สามวันต่อจากนั้นทางศิษย์พี่ใหญ่ของหอเมฆาน้ำแข็งก็ได้นำพาตัวลู่เอ๋อมาถึงยังหน้าห้างยอดโอสถ
เพื่อที่จะทำให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนวางใจลงได้ เย่หยวนจึงได้ยอมรับข้อเสนอของนาง
แต่เรื่องราวทั้งหลายมันก็จะเกิดขึ้นได้หลังพบเจอหน้าลู่เอ๋อเสียก่อน
แต่เย่หยวนนั้นก็ได้ร้องขอให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนใช้ศิษย์พี่ใหญ่แห่งหอเมฆาน้ำแข็งเป็นคนส่งตัวนางมา เพราะหากทำเช่นนั้นมันก็จะเป็นการแสดงความจริงใจด้วย
“นางสารเลว ข้าขอบอกเจ้าเลยนะว่าอย่าได้คิดทำอะไรโง่เง่า! เมื่อมีข้าอยู่ด้วยแล้วเจ้าจะไปที่ใดเจ้าก็ไม่มีทางไปได้!” เฮ่อเซียงหยุนร้องเตือน
ส่วนทางลู่เอ๋อนั้นนางได้แต่เดินหน้าตรงไม่คิดจะหันไปรับปากรับคำใด ๆ
เพราะในเวลานี้จิตใจของนางนั้นมันล้นเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี
แน่นอนล่ะว่านายน้อยของนางนั้นจะย่อมมีวิธีการที่แตกต่างเหนือล้ำจากผู้คน!
หากเป็นคนอื่น ๆ แล้วพวกเขาอาจจะบุกเข้าหอเมฆาน้ำแข็งหรือคิดลอบปลอบตัวเข้าหอเมฆาน้ำแข็งมาช่วยเหลือนาง
แต่นายน้อยของนางนี้กลับทำให้อาจารย์ของนางนั้นต้องก้มหัวลงส่งตัวนางออกมาถึงหน้าประตู
เวลากว่าปีมานี้ลู่เอ๋อได้แต่คิดว่านายน้อยของตนนั้นจะใช้วิธีใดในการช่วยเหลือนางกันแน่อยู่ทุกวี่วัน
นางนั้นคิดถึงความเป็นไปได้ร้อยแปดพันเก้า แต่ไม่เคยจะคิดถึงวิธีการนี้มาก่อนเลย
เจ้ามาช่วยเหลือผู้คนแต่กลับทำให้ฝ่ายที่จับตัวผู้คนไว้ต้องก้มหัวลงส่งตัวคนออกมาอย่างเต็มใจ
วิธีการเช่นนี้มันใช่ว่าใครก็จะทำได้
นี่มัน…ราวกับหลอกลวงผู้คนก็มิปานมิใช่หรือ?
ลู่เอ๋อได้แต่คิดขำอยู่ในใจ
“แล้วก็อาจารย์จี้นั้นเขาเป็นถึงยอดคนที่ใหญ่โตมีแต่คนนับหน้าถือตา กำลังที่เขาควบคุมอยู่นั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะไปลบหลู่ได้ เจ้าจงอยากได้ขัดคำใด ๆ ของเขาไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ เสีย! หึ เข้าใจไหม?”
เมื่อได้เห็นลู่เอ๋อไม่คิดสนใจเฮ่อเซียงหยุนก็ยิ่งขุ่นเคืองใจมากขึ้นกว่าเก่า
“วางใจเถอะน่าศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องราวนี้มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของหอเมฆาน้ำแข็ง ลู่เอ๋อรู้ดีว่ามันสำคัญ” ลู่เอ๋อบอก
แม้ว่าลู่เอ๋อจะไม่ชอบใจเรื่องราวที่เทพสวรรค์ปิงหยุนทำในช่วงหลายปีมานี้ แต่นางนั้นก็ยังมีความคิดบริสุทธิ์รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณมากกว่าแค้นเคืองใด ๆ เทพสวรรค์ปิงหยุน
เพราะไม่ว่าอย่างไรกว่าพันปีมานี้เทพสวรรค์ปิงหยุนก็ได้สั่งสอนวิชาต่าง ๆ ให้นางอย่างมากมายทำให้นางสามารถมีวันนี้ได้
“หึ! หวังว่าเจ้าจะเข้าใจมันจริง ๆ! ตอนนี้เราจะเข้าประตูห้างยอดโอสถแล้ว จงทำตัวให้สงบเสงี่ยมไว้!” เฮ่อเซียงหยุนกล่าวเตือนขึ้น
คนทั้งสอนนั้นได้เดินเข้ามาถึงห้างยอดโอสถและภายใต้การนำทางของซ่งเฉา ในที่สุดพวกเขาก็เข้ามาถึงโถงใหญ่
เมื่อลู่เอ๋อเดินผ่านประตูใหญ่เข้ามานางก็ได้เห็นถึงชายหนุ่มร่างผอมบางคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น
ต่อให้เวลาจะผ่านไปเป็นพัน ๆ ปี แม้ว่าหน้าตาของเย่หยวนตอนนี้มันจะแตกต่างไปจากเย่หยวนในคราก่อนมากเพียงแค่ไหน นางก็ย่อมจะจดจำเขาได้ในพริบตา
เพราะนี่คือคนที่อยู่ในความคิดของนางทุกวี่วัน ทั้งในชีวิตและความฝันนางย่อมจะไม่เคยลืมเลือน
ที่นางเดินทางมานับหมื่น ๆ กิโลเมตรจนมาถึงดินแดนอันหนาวเหน็บ ต้องทนทรมานจากการกลั่นแกล้งของศิษย์พี่น้องทั้งหลายและการลงโทษอันหนักหนานี้ก็เพื่อสิ่งใด?
มันก็เพื่อไม่อยากจะเป็นภาระให้กับเขามิใช่หรือ?
แต่สุดท้ายแล้วนายน้อยของนางกลับต้องเดินทางข้ามผ่านโลกามาจนถึงดินแดนเหนือสุดนี้เพื่อที่จะช่วยเหลือตัวนาง
เมื่อคิดมาได้ถึงจุดนี้น้ำตาใส ๆ ก็ไหลลงมาจากเบ้าตาของนางอย่างไม่อาจควบคุม
ลู่เอ๋อนั้นได้แต่คิดถึงเรื่องราวของเย่หยวนในเวลานี้ แต่นางก็ยังมองเห็นถึงสายตาที่เย่หยวนใช้มองมายังตัวนางในเวลานี้จนต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นจากภวังค์
ตอนนี้มันมิใช่เวลามาจดจำกันและกันใด ๆ!
เทพสวรรค์กู้หงนั้นกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เย่หยวนในเวลานี้
“เฮ่อเซียงหยุนแห่งหอเมฆาน้ำแข็งขอคารวะอาจารย์จี้!” เมื่อเฮ่อเซียงหยุนเห็นเย่หยวนนางก็รีบก้มหัวลงคารวะอีกฝ่ายทันที
แต่เมื่อได้เห็นว่าลู่เอ๋อยังยืนเอ๋อไม่ยบอมคุกเข่าลงนางก็หันไปตวาดทันที “นางกะหรี่ จะยืนนิ่งนึกถึงพ่อเจ้าหรือ? ทำไมยังไม่รับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าอาจารย์จี้อีก?”
พูดไปนางก็ยื่นมือออกไปคิดจะผลักตีเข่าของลู่เอ๋อ
เย่หยวนที่ได้เห็นย่อมจะต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะร้องตะโกนออกมา “โอหัง!”
เฮ่อเซียงหยุนยังไม่ทันจะลงมือใด ๆ เมื่อได้ยินนางจึงต้องยิ้มออกมา “นางกะหรี่ เจ้าได้ยินหรือไม่? เจ้าจะโอหังเกินไปแล้ว!”
“ข้าพูดกับเจ้าต่างหาก!” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นจนมันแทบชนกัน
เพราะตอนนี้แท้จริงในจิตใจของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความคับแค้นจนคิดกลายเป็นจิตสังหารแล้ว
เขานั้นได้เห็นเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับลู่เอ๋อจากความทรงจำของซุนชิงหลิง
และคนร้ายที่แท้จริงของเรื่องราวมันก็คือเฮ่อเซียงหยุน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...