“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทั้งสองคนนี้กลับปฏิเสธเทพสวรรค์ดันหยู่ติดๆ กัน และที่แปลกที่สุดก็คือพวกเขาทั้งสองกลับเลือกจะไปกราบเย่หยวนแทนอย่างนั้นหรือ?”
“ในงานครั้งก่อนๆ มาทุกผู้คนต่างคิดหาสุดฝีมือที่จะเข้าไปอยู่ใต้ร่มเงาของเหล่าอาณาจักรบรรพกาล”
“เทพสวรรค์เปียวหยูชนะเทพสวรรค์ดันหยู่มาได้ แต่ทั้งสองคนนี้กลับไม่เลือกเขาด้วยซ้ำ?”
…
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากที่นั่งของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลาย
การกระทำนี้ของหลัวเทียนฉีและหลี่ชิงมันทำให้ทุกผู้คนตกตะลึง
ส่วนทางเทพสวรรค์ดันหยู่นั้น ในเวลานี้เขามีใบหน้าดำมืดราวก้นหม้อ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ยอดคนอันดับหนึ่งแห่งวงการโอสถแดนใต้ผู้นี้จะต้องลดตัวลงไปตามหารับศิษย์?
แต่วันนี้แม้เขาจะเปิดปากเรียกถึงสองครั้ง แต่มันกลับถูกปฏิเสธสองครั้งรวด!
ใบหน้าเฒ่าๆ ของเขานี้ถูกขยี้จนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว
แต่สิ่งที่คนทั้งหลายยังไม่รู้ก็คือเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้น
อันดับสาม!
อันดับสี่!
…
จนถึงอันดับแปดในเวลานี้พวกเขาทั้งหลายก็ยังก้าวเดินเข้าไปเลือกเย่หยวน!
ตอนนี้เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นไม่อาจจะทนนั่งเฉยอยู่ได้อีกต่อไป เมื่ออันดับที่เก้าเดินขึ้นมาถึงลานเลือกเทพสวรรค์ลี่หยางก็เปิดปากพูดขึ้นทันที “โจวหยุนห่าว มาหาเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วข้าจะทำการสั่งสอนเจ้าอย่างดี”
เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่ได้ยินจึงกล่าวขึ้นตาม “โจวหยุนห่าว ศิษย์ผู้อยู่ใต้การดูแลของเทพสวรรค์ผู้นี้ต่างได้กลายเป็นยอดคนชื่อสะท้านแผ่นดินสิ้น หากเจ้าเลือกที่จะติดตามเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วข้าสัญญาเลยว่าอนาคตของเจ้าจะต้องสดใสอย่างแน่นอน”
นอกจากคนทั้งสองแล้วแน่นอนว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายก็พูดชักชวนขึ้นมาตามๆ กัน
โจวหยุนห่าวได้แต่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าลังเลไม่น้อย แต่สายตาของเขาก็ยังไม่อาจจะละจากรูปภาพใบหน้าของเย่หยวนได้
ทุกผู้คนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตะลึงไม่น้อย ดูท่าแล้วโจวหยุนห่าวคนนี้เองก็คงคิดจะเข้าไปกราบเย่หยวนเช่นกัน
แต่เย่หยวนคนนี้มันมียาวิเศษใดที่สามารถทำให้เหล่ายอดคนยอดอัจฉริยะทั้งหลายนี้หันหน้าหนีเหล่าอาณาจักรบรรพกาลและไปเลือกตัวเขาแทน?
ไม่นานนักนอกจากเทพสวรรค์อาณาจักรบรรพกาลทั้งสองคนแล้วเหล่าปรมาจารย์ทั้งสิบเอ็ดก็ได้แสดงท่าทีต้อนรับออกมาสิ้น พยายามที่จะชักชวนโจวหยุนห่าวเข้าไปหาตน
มีเพียงเย่หยวนเท่านั้นที่ปิดปากเงียบไม่พูดใดๆ ราวกับว่าเรื่องราวในวันนี้มันไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับตัวเขา
เย่หยวนนั้นเข้าใจอยู่เต็มอกว่าที่เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายมีท่าทางเช่นนี้มันคงเป็นเพราะฝีมืออันเหนือล้ำของหนิงซืออวี๋แน่แล้ว
ตราบเท่าที่คนผู้นั้นยังพอมีสมองบ้าง พวกเขาก็ย่อมจะเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นมีศาสตร์การสอนที่ยอดเยี่ยม สามารถสั่งสอนผู้คนได้เก่งกาจกว่าเหล่ายอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลทั้งหลายมาก
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งโจวหยุนห่าวก็ยังหันไปเลือกเย่หยวนตามคนอื่นๆ
เท่านี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยิ่งตื่นตะลึง
ตอนนี้มันถึงขนาดที่ว่าปรมาจารย์บางคนได้สัญญาต่างๆ ไว้เป็นมั่นเหมาะ แต่โจวหยุนห่าวกลับยังเลือกเย่หยวน!
ตอนนี้อันดับที่เก้าก็ยังไปทางนั้น!
อันดับที่สิบ!
…
อันดับที่ยี่สิบ!
เหล่าจอมเทพโอสถห้าดาวทั้งยี่สิบคนนั้นได้เลือกเย่หยวนจนสิ้น
นั่นมันทำให้เหล่าปรมาจารย์และเทพสวรรค์ทั้งหลายตื่นตะลึงจนตาแทบถลนออกจากเบ้า
เรื่องราวเช่นนี้มันเพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในงานชุมนุมโอสถเมฆา
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียต่อให้เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เป็นถึงยอดคนอาณาจักรบรรพกาล ในงานครั้งก่อนๆ เหล่ายอดอัจฉริยะอันดับล่างๆ ก็ยังไม่กล้าที่จะเลือกตัวเขา จึงได้หันไปเลือกเหล่าปรมาจารย์ที่มีฝีมือรองๆ ลงไป
แต่ครั้งนี้คนทั้งยี่สิบกลับเลือกเข้าหาเย่หยวนอย่างไม่มีข้อยกเว้น!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมน่าตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ
เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็ได้แต่หันมามองเย่หยวนอย่างมึนงง สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
มันมิใช่ว่าเขาจะอิจฉาใดๆ เพียงแค่ว่าสงสัย
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขาที่ชนะยอดคนอันดับหนึ่งแห่งเดนใต้มานี้กลับไม่มียอดอัจฉริยะคนใดคิดเลือกเขาแม้แต่คนเดียว
“นี่มัน… มันเพราะอะไรกันแน่?”
“ไม่เข้าใจ! ไม่สามารถจะเข้าใจได้เลยจริงๆ! ต่อให้ตัวเขาจะเป็นยอดคนอัจฉริยะล้ำฟ้าปานใดแต่สุดท้ายตัวเขาในตอนนี้ก็ยังเป็นแค่จอมเทพโอสถหกดาว ทั้งยังมีเต๋าโอสถไม่ถึงอาณาจักรบรรพกาลด้วย แต่ทำไมเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายถึงไม่คิดเลือกพี่ดันหยู่หรือพี่เปียวหยูสองยอดเทพสวรรค์นี้กัน?”
“หรือว่าเจ้าเด็กน้อยทั้งหลายนี้มันจะสมองเพี้ยนกันไปหมดแล้ว?”
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...