“นายน้อย!”
เมื่อนางเข้ามาถึงห้องหลอมโอสถด้านหลังลู่เอ๋อก็ไม่อาจจะอดทนกลั้นตนได้อีกต่อไป รีบเข้าสวมกอดกับเย่หยวนอย่างรุนแรงพร้อมน้ำตาที่ไหลนองหน้า
เย่หยวนนั้นค่อยปลอมนางอย่างอ่อนโยนด้วยความเศร้าเสียใจมากมายมหาศาล
สำหรับนักยุทธทั้งหลายแล้วเวลาพันปีมันอาจจะแสนสั้น
แต่กับเย่หยวนและลู่เอ๋อนั้นเวลาพันปีมันสุดแสนจะยาวนาน!
เย่หยวนนั้นเดินเริ่มเดินทางตั้งแต่อยู่รัฐฉิน คนที่ร่วมทางกับเขามายาวนานที่สุดมันก็ย่อมจะเป็นลู่เอ๋อ
คนทั้งสองนี้มีสายสัมพันธ์เป็นนายบ่าว แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกที่ตนมีได้
เวลากว่าพันที่ปีผ่านไปนี้มันเป็นดั่งมรสุมในจิตใจของคนทั้งสองอย่างมาก
“เอาล่ะ ๆ อย่าร้องอีกเลย ๆ นายน้อยของเจ้ามารับเจ้าแล้วนี่ไง!” เย่หยวนได้แต่ลูบหลังของลู่เอ๋ออย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งไปทั้งใจ
ตั้งแต่ที่ลี่เอ๋อและพวกเดินทางจากเมืองอินทรีสวรรค์ไป เย่หยวนก็กังวลถึงพวกเขาทั้งหลายอย่างมากมาย
จากนั้นมามันก็มีเรื่องของอิ้งหมัวหู่จากนั้นก็เรื่องของลี่เอ๋อ แต่สุดท้ายคนที่เขายังกังวลถึงมากที่สุดมันก็คือลู่เอ๋อ
เพราะลู่เอ๋อนั้นเป็นแค่คนเดียวที่ไม่มีข่าวคราวใดทำให้เย่หยวนกังวลอย่างสุดหัวใจ
ความทรมานนั้นมากมายปานใด มันคงมีแต่ตัวเขาที่จะเข้าใจได้
“ฮือ ๆ…นายน้อย ข้า…ข้าคิดไปเสียว่า…”
“อืม ๆ เจ้าคิดว่าศิษย์พี่ซุนของเจ้าจะมาจับตัวข้า รังแกข่มเหงข้า?” เย่หยวนหัวเราะขึ้น
ลู่เอ๋อพยักหน้าออกมา หลายปีมานี้นางไม่อาจหายใจหายคอ กินอาหารอิ่มท้องได้ก็เพราะว่านางกังวลเรื่องนี้อย่างมาก
“แม่นางลู่เอ๋อวางใจเถอะ ตอนนี้นายท่านนั้นมีตำแหน่งใหญ่โต ท่านใช้กำลังของตนเอาชนะทั้งแดนใต้ด้วยตนเองตอนนี้ท่านได้กลายเป็นจอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ไปแล้ว! ทั้งตอนนี้เมืองอินทรีสวรรค์เราได้กลายสภาพเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถไป ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ทั้งหลายแต่หากมาถึงหน้านายท่านแล้วพวกเขาก็ยังต้องเรียกนายท่านว่าปรมาจารย์เย่! เหล่าศิษย์พี่ทั้งหลายของแม่นางนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวเดินเข้าเมืองมาจับตัวนายท่านอย่างโง่เง่า รนหาที่ตายโดยแท้” หนิงเทียนปิงที่นั่งอยู่ในห้องด้วยพูดเสริมขึ้น
เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางกลับต้องเบิกตากว้างเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องราวจากสวรรค์อย่างที่ไม่อาจเชื่อได้มากมายนัก
จอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้และเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถ!
ลู่เอ๋อในเวลานี้ที่เดินทางไกลแสนไกลย่อมจะเข้าใจว่าแดนใต้นั้นมันยิ่งใหญ่ปานใด
เย่หยวนนั้นกลับกลายเป็นคนระดับเจ้านายของแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้นไปได้
“ที่แท้นายน้อยท่านเก่งกาจได้ถึงปานนี้แล้ว?” ลู่เอ๋อทั้งตื่นตะลึงทั้งดีใจ
แน่นอนว่ายิ่งนายน้อยของนางเก่งกาจมากเท่าใด ตัวนางก็จะยิ่งตื่นเต้นดีใจไปด้วยเท่านั้น
เย่หยวนยิ้มออกมา “ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ข้าก็เป็นนายน้อยของเจ้า!”
แต่จู่ ๆ เย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้ามีบาดแผลหนักหน่วงทั่วร่าง มันคงมีคนใช้ค่ายกลสายฟ้าทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่? หากข้าเดาไม่ผิดแล้วมันคงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า เฮ่อเซียงหยุนใช่หรือไม่?”
ลู่เอ๋อตอบกลับมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “นายน้อยท่าน… รู้อยู่แล้ว?”
เย่หยวนจึงหัวเราะขึ้น “ศิษย์พี่ซุนของเจ้านั้นมันโง่เง่าจนถึงข้าค้นจิตสิ้นแล้ว! หากมิใช่เช่นนั้นมีหรือที่ข้าจะวางแผนการใหญ่โตจนทำให้เทพสวรรค์ปิงหยุนต้องส่งเจ้าออกมาเช่นนี้ได้?”
เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกจุกขึ้นมาในอก
เย่หยวนนั้นรู้ว่าลู่เอ๋อมีนิสัยอย่างไรจึงได้แต่ถอนหายใจยาว “เจ้านี่นะ เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายต่อหลายปีเจ้าเองก็โตเป็นสาวแล้ว นิสัยภายในกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ทั้งเฮ่อเซียงหยุนทั้งซุนชิงหลิงต่างรังแกเจ้าอย่างมากมาย เจ้ากลับยังคิดจะไปเสียใจแทนพวกมัน?”
เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะตอบสวนมา “พวกนาง… จะอย่างไรเสียพวกนางก็เป็นศิษย์พี่ของข้า”
เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจยาวคิดเปลี่ยนเรื่องคุย “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นกันอีกแล้ว ตอนนี้นายน้อยของเจ้าจะจัดการดูแลแผลให้แก่เจ้าก่อน!”
เมื่อได้ตรวจดูร่างกายของลู่เอ๋อ เย่หยวนจึงได้รับรู้ถึงความหนักหนาสาหัสของแผลบนร่างนาง
เย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถเหนือล้ำปานใด? การรักษาตรวจโรคง่าย ๆ นี้มันทำให้เขารู้ทันทีว่าบางแผลบนร่างของลู่เอ๋อนั้นเป็นแผลจากอาการบาดเจ็บเมื่อนับสิบปีก่อน
หลายแผลนั้นเป็นแผลเก่าที่อยู่มายาวนานกว่าร้อยปีเสียด้วยซ้ำ!
ยิ่งได้ตรวจดูเย่หยวนก็ยิ่งรุ่มร้อนขึ้นในหัวใจ
เขานั้นได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าเฮ่อเซียงหยุนนางนั้นมันต้องตาย
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดจะบอกลู่เอ๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...