จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1965

ดวงตาของเจียนหยุนนั้นหายได้จริง!

เรื่องราวนี้มันย่อมจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศในเวลาไม่นาน

เหล่าตระกูลย่อยผู้ทรงทั้งหลายต่างรีบลงมือกันอย่างไม่รอช้าเข้าไปถามเจียนห่าวกันอย่างไม่ขาดสายว่าใครกันที่รักษาดวงตาของเจียนหยุนได้

เพราะในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศนี้มันกลับมีผู้คนที่สามารถหลอมโอสถหกชีพจรดวงดาวขึ้นได้!

กับคนตระกูลเจียนแล้วโอสถหกชีพจรดวงดาวนี้มันก็เหมือนโอสถที่ช่วยคืนชีวิตให้พวกเขา

ในหมู่คนตระกูลเจียนทั้งหลายนั้นมันย่อมมีผู้คนที่ต้องรับผลสะท้อนจากเต๋าไปมากมาย

แม้แต่เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในเวลานี้ก็ยังต้องมีแผลที่ปิดซ่อนไม่อาจรักษาได้จนทุกวันนี้ไว้บ้าง

แต่ทางเจียนห่าวนั้นปิดปากเงียบไม่มีใครรับรู้ได้ว่าอาจารย์หมอคนที่ว่านี้เป็นใครมาจากไหน

ในเวลานั้นเองที่ได้มีข่าวหนึ่งแพร่กระจายออกมาทั่วทั้งเมือง

ข่าวนั้นบอกว่าแท้จริงแล้วผู้ที่หลอมโอสถหกชีพจรดวงดาวกลับมิใช่ใครอื่นนอกจากเด็กหนุ่มที่ผู้อาวุโสเจียนหงเซียวพามายังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิด้วย!

ข่าวเดียวนี้มันทำให้ผู้คนแตกตื่นกันอย่างมาก

เหล่าคนตระกูลเจียนที่ได้ยินนั้นต่างสั่นสะท้านไปทั้งกาย ความรู้สึกแรกหลังจากได้ยินข่าวของพวกเขาทั้งหลายนั้นคือไม่มีใครคิดจะเชื่อ

เพราะเด็กหนุ่มผู้เพิ่งบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้มาได้มีหรือที่จะเป็นปรมาจารย์ผู้หลอมโอสถหกชีพจรดวงดาว?

แต่พอคิดดูดีๆ มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก!

มันเป็นโอกาสที่สูงมากเกินกว่าจะปล่อยไว้อย่างไม่ทำการตรวจสอบ ทำให้ผู้คนทั้งหลายเลือกที่จะมาเยี่ยมเยียนยังบ้านพักผู้อาวุโสเจียนหงเซียว

และสุดท้ายพวกเขาทั้งหลายก็กลับไปพร้อมโอสถเต็มมือ!

เหล่าคนตระกูลเจียนทั้งหลายนั้นต่างหายจากอาการบาดเจ็บใดๆ ทั้งหลายภายใต้มือของเย่หยวนนี้!

เท่านี้เรื่องราวทั้งหลายก็กระจ่างชัด

มันทำให้ผู้คนที่มาเยี่ยมเยียนที่พักผู้อาวุโสเจียนหงเซียวนั้นเพิ่มมากขึ้นทุกวันจนประตูแทบจะพังลงให้ได้

ในช่วงเวลาหนึ่งนี้เจียนหงเซียวได้กลายเป็นผู้อาวุโสที่ผู้คนถามถึงมากที่สุดในเมือง

แม้แต่อาจารย์บูเฉินหมอที่เก่งกาจที่สุดในเมืองก็ยังต้องมาขอความรู้จากเย่หยวน

เย่หยวนจึงได้ใช้เวลากว่าสิบปีไปกับการบ่มเพาะและรักษาอาการบาดเจ็บจากผลสะท้อนให้กับคนตระกูลเจียนทั้งหลาย

ในวันนี้เจียนหงเซียวได้เข้ามาหาเย่หยวน

เมื่อได้เห็นเจียนหงเซียวอย่หยวนก็เบิกขึ้นกว้างด้วยรอยยิ้ม “”ยินดีกับพี่หงเซียวด้วย ดูท่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศนี้จะได้มีเทพสวรรค์เพิ่มอีกหนึ่งคนในไม่นาน”

เพราะใบหน้าของเจียนหงเซียวในตอนนี้สุดแจ่มใสพลังเต๋าในร่างของเขาก็ยิ่งดูหนาแน่นมากขึ้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนมากว่าเขาจะบรรลุในอีกไม่ช้า

จากเทพถ่องแท้ขึ้นสู่การเป็นเทพสวรรค์ มียอดคนมากมายเท่าใดที่ไม่อาจก้าวข้ามมันไปได้?

ดูอย่างที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศนี้เองเทพถ่องแท้เก้าดาวที่เย่หยวนรู้จักนั้นมันก็มีไม่ต่ำกว่ายี่สิบถึงสามสิบคน

ส่วนเหล่าคนที่ยังขึ้นไม่ถึงเทพถ่องแท้เก้าดาวนั้นยิ่งมากจนไม่อาจนับ

แต่ในหมู่เทพถ่องแท้ทั้งหลายนี้มีใครบ้างที่จะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ ในเมืองตอนนี้มันมีเพียงเจียนซู่เทาและเจียนซู่หยานสองคนนี้เท่านั้น

เรื่องนี้เองมันก็เกิดขึ้นได้เพราะวรยุทธการบ่มเพาะของตระกูลเจียนนั้นเป็นสิ่งที่เหนือล้ำกว่าวิชาวรยุทธอื่นๆ ไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มันจะต่ำเสียยิ่งกว่านี้

เพราะฉะนั่นการที่เจียนหงเซียวจะสามารถก้าวข้ามขั้นนี้ไปได้มันย่อมทำให้เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายได้แต่มองด้วยความอิจฉา

เจียนหงเซียวนั้นยิ้มกว้างรับออกมา “หึ หากไม่มีเจ้าแล้วเฒ่าคนนี้มีหรือที่จะก้าวขึ้นมาได้ถึงจุดนี้ เทพสวรรค์… ต่อให้เป็นผู้มีรัศมีจักรพรรดิเองก็ไม่แน่หรอกว่าจะขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ไปได้ การที่เฒ่าคนนี้ก้าวเดินขึ้นมาถึงจุดนี้ได้มันล้วนแล้วแต่เพราะรัศมีของเจ้าสิ้น!”

เย่หยวนยิ้มกลับไป “พี่หงเซียวเองก็มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำอยู่ก่อนแล้ว ในเวลานั้นหากท่านไม่ได้รับบาดเจ็บจากผลสะท้อนเต๋าสวรรค์ด้วยเวลากว่าหนึ่งแสนปีนั้นท่านก็ย่อมจะสามารถก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้เช่นกัน”

เจียนหงเซียวส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “โลกใบนี้มันเต็มไปด้วยคำว่าอาจ แต่ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นโชคชะตา ความทุกข์ยากในตอนนั้นมันคือความทุกข์ของเฟิงฉี และเช่นกันที่เรื่องนี้มันเป็นความทุกข์ยากที่ข้าต้องเผชิญ หากไม่ได้พบเจอเจ้าแล้วชะตาของข้ามันย่อมจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้”

เย่หยวนยิ้มออกมา “ท่านมาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”

“ท่านซู่เทาบอกให้ข้ามาแจ้งเจ้า เขาบอกว่าให้เจ้าไปที่ตึกวาโยบริสุทธิ์เพราะสนามรบเทพโบราณนั้นใกล้จะเปิดขึ้นเต็มทีแล้ว เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายก็ได้มาถึงกันสิ้นแล้วด้วย” เจียนหงเซียวบอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ