“ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่ง? หึๆ ช่างเป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ ด้วยอายุเท่านั้นต่อให้มันจะเริ่มหลอมโอสถตั้งแต่อยู่ในท้องแม้มันก็คงไม่อาจทำอะไรได้มากมายหรอกใช่ไหมเล่า? และข้ายังได้ยินมาอีกว่ามันนั้นมีวิชายุทธที่เหนือล้ำ” หยุนยี่กล่าวขึ้นด้วยท่าทางเย้ยหยัน
“ใช่แล้ว ข้านั้นได้เห็นมากับตาว่ามันส่งเทพถ่องแท้ห้าดาวลอยปลิวไปด้วยกระบวนท่าเดียว” เจิ้งปู้ฉุนร้องบอก
หยุนยี่เองก็หัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “หากข้าคาดเดาไม่ผิดมันผู้นี้คงเป็นยอดอัจฉริยะด้านการต่อสู้จากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาที่ใช้ชื่อของเทพสวรรค์เปียวหยูเพื่อมายังงานชุมนุมโอสถเมฆาหวังหลอกลวงผู้คน แต่น่าเสียดายที่มันคงคิดผิดเสียแล้ว!”
เมื่อเจิ้งปู้ฉุนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “พี่หยุนยี่จะลงมือเองหรือ?”
หยุนยี่ยกมือขึ้นมาโบกปัด “เจ้าคิดว่าเหรียญปรมาจารย์แห่งงานชุมนุมโอสถเมฆามันมีไว้แค่อวดผู้คนหรือ? ตราบเท่าที่คนผู้นั้นมีเหรียญปรมาจารย์อยู่กับตัวเขาย่อมจะกลายเป็นแขกใหญ่ที่งานชุมนุมโอสถเมฆาต้องต้อนรับอย่างดี”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ร้องขึ้นอย่างผิดหวัง
เหล่าคนทั้งหลายที่รวมตัวกันอยู่นี้ล้วนเป็นยอดอัจฉริยะด้านการโอสถที่เหนือล้ำ มีหรือที่พวกเขาจะยอมให้ใครหน้าไหนไม่รู้มายืนเหนือหัวตัวเองได้?
ที่สำคัญการจะตบหน้าปรมาจารย์นั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่เหมือนฝันสำหรับพวกเขาทั้งหลาย
แต่การที่เขามีเหรียญปรมาจารย์นั้นมันก็เหมือนกับการที่เขามีดาบศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครกล้าจะทำอะไรต่อตัวเขา!
“พี่หยุนยี่ มันจะไม่มีทางเลยหรือ?”
“ใช่แล้ว เจ้าเด็กน้อยคนหนึ่งที่กล้ามาอวดอ้างตัวว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งทั้งๆ ที่ขนยังไม่ทันขึ้นเนี่ยนะ?”
“หรือว่างานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้เราจะต้องทนดูมันอวดอ้างตนเช่นนี้ต่อไป?”
เหล่ายอดอัจฉริยะที่รวมกันอยู่ในที่นี้นั้นต่างขุ่นเคืองทุกผู้คนมีสีหน้าไม่พอใจสิ้น
แต่หยุนยี่กลับยิ้มขึ้นมา “ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาของข้านั้นเป็นถึงยอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถในแดนใต้ มีหรือที่จะยอมปล่อยให้คนเช่นนี้เหยียบย่ำ? มีเหรียญปรมาจารย์แล้วจะทำไม? ผู้ที่มีแค่ตำแหน่งแต่ไร้ความสามารถที่จะปกป้องมันนั้นย่อมไม่อาจอยู่ในงานชุมนุมโอสถเมฆาได้อีกต่อไป”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมาตาม
…
สิ่งที่เทพสวรรค์เปียวหยูว่ามานั้นมันไม่มีผิด งานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้มันไม่ทำให้เย่หยวนผิดหวังจริงๆ
หลายวันมานี้เย่หยวนได้พาหนิงซืออวี๋เดินเที่ยวหาซื้อสมุนไพรระดับหกมามากมายมหาศาล
ร้านที่เย่หยวนหยุดแวะดูนั้นมันมีทั้งร้านใหญ่น้อยมากมาย
และในแต่ละที่นั้นเย่หยวนก็ได้จะพบสมุนไพรวิญญาณหายากไม่น้อย
ในตลาดนี้มันมีสิ่งของหายากอยู่มากมายเต็มไปหมด แม้แต่สูตรโอสถที่แปลกตาก็ยังมีขาย
แม้ว่าหอมหาสมบัตินั้นมันจะมีอำนาจที่กว้างขวาง แต่พวกเขาเองก็ไม่อาจจะหาสมุนไพรได้ทุกชนิด แต่งานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้มันได้รวบรวมเหล่ายอดนักหลอมโอสถจากทั่วทั้งแดนใต้ แน่นอนว่ามันย่อมจะมีคนมาทำการค้าขายอย่างมากมาย
เมื่อในเวลานี้มันมียอดนักหลอมโอสถมากมายรวมตัวกันอยู่ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา โอกาสทำการค้าเช่นนี้มันย่อมจะพลาดไปมิได้
ตอนนี้พวกเย่หยวนนั้นกำลังเดินมองดูร้านทางด้านตะวันออกก่อนที่จะได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นมาไม่ไกล
“พวกเจ้าได้ยินมาหรือไม่? งานชุมนุมโอสถเมฆามันมีปรมาจารย์เทพถ่องแท้สามดาวอยู่ด้วย ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่คนเขาคุยกันทั้งเมืองแล้ว”
“หะ? จอมเทพโอสถหกดาวก็เป็นปรมาจารย์ได้หรือ? นี่เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่? ฝีมือแค่นั้นยังเทียบข้าไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ นี่กลับกล้าขึ้นไปยืนในตำแหน่งปรมาจารย์หรือ?”
“หึๆ ข้าได้ยินว่ามันนั้นมาจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์และคงใช้อำนาจจากจักรพรรดิเทพสวรรค์กดดันจนได้เหรียญปรมาจารย์มา”
“นี่มันก็จะดูถูกกันมากไปแล้ว! งานชุมนุมโอสถเมฆานั้นมันเป็นงานใหญ่ของแดนใต้เรา มิใช่สิ่งที่จักรพรรดิเทพสวรรค์แค่คนสองคนจะมายุ่มย่ามได้!”
“รอดูเถอะ! เหรียญปรมาจารย์นั้นมันไม่ได้มาง่ายๆ เจ้าเด็กคนนั้นมันต้องทำให้ตัวเองขายหน้าแน่เมื่อถึงเวลาจริง!”
…
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกผู้คนหนิงซืออวี๋ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปเห็นสีหน้าท่าทางของเย่หยวนที่ราวกับว่าคนทั้งหลายนี้ไม่ได้พูดถึงตัวเลยแม้แต่น้อย
หนิงซืออวี๋นั้นได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าภายในตัวเย่หยวนนี้มันจะมีสัตว์ประหลาดอายุนับล้านๆ ปีหลับใหลอยู่หรือไม่
เพราะเขาคนนี้ช่างใจเย็นได้กับทุกเรื่อง
“นายท่าน หากข้าเป็นท่านแล้วข้าคงแสดงฝีมือออกมาให้มันได้เห็น ให้มันได้รู้ว่าท่านนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งปรมาจารย์สักแค่ไหน!” หนิงซืออวี๋ร้องบอก
เพราะในความเป็นจริงแล้วพวกเขาได้ยินเรื่องราวทั้งหลายนี้มาตลอดหลายวัน ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทุกผู้คนในเมืองต่างพูดถึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...