“แม้ว่าข้าจะไม่ทราบว่าเหรียญปรมาจารย์นั้นมันคือสิ่งใดแต่ดูแล้วท่านเย่หยวนจะต้องยิ่งใหญ่มากแน่”
“มันเหนือล้ำกว่าคำว่ายิ่งใหญ่เสียอีก! นั่นคือเทพสวรรค์เปียวหยู! เทพสวรรค์เปียวหยูท่านกลับพูดจาสนทนากับนายท่านของเราราวกับเป็นคนรุ่นเดียวกัน!”
“หึๆ ข้าว่าอีกไม่นานเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เราจะต้องได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งที่แปดในแดนใต้แน่”
…
ภายในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ในเวลานี้มันมีจอมเทพโอสถสี่ดาวและห้าดาวอยู่มากมาย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะเคยได้ยินนามของเทพสวรรค์เปียวหยู
เมื่อเทพสวรรค์เปียวหยูปรากฏกายออกมาพวกเขาทั้งหลายต่างก็สั่นสะท้านไปทั้งกายใจ
แต่ไม่นานนักสิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงมากกว่าเก่ามันก็ได้ปรากฏขึ้น
เพราะเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นกลับสนทนากับเย่หยวนราวกับเป็นคนรุ่นเดียวกัน อยากให้ทำอะไรก็ขอมิใช่สั่ง มันจะเป็นเกียรติยศขนาดไหน?
เพราะตัวตนของเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นแม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ด้วยกันเองยังไม่อาจจะขอเข้าพบตัวเขาได้ง่ายๆ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ตอนนี้มันจึงราวกับภาพฝัน
เกียรติยศเช่นนี้มันจะฝังรากลึกลงไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจพวกเขาทั้งหลาย
เย่หยวนยกเหรียญปรมาจารย์นั้นขึ้นมาดูแต่สุดท้ายก็ได้ผายมือออกไปด้านข้าง “ผู้อาวุโสเปียวหยู ข้าก็อยากจะไปจริงๆ แต่ท่านดูเถอะ… ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ข้าคงไม่ไหนไม่ได้อีกนาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร”
นั่นทำให้สายตาทุกคู่จับจ้องมองไปยังชางหยวนในทันทีจนสีหน้าของเขาขาวซีดลง
ในเวลานั้นเจียนซู่เทาที่เงียบมาตลอดจึงได้ยกมือขึ้นมาโบกไล่ชางหยวน “มันมิใช่เรื่องของเจ้าแล้ว กลับไปได้แล้ว”
ชางหยวนที่ได้ยินก็ตอบกลับมาอย่างหนักแน่น “เทพสวรรค์ซู่เทา แม้ว่าท่านจะมีตำแหน่งฐานะสูงล้ำแต่ก็อย่าได้ลืมไปว่านี่คือดินแดนของท่านฉีโยว! ทำเช่นนี้มันจะเป็นการรังแกผู้คนจนเกินพอดีแล้ว!”
ในฐานะเทพสวรรค์ขั้นกลางตัวชางหยวนนั้นย่อมจะยืนอยู่เหนือล้ำผู้คนเสมอมา
แต่วันนี้เขากลับถูกเหยียดหยามอย่างไม่เหลือชิ้นดี
บนท้องฟ้าของเมืองจักรพรรดิน้อยๆ เมืองนี้!
ที่แห่งนี้มันคือดินแดนใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยว แต่ตัวเขากลับต้องฟังคำสั่งของผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?
เพียงแค่ว่าตัวเจียนซู่เทาเองนั้นก็มิใช่คนอ่อนโยนมากนัก
เขาหัวเราะเย้ยขึ้นก่อนจะสะบัดแขนส่งคลื่นพลังหนักหน่วงราวขุนเขาเข้าปะทะร่างของชางหยวนทันที
ชางหยวนหน้าถอดสีและพยายามใช้พลังทั้งหมดออกมารับการโจมตีนี้ไว้
แต่เมื่อปะทะเข้ากับพลังนั้นตัวพลังโลกของชางหยวนหรือวิชาวรยุทธใดๆ ล้วนไม่อาจต้านทานได้
‘ปัง!’
ชางหยวนลอยลิ่วออกไปไกลพร้อมเลือดที่อาบร่าง
“หึ! เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครมาจากที่ไหน? กล้ามาพูดกับเทพสวรรค์ผู้นี้ด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น? อย่าว่าแต่เจ้า แม้แต่พี่ฉีโยวเองก็ยังต้องไว้หน้าเทพสวรรค์ผู้นี้ หากวันนี้ไม่ได้อยู่บนแดนของพี่ฉีโยวแล้วล่ะก็เจ้าคิดว่าตัวเองจะยังรอดชีวิตอยู่หรือไม่?” เจียนซู่เทากล่าวขึ้น
หลู่เหยียน เติ้งหยุนไซ ไต้ชุนห่าวทั้งสามคนนั้นต่างหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ
พลังของเทพสวรรค์ขั้นปลายนั้นมันช่างแข็งแกร่ง!
ต่อให้เป็นชางหยวนก็ยังไม่อาจรับการสะบัดมือของเจียนซู่เทานี้ได้
หากพวกเขายื่นหน้าออกไปในเวลานี้ แม้แต่ซากร่างก็คงไม่เหลือ
ชางหยวนนั้นพยายามดันตัวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว ดูท่าคงเจ็บสาหัส
เจียนซู่เทาร้องบอก “เรื่องของพี่ฉีโยวนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้และเปียวหยูได้ไปพบเขามาแล้ว จากวันนี้ไปเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มันจะกลายเป็นดินแดนของเย่หยวนโดยสมบูรณ์ หากมีใครกล้ามาหาเรื่องอีกมันย่อมจะหมายความว่าคนผู้นั้นจะกลายเป็นศัตรูกับเทพสวรรค์ผู้นี้ จงจำใส่หัวไว้ให้ดี! ทีนี้จะไปได้หรือยัง?”
นั่นทำให้สีหน้าของพวกชางหยวนซีดขาวลงทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าเจียนซู่เทาและเปียวหยูจะถึงขั้นไปพบกับจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยวเพื่อเย่หยวนผู้นี้!
เจ้าเด็กคนนี้มันมีค่าปานนั้น?
ในเวลานี้การอยู่ต่อไปมันรั้งแต่จะเป็นปัญหา
ชางหยวนจึงกัดฟันแน่นสั่งออกมา “ไปกัน!”
พูดจบร่างของชางหยวนก็จางหายไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...