึกถึงความเบลอที่ตรงหน้าก่อนจะพบว่าการโจมตีของเขานี้สูญเสียพลังไปจนสิ้น

“เร็ว!” เจียงหัวเบิกตากว้างทันทีด้วยความตื่นตกใจ

เขานั้นเป็นถึงนภาสวรรค์เก้าดาว แต่เขาคนนี้กลับไม่อาจมองเห็นได้เลยว่าเย่หยวนทำอะไรลงไปกันแน่!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในสายตาของเขาเย่หยวนก็เป็นแค่นภาสวรรค์เจ็ดดาวผู้หนึ่ง

แต่ทว่าเขานั้นก็ไม่ได้คิดสนใจเพราะที่แห่งนี้คือบ้านรตระกูลเจียง

“อะไร พวกเจ้าคิดจะมาก่อเรื่องในบ้านตระกูลเจียงหรือ?” เจียงหัวถามขึ้น

เย่หยวนมองดูใบหน้านั้นพร้อมพูดด้วยเสียงราบเรียบ “มันเป็นเจ้าแท้ๆ ที่โจมตีเข้ามาก่อน ทำไมจึงกลายเป็นเราเล่าที่มาก่อเรื่อง? ไม่ให้เจอก็ไม่ต้องเจอสิ เหตุใดต้องไปดูถูกว่าอาจารย์ผู้อื่นเขาด้วย ข้าจะไปทักพ่อเจ้าต่อหน้าเดี๋ยวนี้ เจ้าจะรู้สึกอย่างไร? เห็นไหม ข้ายังไม่ทันว่าอะไรใบหน้าของเจ้าก็เปลี่ยนสีไปแล้ว เพราะฉะนั้นเจ้าก็อย่าได้ไปดูถูกคนอื่นให้มากนัก อย่าได้วางดวงตาไว้สูงเหนือหัวนัก”

คำพูดทั้งหลายนี้เจียงหัวได้แต่ฟังมันด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนสีไปมา

เย่หยวนนั้นด่าว่าเขาอยู่แน่ๆ แต่เขากลับรู้สึกเหมือนไม่ได้โดนด่า ทำให้เจียงหัวรู้สึกอึดอัดขึ้นในใจ

จากนั้นใบหน้าของเขาก็ดำมืดลงพร้อมตะโกนลั่น “หึ! ดูท่าพวกเจ้าจะไม่ได้คิดสนใจให้เกียรติตระกูลเจียงเลย! ยามทั้งหลาย มาจัดการจับตัวสั่งสอนพวกมันให้เข็ดหลาบ”

เย่หยวนหรี่ตาลงพร้อมด้วยพลังอันรุนแรงที่พุ่งทะยานเข้าครอบร่างของเจียงหัวทันที

นั่นทำให้เจียงหัวหน้าถอดสี เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นกำลังถูกบีบ แค่จะหายใจยังยากเย็นแสนเข็น

เขานั้นตื่นตกใจอย่างมาก ทำไมนภาสวรรค์เจ็ดดาวคนนี้ถึงสามารถทำให้เขารู้สึกกดดันได้ถึงขนาดนี้?

ภายใต้คำสั่งนั้นนักยุทธนภาสวรรค์เก้าดาวสี่ถึงห้าคนก็ได้พุ่งตัวเข้ามาด้านใน แน่นอนว่าพวกเขานั้นย่อมเป็นยามดูแลความเรียบร้อยของบ้านตระกูลเจียงแล้ว

แม้ว่าในยอดเมืองหลวงจักรพรรดินั้นจะมีเทพถ่องแท้อยู่ไม่น้อย แต่มันย่อมไม่มีทางที่คนทั้งหลายนั้นจะมาเป็นแค่ยามทั่วๆ ไปให้แก่บ้านตระกูลเจียง

“ผู้ช่วยเจียง! ท่าน… ท่านปลอดภัยดีหรือไม่?”

เมื่อเหล่ายามทั้งหลายได้เห็นใบหน้าซีดเซียวของเจียงหัวพวกเขาทั้งหลายก็หน้าถอดสีไปตามๆ กัน

เพราะชายหนุ่มนภาสวรรค์เจ็ดดาวผู้นี้กลับทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจเทียบเคียงได้

มันเป็นความรู้สึกที่น่าพิลึก!

เย่หยวนมองดูเจียงหัว “เจ้านั้นใช้ชื่อเจ้านายรังแกผู้อื่น ที่เจ้าบอกว่าพวกข้าไม่เห็นตระกูลเจียงอยู่ในสายตานั้นเจ้าจะหมายความว่าตัวเข้า แค่ผู้ช่วยกระจอกๆ นี้เป็นตัวแทนของบ้านตระกูลเจียงได้หรือ? หรือเจ้าคิดว่าตัวเองได้กลายเป็นผู้นำตระกูลเจียงไปแล้ว? ช่างอวดดีเสียเหลือเกิน!”

เมื่อเหล่ายามทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองเจียงหัวด้วยสายตาแปลกๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ