จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2027

ตัวของเย่หยวนในเวลานี้มันได้ใช้ทั้งร่างกายและจิตใจไปกับการวิเคราะห์สูตรโอสถจนสิ้น

คำพูดใดๆ ที่คนทั้งหลายพูดกล่าวมานี้เขาไม่อาจจะสนใจฟังแม้แต่น้อย

เมื่อเหลียวหมิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

ความสามารถในการจดจ่อระดับนี้มันไม่ธรรมดา

นี่เย่หยวนกำลังแสร้งทำท่าเหมือนครุ่นคิดจริงหรือ?

มันไม่แน่!

เพราะท่าทางจดจ่อเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่จะแกล้งทำขึ้นมาได้ง่ายๆ

แต่เขาเองก็รู้ดีว่าหากจะให้เย่หยวนวิเคราะห์สูตรโอสถโบราณนี้ให้ถ่องแท้จริงๆ แล้วมันคงต้องใช้เวลาอีกแสนนาน เขาจึงกล่าวขึ้น “เช่นนั้น… เรามาคุยกันต่อเถอะ”

“ข้าขอถามหน่อยได้หรือไม่พี่เหลียวหมิง สมุนไพรชนิดที่ห้าที่พวกท่านว่ามานั้นมันคือสมุนไพรวิญญาณตัวใดกัน?” ขณะที่ทุกผู้คนกำลังจะเริ่มทำการอภิปรายกันอีกครั้งเย่หยวนก็เปิดปากขึ้นมาถามเสียก่อน

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้านั้นมันเป็นสิ่งที่พี่ซืออี้คิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเป็นหญ้าธาตุใจมายา เราได้ปรึกษาอภิปรายกันมากว่าครึ่งเดือนจนในที่สุดก็ตกลงกันว่ามันน่าจะเป็นสมุนไพรชนิดนี้จริง!”

เทพสวรรค์ซืออี้เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางภาคภูมิ สายตาที่เขาจ้องมองมายังเย่หยวนนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูก

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อยและกลับไปยนั่งคิดเงียบๆ ต่อ

ทุกผู้คนที่เห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้ามึนงงออกมา ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่

“หรือว่าปรมาจารย์เย่จะเข้าใจอะไรได้แล้ว?” เทพสวรรค์เหลียวหมิงถามขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินจึงส่ายหัวออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้ามันมิน่าจะใช่หญ้าธาตุใจมายาไปได้”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเทพสวรรค์ซืออี้ก็แสดงสีหน้าดำมืดออกมาด้วยความไม่พอใจทันที

“หึ! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังนัก! ผลลัพธ์ที่เราทั้งหลายช่วยกันคิดจนได้ข้อสรุปมาแล้วแต่เจ้ากลับคิดอยากขัดมันด้วยคำพูดเดียวนี้หรือ? เด็กน้อย ข้าทนท่าทางนั้นของเจ้ามานานพอแล้ว! ไม่รู้ก็อย่าได้มาเสมอหน้าทำเป็นรู้หน่อยเลย!” เทพสวรรค์ซืออี้ร้องตะโกนลั่น

คนอื่นๆ เองก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกได้แต่มองดูอยู่ไม่คิดเข้ายุ่ง

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นไม่อาจจะทนรับได้อีกต่อไป

เจิ้งฉีหยวนเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าท่าทางเหยียดหยาม “ในเวลาแค่สิบห้านาทีตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามานี้ เจ้ากลับคิดใช้มันปฏิเสธผลที่เราช่วยกันคิดมาถึงครึ่งเดือนหรือ? เด็กน้อย เจ้านั้นเก่งกาจจริงๆ! เหตุใดไม่บอกออกมาหน่อยเล่าว่าเหตุใดหญ้าธาตุใจมายามันถึงมิใช่ส่วนประกอบ?”

ตอนนี้แม้แต่เทพสวรรค์เหลียวหมิงก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ปรมาจารย์เย่ โอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นมันเป็นโอสถธาตุลม มีส่วนประกอบที่รู้แน่สี่อย่างคือแอ่งสงัด หัวเขียวเมฆาใหญ่ ผลเมฆาเคลื่อนลมรุ่งและดอกซ้ำวิญญาณ พวกมันทั้งหลายนี้ล้วนเป็นสมุนไพรธาตุลมในหมู่สมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ด และสิ่งที่จะเข้าผสานกับสมุนไพรทั้งสี่นี้ได้ดีที่สุดมันก็คือหญ้าธาตุใจมายา จะมีสิ่งใดผิดพลาดกันได้เล่า?”

เย่หยวนนั้นไม่ได้ตอบกลับมา ตอนนี้ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่จอแสงนั้น

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยขึ้นมาในใจ พวกเขาได้เข้าใจอย่างแน่ชัดแล้วว่าเด็กคนนี้มันถือตำแหน่งไว้โดยไร้ฝีมือใดจริงๆ

ที่สำคัญพวกเขายังอดทนกันมาจนเกินขีดจำกัดแล้ว

หากเจ้ามีความสามารถจริงมันก็คงเป็นอีกเรื่อง แต่ในเวลานี้เจ้าเป็นได้เพียงแค่คนไร้ความสามารถแต่กลับยังจะมาวางท่า เช่นนั้นเจ้าต่างหากที่ผิด

“หึๆ ปรมาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำ นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าว่าตัวเองเก่งกาจ? เลิกทำตัวเองขายหน้าเสียทีเถอะ โลกของจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้าจะอาจเอื้อมถึง!” เจิ้งฉีหยวนที่ได้โอกาสจึงร้องพูดขึ้นมา

“หนุ่มน้อย เลิกวางท่าหากไม่มีปัญหาจริงเถอะ! มันมิใช่ว่าแค่เจ้าถือเหรียญปรมาจารย์แล้วเจ้าก็จะเป็นปรมาจารย์จริงๆ เสียหน่อย”

“ไอ้เด็กโอหัง ที่แห่งนี้มันไม่เหมาะกับเจ้าหรอก รีบๆ ไสหัวไปเสีย!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหมดความอดทนกันสิ้น เพราะเรื่องราวในวันนี้มันได้เปิดเผยธาตุแท้ของเย่หยวนออกมาจนสิ้น

เจ้าหมอนี่มันเป็นเพียงแค่นักหลอกลวงเท่านั้น!

เหรียญปรมาจารย์ในมือของเขานั้นมันคือคำดูถูกตำแหน่งปรมาจารย์แท้ๆ

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดไร้สาระทั้งหลายนี้โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องมองในจอแสงนั้น

เจิ้งฉีหยวนหัวเราะขึ้นพร้อมยื่นมือออกมาหาเย่หยวนพร้อมพูด “ข้าบอกให้ออกไป ไม่ได้ยินหรือ?”

แต่มือของเขายังไม่ทันถึงตัวเย่หยวน เย่หยวนก็กลับเปิดปากพูดขึ้นมาเสียก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ