เมื่อได้กลิ่นของเลือดที่ยังไม่จางหายไปจากอากาศทางเฟิงเทียนหยางก็ต้องขมวดคิ้วแน่นจ้องมองออกไปด้านหน้าอย่างเย็นเยือก
แต่คนที่เขาจ้องมองในเวลานี้มันมิใช่เย่หยวนแต่เป็นเทพสวรรค์กู้หง
“กู้หง เจ้ากลับกล้าสังหารเฮ่อเซียงหยุนลง หรือเจ้าคิดจะประกาศตนเป็นศัตรูกับชุมวายุไพศาลแล้ว?” เฟิงเทียนหยางกล่าวขึ้น
ในสายตาของเขาแล้วมันย่อมจะไม่มีทางเป็นเย่หยวนที่ฆ่าสังหารเฮ่อเซียงหยุนใด ๆ มันต้องเป็นกู้หงที่ทรยศแน่นอน
กู้หงได้แต่ส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “นางไม่ได้ถูกเทพสวรรค์ผู้นี้ฆ่าสังหาร”
เฟิงเทียนหยางที่ได้ยินต้องหัวเราะขึ้นมา “ยังจะมากล่าวอ้าง? นอกจากเจ้าแล้วมันจะมีใครฆ่าสังหารเฮ่อเซียงหยุนได้อีก? แล้วก็อีกคน ศิษย์น้องหยาง ทำเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?”
เทพสวรรค์ปิงหยุนเองก็หรี่ตาลงมองพร้อมกล่าวสั่ง “เฟยเอ๋อ เจ้ามาทางนี้บัดเดี๋ยวนี้!”
หยางเฟยเอ๋อหันไปมองเทพสวรรค์ปิงหยุนด้วยดวงตาราวกับกำลังจ้องมองดูคนแปลกหน้า
“อาจารย์ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เฟยเอ๋อจะเรียกท่านเช่นนี้ จากวันนี้ไปเฟยเอ๋อจะขอลาจากหอเมฆาน้ำแข็ง” หยางเฟยเอ๋อกล่าว
เทพสวรรค์ปิงหยุนที่ได้ยินถึงกับต้องเบิกตากว้าง “นางศิษย์ไม่รักดี เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตนกล่าวอะไรออกมา? อาจารยูแลเจ้ามานับกี่ปี แต่เจ้ากลับคิดจะละทิ้งหอเมฆาน้ำแข็งอย่างนั้นหรือ? เฟยเอ๋อ สังหารคนตรงหน้าเจ้าและกลับมาหาอาจารย์เจ้าบัดเดี๋ยวนี้ อาจารย์จะถือว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
พูดไปเทพสวรรค์ปิงหยุนก็ยิ่งแสดงน้ำเสียงที่อ่อนโยนราวกับแม่ผู้กำลังกล่อมลูกที่คิดหนีออกจากบ้าน
เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนกล่าวออกมาถึงตอนจบดวงตาของนางก็เบิกกว้างพร้อมส่งคลื่นพลังลึกลับสายหนึ่งออกมาถึงร่างของหยางเฟยเอ๋อ
นี่มันเป็นพลังที่แสนลึกลับและซ่อนเร้น แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ก็ยังไม่อาจสัมผัสถึงมันได้
เพียงแค่ว่าทางหยางเฟยเอ๋อนั้นกลับไม่ขยับตัวแม้แต่น้อยราวกับว่าพลังลึกลับนี้มันเป็นแค่สายลมที่พัดผ่าน
เทพสวรรค์ปิงหยุนต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเช่นนั้นก่อนจะสั่งร้องออกมาอีกครา “เฟยเอ๋อ อาจารย์พูดกับเจ้าอยู่ ไม่ได้ยินหรือ?”
ในเวลานี้มันกลับเป็นทางเย่หยวนที่ปิดปากเงียบมาตลอดที่กล่าวขึ้นแทน “เจ้าคงสงสัยใช่หรือไม่ว่าเหตุใดวิชาศาสตร์ลับฝังวิญญาณของเจ้ามันจึงไม่มีผลใด ๆ ต่อศิษย์พี่เฟยเอ๋อเลย?”
เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนได้ยินนางก็แทบจะลุกกระโดดขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
เพราะวิชาศาสตร์ลับฝังวิญญาณของนางนั้นมันแสนเร้นลับ เหตุใดเจ้าหนุ่มคนนี้ถึงตรวจจับมันได้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นวิชานี้ของนางยังไม่เคยจะผิดพลาดล้นเหลวมาก่อน เหตุใดหยางเฟยเอ๋อจึงไม่ฟังคำของนางกัน?
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นรู้สึกมึนงงสงสัยอย่างมากกับเรื่องตรงหน้า แต่สุดท้ายนางก็ยังเป็นนางมารเฒ่าที่อยู่มานับแสน ๆ ปี แน่นอนว่าจะไม่แสดงอาการท่าทางที่มีออกมาง่าย ๆ
“เจ้าเด็กปากเหม็น เจ้ามาพูดเรื่องไร้สาระใด เจ้าคิดว่าเทพสวรรค์ผู้นี้จะไม่กล้าฉีกปากเจ้าออกหรือ?” เทพสวรรค์ปิงหยุนร้องกล่าว
เย่หยวนนั้นกล่าวตอบกลับมาอย่างไม่แยแส “ถูกข้าขุดความลับขึ้นมาจึงอับอายและโกรธแค้น? หึ ๆ ใช้วิชาศาสตร์ลับฝังวิญญาณควบคุมศิษย์ของตนเช่นนี้ อาจารย์เช่นเจ้ามันทำให้ผู้คนต้องขนลุกขนพองจริง ๆ!”
เมื่อคำพูดทั้งหลายนี้ถูกกล่าวศิษย์ของทางหอเมฆาน้ำแข็งที่ติดตามมาด้วยก็ต้องหันมองกันด้วยใบหน้าขาวซีด
พวกนางได้แต่มองไปยังเทพสวรรค์ปิงหยุนอย่างหวาดกลัว ไม่คิดอยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
เพราะการถูกฝังวิชาควบคุมจิตไว้ในกายนั้นมันไม่ได้ต่างจากการกลายเป็นทาสของอีกฝ่าย
ตราบเท่าที่เทพสวรรค์ปิงหยุนคิดสั่ง พวกนางก็จำต้องทำตามทุกสิ่งอย่าง
เรื่องราวเช่นนี้เหล่านักยุทธที่ถือตัวย่อมจะไม่อยากยอมรับมัน
วิธีการเช่นนี้มันต่างอะไรจากการกลายเป็นหมูหมาที่ถูกเลี้ยงไว้ในเล้า?
ตอนนี้แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังหันมามองเทพสวรรค์ปิงหยุนด้วยสีหน้าตื่นตะลึง
เทพสวรรค์ปิงหยุนจึงกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “หึ! เจ้ามารน้อย คิดจะใช้วิธีการเช่นนี้ทำให้หอเมฆาน้ำแข็งข้าแตกแยกหรือ? เจ้าคิดว่าทำเช่นนั้นแล้วตัวเองจะมีโอกาสหนีรอดไปได้?”
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้แต่หัวเราะออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังแนวคิดแห่งน้ำแข็งอันรุนแรงพุ่งทะยานใส่ตัวเย่หยวน
พลังฝ่ามือของเทพสวรรค์นั้นมันรุนแรงปานใด?
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองทางเทพสวรรค์กู้หงก็ได้ยื่นมือออกมารับการโจมตีนั้น
ปัง!
เมื่อคนทั้งสองปะทะฝ่ามือกันกลางอากาศมันย่อมจะทำให้ห้างยอดโอสถใด ๆ พังทลายลงสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...