“สะ…สร้างเทพสวรรค์?”
ในวินาทีแรกนั้นอิ้งหมัวหู่มึนงงอย่างมาก แต่ไม่นานเขาก็กลับมาตั้งสติและหันไปมองทางไป๋ตง
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นหากจะให้พูดถึงว่ามีใครที่ใกล้เคียงจะเป็นเทพสวรรค์ได้มากที่สุดมันก็ย่อมจะเป็นไป๋ตงแน่แล้ว
ไป๋ตงได้แต่ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะส่ายหัวออกมา “ไม่มีประโยชน์ โอสถขั้นสูงของโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นมันเป็นถึงโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด เจ้าในตอนนี้ย่อมจะไม่อาจหลอมมันได้”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ครั้งก่อนที่ข้าได้หลอมโอสถย้อนฝันพิรุณชำระขึ้นมาข้าก็ได้เริ่มทำการศึกษาเจ้าโอสถตัวใหม่นี้แล้ว แม้ว่าในเวลานี้มันอาจจะยังทำให้เจ้ากลับไปยังจุดสูงสุดไม่ได้ แต่แค่อาณาจักรเทพสวรรค์นั้นมันก็ยังพอเป็นไปได้”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวทุกผู้คนต่างก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นยินดีออกมาทันที
เช่นนั้นหมายความว่าวันหน้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นจะมีเทพสวรรค์คอยปกปักดูแลอย่างนั้นหรือ?
ไป๋ตงเองก็ถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้คนอื่นๆ “จริงหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “โอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นมันเป็นโอสถที่ยากเย็นจริงๆ แต่หากเข้าใจมันได้แล้วมันก็จะหมดความยากเย็นใดๆ ไป ที่สำคัญเหล่าสมุนไพรวิญญาณที่โอสถนี้ต้องการมันก็มิได้เป็นสมุนไพรที่หายากเย็นใดๆ ก่อนที่จะไปยังเมืองจักรพรรดิเลิศประกายข้าได้ขอร้องให้ทางหอมหาสมบัติเตรียมสมุนไพรระดับหกทั้งหลายนั้นไว้ให้แล้ว”
พูดไปเย่หยวนก็หยิบโอสถเม็ดหนึ่งออกมา
ไป๋ตงที่ได้เห็นก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงมองเย่หยวนเขม็ง
เจ้าเด็กคนนี้มันทำให้ผู้คนต้องอิจฉาจนจะบ้าตายแล้ว!
เพียงเท่านั้น?
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียมันก็ยังเป็นโอสถความยากเก้า!
คนอื่นๆ แค่ทำตามสูตรยังแทบไม่มีปัญญาแต่เจ้ากลับสร้างโอสถเลียนแบบขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
เป็นนักหลอมโอสถเหมือนกันแต่เหตุใดความแตกต่างมันช่างเหนือล้ำ?
ไป๋ตงได้แต่ต้องยอมรับว่าวิชาการโอสถของเย่หยวนคนนี้มันเหนือล้ำลึกซึ้งกว่าที่จะเอาผู้คนไปเปรียบเทียบ
ความเข้าใจของเย่หยวนที่มีต่อโอสถนั้นมันคือความเข้าใจตรงถึงต้นกำเนิด
และปัญหาก็คือนักหลอมโอสถคนอื่นๆ นั้นไม่ได้มองโอสถอย่างทะลุลึกซึ้งปานนั้น
สูตรโอสถนั้นมันไม่เคยจะเป็นสิ่งเหนือล้ำใดๆ ในสายตาของเย่หยวน
“แล้วฤทธิ์ของมันเป็นอย่างไร? ข้าได้ยินมาว่าเทพสวรรค์หลู่เหยียนนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์สองดาว” ไป๋ตงรับโอสถไปพร้อมกล่าวถาม
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ กำลังของเจ้าจะไม่อ่อนแอกว่ามันแน่ ถึงเวลานั้นข้าจะมอบเกราะศึกรุ้งเขียวให้เจ้าด้วย เจ้าย่อมจะไม่มีทางแพ้มันแน่”
ทุกผู้คนต่างตกตะลึงสายตาเปี่ยมไปด้วยความยินดี ไม่มีใครคาดฝันว่าเย่หยวนจะเตรียมการไว้พร้อมถึงขนาดนี้
“แต่พี่ใหญ่ ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์นั้นมันมีเทพสวรรค์อยู่ถึงสามคน! และนอกจากเทพสวรรค์อีกสองคนนั้นแล้วพวกมันยังมีกำลังกองทัพเทพถ่องแท้อีกนับพันๆ” อิ้งหมัวหู่พูดขึ้นราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้
เพราะแม้ว่ากำลังระดับสูงสุดนั้นจะมีคนจัดการให้แล้วแต่กำลังที่เหลือของอีกฝ่ายก็ยังแข็งแกร่งมาก
เมื่อไป๋ตงถูกหลู่เหยียนสกัดไว้แล้วเทพสวรรค์หนึ่งดาวอีกสองคนนั้นก็จะบุกเข้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มาพร้อมกับกองทัพเทพถ่องแท้นับพันๆ คนที่เหลือนั้นย่อมจะไม่มีทางขัดขวางพวกเขาได้!
เย่หยวนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงยิ้มกว้างออกมา “แค่พวกหมูหมากาไก่มีอะไรให้ต้องกังวล? พวกเจ้าทำใจให้สบายแล้วไปพักผ่อนเสียเถอะ”
เมื่อทุกผู้คนได้ยินเช่นนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้นทันที
ดูท่าว่าเย่หยวนจะเตรียมการรับมือสถานการณ์ไว้นานแสนนานแล้ว
และแน่นอนว่าคำพูดเดียวของเขานี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายใจเย็นลงได้มาก
…
ในวันนี้สายตาของทหารบนกำแพงเมืองต้องเบิกกว้างเพราะจุดสีดำที่ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้าและกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาทั้งหลาย
เหล่านักยุทธ์มากมายมหาศาลนั้นมันราวกับฝูงตั๊กแตนทำให้ผู้คนที่เห็นต้องขนลุกขนพอง
ทหารยามผู้หนึ่งร้องบอกขึ้น “นี่มัน… มันจะ… น่าเกรงขามเกินไปแล้ว! ข้าไม่เคยได้พบเจอเทพถ่องแท้มากมายขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้!”
เมื่อทหารเหล่านั้นเห็นภาพที่เส้นขอบฟ้าพวกเขาต่างก็หวาดกลัวจนขาสั่น
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเรื่องราวเช่นนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในมหาพิภพถงเทียน
กองทัพเทพถ่องแท้จำนวนมากมายเช่นนี้มันย่อมทำให้ผู้คนที่ได้ยินได้ฟังต้องขนลุก
และการใช้กำลังในระดับนี้เพื่อเข้าบุกเมืองจักรพรรดิน้อยๆ มันยิ่งไม่เคยจะเกิดขึ้นมาก่อน
ทหารยามอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าซีดเซียว “มันจบแล้ว ทุกอย่างมันจบสิ้นแล้ว! เราจะไปต่อสู้ได้อย่างไร? นี่มันคนละระดับกันแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...