จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2054

เรื่องที่หอมหาสมบัติได้ถอนตัวจากพันธมิตรแดนใต้นี้แพร่กระจายไปทั่วสารทิศอย่างรวดเร็วจนทำให้วงการโอสถต้องสั่นสะเทือน

ด้วยตำแหน่งหนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งวงการ หอมหาสมบัตินั้นมีกำลังเป็นอันดับสองรองจากแค่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาเท่านั้น

แต่ไม่ว่าเก่งกาจทรงอำนาจมากเท่าใดมันก็เป็นได้แค่หนึ่งใจเจ็ดยักษ์ใหญ่เท่านั้น

หอมหาสมบัตินั้นถอนตัวจากพันธมิตรแดนใต้เช่นนี้มันย่อมเท่ากับว่าพวกเขากำลังประกาศสงครามกับวงการโอสถในแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้น

แม้ว่ามันจะมิใช่สงครามที่สู้กับด้วยดาบหอก แต่สงครามการค้านี้เองก็เป็นหนึ่งในสงครามที่โหดร้ายอย่างมาก บางทีอาจจะโหดร้ายยิ่งกว่าการสู้รบด้วยเลือดเนื้อเสียด้วยซ้ำ

ด้วยกำลังของหอมหาสมบัติเพียงลำพังแล้วมีหรือที่พวกเขาจะทนทานการแย่งชิงดินแดนการค้าจากหกยักษ์ใหญ่ที่เหลือได้?

“เทพสวรรค์เปียวหยูก็บ้าบิ่นเกินไป แค่เพราะเพื่อจะช่วยเย่หยวนนั้นเขากลับเลือกที่จะเป็นศัตรูกับแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้น!”

“หึ ปรมาจารย์เย่นี่เก่งกาจสมชื่อจริงๆ จะเรียกเขาว่าเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้เรามันก็คงไม่ผิดเลย แต่ต่อให้จะเป็นยอดคนอันดับหนึ่ง มันก็ยังมีขีดจำกัดของตนอยู่ดี”

“พวกเจ้ายังไม่รู้ใช่หรือไม่? ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ทั้งหกนั้นได้เริ่มเข้าไปตั้งเปิดร้านในเขตแดนของหอมหาสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูท่าเรื่องนี้อาจจะได้เห็นจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาท่านออกมาจัดการเองก็ได้!”

“หกยักษ์ใหญ่นี่ก็ลงมืดรวดเร็วเหลือเกิน ตอนนี้เทพสวรรค์เปียวหยูคงได่แต่นั่งหน้าเสียแล้วมั้งเนี่ย?”

ทุกทิศในแดนใต้นั้นมันต่างมีคนพูดถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงของวงการโอสถนี้

ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วเทพสวรรค์เปียวหยูย่อมจะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ตัดสินใจผลักหอมหาสมบัติลงกองไฟอย่างแท้จริง

ถึงเวลานั้นมันคงต้องให้จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาออกมาจัดการความยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้แทนแล้ว

จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเป็นตัวตนที่ไม่สนโลกเบื้องล่างมากมายนัก แต่เรื่องราวที่ใหญ่โตขนาดนี้ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็คงไม่อาจปล่อยไปได้

ในเวลานี้ ณ เขาเมฆาฝันแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวมันได้เกิดแสงสีทองอร่ามสว่างจ้าขึ้น

ซือหยู่และชิงหยุนทั้งสองคนนั้นต่างรับรู้ได้ถึงพลังอันหนักหน่วงนี้และได้แต่มองดูมันอย่างตื่นตะลึง

“แข็งแกร่งจริงๆ นี่หรือคือคลื่นพลังของอาณาจักรบรรพกาล! ไม่นึกเลยว่าผู้อาวุโสเย่จะสามารถก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลได้ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้และยังสามารถปะทะกับท่านอาจารย์เราที่อยู่ในอาณาจักรบรรพกาลได้!” ซือหยู่ร้องขึ้น

พวกเขานั้นเคยคิดดูถูกเย่หยวนในครั้งแรกที่เจอ แต่หลังจากได้เห็นการประลองของเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนแล้วความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

จิตโอสถกังวานนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของทั้งสอง

ชิงหยุนนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “ต่อให้เขาจะบรรลุอาณาจักรบรรพกาลมาได้แต่แล้วทำไมเล่า? ยังไม่เขาก็ยังไม่น่าเทียบเคียงท่านอาจารย์เราได้! เพราะอาจารย์เรานั้นสามารถโค่นเทพสวรรค์ดันหยู่ผู้นั้นลงได้ในงานชุมนุมโอสถเมฆาจนตอนนี้มีตำแหน่งเป็นอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้นะ!”

ซือหยู่เองก็พยักหน้าขึ้นตาม “ก็จริง มีหรือที่เย่หยวนนั้นจะเทียบเคียงท่านอาจารย์ได้?”

ระหว่างที่คนทั้งสองกำลังนั่งคุยกันไปคลื่นพลังจากภายในห้องมันก็ได้ถูกดึงกลับจางหายไป

เย่หยวนและเทพสวรรค์เปียวหยูสองคนเดินออกมาด้วยรอยยิ้มกว้างจนทำให้ทั้งซือหยู่ ชิงหยุน เซินชางและเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต้องรีบเข้าไปถามไถ่ถึงผลด้วยสีหน้าสุดสงสัยในใจ

“อาจารย์ ท่านชนะแน่แล้วใช่ไหม? ท่านนั้นเป็นถึงยอดคนอันดับหนึ่งในเต๋าโอสถแห่งแดนใต้!” ซือหยู่ถามขึ้นด้วยความมั่นใจ

เทพสวรรค์เปียวหยูหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ยอดคนอันดับหนึ่งในเต๋าโอสถแห่งแดนใต้? ฮ่าๆๆ! ข้ายังไม่ทันได้นั่งตำแหน่งนั้นมันก็โดนเจ้าเด็กนี่แย่งไปแล้ว! จากวันนี้ไปหากจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายไม่ออกมามันก็คงไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้แล้ว! บางทีเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหลายนั้นเองก็อาจจะยังเทียบเคียงเย่หยวนไม่ได้เสียด้วยซ้ำ”

เปียวหยูหัวเราะออกมาอย่างสบายอารมณ์ กล่าวคำพูดออกมาอย่างไม่มีท่าทีติดขัดใดๆ แต่เมื่อมันเข้าถึงหูเหล่าซือหยู่ทั้งหลายมันกลับทำให้พวกเขาแทบสิ้นสติลง

มันหมายความว่า… อาจารย์ของพวกเขาแพ้หรือ?

“นี่มัน… จะเป็นไปได้อย่างไร? อาจารย์นั้นสามารถโค่นได้แม้แต่เทพสวรรค์ดันหยู่คางานชุมนุมโอสถเมฆาเลยนะ!” ซือหยู่กล่าว

ในจิตใจของพวกเขาแล้วเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเป็นดั่งเทพเหนือฟ้าไม่อาจเอื้อมถึงได้

แต่ตอนนี้เมื่ออาจารย์ของพวกเขาบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลได้และยังสามารถโค่นเทพสวรรค์ดันหยู่ผู้เป็นอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ลงได้

แต่อาจารย์ของพวกเขานั้นกลับยอมรับว่าตนด้อยกว่าเย่หยวน

นี่มัน… จะไม่ได้แทบสิ้นสติได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ