จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2023

“ไป ไปหาข่าวมาเพิ่ม!” หยุนยี่กัดฟันร้องบอก

คนรับใช้ผู้นั้นจึงรีบมุ่งหน้ากลับออกไปในทันที

หยุนยี่นั้นมีสีหน้าที่น่าดูชมมาก เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนนั้นเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ที่ไร้ฝีมือ แต่นางคนรับใช้ของเขานี้กลับสามารถเอาชนะยอดอัจฉริยะโอสถในแดนใต้ลงได้

ที่สำคัญกว่านั้นคือนางผู้นี้มันเป็นเพียงแค่จอมเทพโอสถห้าดาว!

“หรือว่า… เย่หยวนผู้นี้จะเป็นปรมาจารย์อย่างแท้จริง?” เจิ้งปู้ฉุนบอกขึ้นด้วยน้ำเสียงแสนแผ่วเบา

หยุนยี่ที่ได้ยินก็ยิ้มขึ้น “เจ้าเคยได้ยินว่ามีปรมาจารย์ที่ไหนอายุแค่พันกว่าปีไหมเล่า? เว้นเสียแต่ว่าเขาจะเป็นศิษย์ของโอสถบรรพกาลโดยตรง ไม่เช่นนั้นแล้ว… อย่าได้แม้แต่จะคิด!”

เจิ้งปู้ฉุนแทบสำลักเมื่อได้ยินเช่นนั้นและได้แต่คิดว่าตนคงคิดมากไปจริงๆ

หากอยากขึ้นไปให้ถึงระดับปรมาจารย์แล้วคนผู้นั้นย่อมจะต้องมีวิชาโอสถในอาณาจักรเต๋าขั้นกลางหรือขั้นปลาย

การบรรลุขึ้นในเต๋าโอสถนั้นมันสุดแสนยากเย็น อย่าว่าแต่อาณาจักรเต๋า แม้แต่อาณาจักรต้นก็ยังเป็นเรื่องที่แสนยากลำบาก

มีเพียงแค่งานใหญ่อย่างงานชุมนุมโอสถเมฆานี้เท่านั้นที่จะได้เห็นอาณาจักรต้นขั้นกลางขั้นปลายเดินกันทั่วเมือง หรือาจจะมีถึงขั้นอาณาจักรต้นขั้นสูงสุด

ส่วนพวกที่ขึ้นถึงอาณาจักรเต๋านั้นมันยิ่งหาได้ยากเย็น!

เพราะหลังจากก้าวขึ้นอาณาจักรเต๋าไปแล้วทุกย่างก้าวจากนั้นไปมันจะเป็นเรื่องสุดแสนยากเย็น

เหมือนดั่งที่เทพสวรรค์เปียวหยูต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยวความรู้นับล้านๆ ปีก่อนจะขึ้นมาถึงจุดที่ยืนได้ในปัจจุบัน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หากไม่มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำแล้ว ต่อให้จะมีเวลาเป็นสิบๆ ล้านปีมันก็คงไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้ไม่ว่าจะทำอย่างไร

เหล่าคนที่มาร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆานั้นล้วนแล้วต่างเป็นยอดอัจฉริยะด้านการโอสถที่มีอายุประมาณสามถึงห้าพันปี และการที่หยุนยี่ก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรต้นขั้นปลายนี้ได้ด้วยอายุเท่านี้ มันก็นับได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะหาตัวจับยากแล้ว

ส่วนระดับปรมาจารย์กับคนอายุเท่านี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

“หึๆ หากมันสามารถก้าวขึ้นถึงระดับปรมาจารย์ได้ด้วยอายุเท่านี้ อย่าว่าแต่พวกเรา แต่มันจะไม่เท่ากับว่าชีวิตของท่านทวดหรือเทพสวรรค์เปียวหยูท่านทั้งหลายนั้นกลายเป็นเรื่องตลกหรือ?” หยุนยี่หัวเราะขึ้น

เจิ้งปู้ฉุนที่ได้ยินก็พยักหน้ารับออกมา “ที่พี่หยุนยี่ว่ามามันก็ใช่! ดูท่านางผู้นี้จะมีฝีมืออยู่บ้าง จึงพอจะใช้โชคเอาชนะตู้รัวเฟยมาได้!”

หยุนยี่พยักหน้ารับ “มันต้องใช่แน่!”

แต่ทว่าเรื่องราวมันกลับไม่เป็นไปดั่งที่พวกเขาคิดหวัง

เพราะไม่นานนักคนรับใช้ผู้นั้นก็กลับมารายงานอีก “หนิงซืออวี๋ชนะจ้านเจียชิงอย่างขาดลอย!”

“หนิงซืออวี๋ชนะจ้านซ่งฟางอย่างขาดลอย!”

ข่าวเรื่องนี้มันไหลเข้ามาเรื่อยจนทำให้คนภายในห้องนี้ได้แต่นั่งนิ่ง

แค่หนึ่งหรือสองคนมันอาจจะยังนับได้ว่าเป็นโชค

แต่ชนะเจ็ดถึงแปดคนติดๆ เช่นนี้มันยังเรียกว่าโชคได้?

การประลองนี้ดำเนินต่อเนื่องไปถึงสี่วันสี่คืน

จนในที่สุดแล้วพวกหยุนยี่ทั้งหลายก็รู้สึกชาไปทั้งหน้า

หนิงซืออวี๋ประลองกว่ายี่สิบศึกและชนะได้อย่างไร้พ่าย!

นี่มันคือความแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คนทั้งหลายแทบตาถลน

สภาพของถนนตะวันออกในเวลานี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนเหล่านักหลอมโอสถทั้งหลายที่ได้ยินข่าวต่างมุ่งหน้ามาเพื่อดูการประลองนี้

“นางผู้นี้แข็งแกร่งปานนั้นได้อย่างไร? ดูสภาพของนางแล้วคงไม่ไกลจากอาณาจักรเต๋ามากแล้ว!”

“เหตุผลที่นางผู้นี้ติดตามเขามา หรือว่าปรมาจารย์เย่นั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะโอสถอันดับหนึ่งจริงๆ?”

“นางผู้นี้เองก็มาเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆาใช่หรือไม่? ด้วยพลังฝีมือระดับนี้แล้วในหมู่จอมเทพโอสถห้าดาวมันจะยังมีใครเทียบนางได้?”

เหล่าผู้คนที่มามุงดูนั้นต่างร่ำร้องขึ้นมาตามๆ กันจนตอนนี้พวกเขาทั้งหลายแทบจะก้มลงกราบหนิงซืออวี๋ไปแล้ว

การที่สามารถชนะจอมเทพโอสถหกดาวได้ด้วยกำลังของจอมเทพโอสห้าดาวนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องราวที่ทุกผู้คนต้องยอมรับแก่ใจ

ในเวลานี้ลั่วเยว่นั้นได้แต่นั่งเหงื่อแตกพล่าน ความตื่นตะลึงในจิตใจของเขานั้นมันเหนือล้ำจนไม่อาจใช้คำใดมาบรรยาย

เขานั้นเองก็มิใช่คนโง่ไร้สมอง ตัวเขาเองก็มีเต๋าโอสถถึงอาณาจักรต้นขั้นปลาย ห่างจากขั้นสุดไปเพียงไม่มาก

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นหลังจากเขาได้ประลองกับหนิงซืออวี๋ไปถึงสี่ชั่วโมงเขาก็ได้พบว่าตัวเองนั้นถูกหนิงซืออวี๋กดดันจนไม่อาจโงหัวขึ้น

ในเวลานี้เขาไม่อาจจะแก้ไขสถานการณ์ใดๆ ได้และมีแต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้เพียงเท่านั้น

หลายวันมานี้ตัวเขาได้เฝ้าสังเกตหนิงซืออวี๋มาตลอด

จากความดูถูกเป็นความตกตะลึง กลายเป็นความเหลือเชื่อจนตอนนี้เขาไม่อาจจะใช้คำพูดใดๆ มาอธิบายความรู้สึกที่มีได้อีกต่อไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ