เมื่อฝ่ามือถูกซัดออกแน่นอนว่าพลังโลกมันต้องรุนแรงถล่มทลายฟ้าดิน
เย่หยวนยืนรับอยู่ตรงนั้นพร้อมมือไพล่หลังไม่คิดเกรงกลัวใด ๆ
แต่ระหว่างที่ทุกผู้คนต่างคิดว่าเย่หยวนจะตายลงแน่แล้ว มันก็กลับได้เกิดเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากห้วงมิติตรงหน้า
ซินหลัวกระโดดก้าวออกมาจากมิติและรับฝ่ามือนั้นของฉีเฉินไว้ก่อนจะยิ้มขึ้นพูด “หึ ๆ ฉีเฉินโปรดใจเย็นก่อน”
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่มุงดูเรื่องราวอยู่ถึงกับต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเย่หยวนจึงกล้าจะยืนนิ่งเช่นนั้นที่แท้ตัวเขามีผู้ช่วยในระดับนี้ซ่อนอยู่อีก..ไอรีนโนเวล
แม้ฉีเฉินเองก็จะตกตะลึงไม่แพ้ผู้คนทั้งหลายแต่เขาก็ยังตั้งสติถามกลับมาได้ “ซินหลัว ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
ซินหลัวหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาเคียดแค้น ได้แต่คิดในใจว่าเจ้าเด็กคนนี้มันช่างมากเล่ห์ ดูท่าคงรู้มาแต่แรกแล้วว่าตัวเขาแอบมองดูเรื่องราวอยู่ไม่ไกล จึงได้จงใจทำเช่นนี้เพื่อบีบให้ตัวเขาต้องก้าวออกมา
เพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่พอใจกับตำแหน่งของเย่หยวนและย่อมคิดอยากจะเห็นเย่หยวนเสียหน้าบ้างสักครั้ง
แต่เย่หยวนนั้นกลับยืนนิ่งไม่หวาดหวั่นใด ๆ แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากฉีเฉินจนทำให้ตัวเขาเองก็ตกที่นั่งลำบาก
“พี่ฉีเฉิน ท่านจะทำร้ายเขาไม่ได้!” ซินหลัวร้องบอก
“หึ! แค่เด็กมนุษย์คนหนึ่งขโมยพลังอสูรไป ทำไมข้าจะไม่อาจทำร้ายมันได้?” ฉีเฉินร้องตอบ
“พี่ฉีเฉินนั้นอาจจะยังไม่ทราบเพราะท่านเพิ่งออกมาสู่โลกภายนอกได้ไม่นาน แต่นี่… คือรองมหาปราชญ์ที่ท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแต่งตั้งขึ้นมาเองกับมือ!” ซินหลัวร้องบอก
ฉีเฉินถึงกับต้องผงะเมื่อได้ยินก่อนจะหันไปมองเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อ
เมื่อเหล่านักยุทธยอดฝีมือทั้งหลายในเมืองได้ยินคำพูดนั้น ทุกผู้คนต่างก็แสดงอาการตกตะลึงออกมาไม่แพ้กัน
“หะ? นี่คือรองมหาปราชญ์ในตำนานคนนั้น? นี่มัน…จะไม่เด็กไปหน่อยหรือ?”
“นี่หลอกตากันหรือไม่? ทำไมรองมหาปราชญ์ถึงเป็นมนุษย์ไปได้? ที่สำคัญยังเป็นแค่เทพถ่องแท้คนหนึ่ง?”
“เจ้าเด็กคนนี้มันมีดีอะไรถึงได้รับการขนานนามว่ารองมหาปราชญ์? นี่ท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลหยอกพวกเราเล่นแล้วหรืออย่างไร?”
…
ฉีเฉินเองก็ย่อมจะเคยได้ยินนามของรองมหาปราชญ์มาบ้าง เพียงแค่ว่าใบหน้าของเขาในเวลานี้มันไม่มีความคิดจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย “หึ ๆ พี่ซินหลัวเองก็คงหยอกเทพสวรรค์ผู้นี้แล้ว? ตัวตนของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นคือใคร? ทำไมเขาถึงจะตั้งมนุษย์เทพถ่องแท้มาเป็นรองมหาปราชญ์กัน?”
ซินหลัวยิ้มขึ้น “เมื่อตอนที่เทพสวรรค์ผู้นี้ได้เจอท่านรองมหาปราชญ์ข้าเองก็คิดไม่ต่างจากเจ้าหรอก แต่มีหรือที่ซินหลัวผู้นี้จะมาพูดล้อเล่นกับนามที่ท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลตั้ง? คนผู้นี้แหละคือรองมหาปราชญ์แห่งเผ่าอสูรเราอย่างแท้จริง! ที่สำคัญไปกว่านั้นวิชาโอสถของท่านรองมหาปราชญ์นั้น พวกเราทั้งหลายเองก็ได้เห็นมันมากับตาและยอมรับมันอย่างเต็มอก!”
ฉีเฉินเองก็ย่อมจะเข้าใจว่าซินหลัวไม่เอาเรื่องเช่นนี้มาพูดเล่นแน่ ๆ
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจจะยอมรับมัน
หากเขานั้นเป็นรองมหาปราชญ์จริง ๆ แล้วตัวฉีเฉินก็คงไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้
แม้ว่าตัวเขาจะเก่งกาจปานใดมันก็ยังห่างไกลจากระดับของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลไปมาก
แม้ว่าเผ่ากิเลนนั้นจะไม่เกรงกลัวอำนาจของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล แต่การจะตัดขาดสายสัมพันธ์ทั้งหลายทั้งสิ้นทิ้งมันก็จะเท่ากับว่าต้องทิ้งสมบัติผลประโยชน์ใด ๆ ที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมอบให้ไปด้วย
“หึ! ต่อให้เป็นเช่นนั้นมันก็ขโมยสมบัติเผ่ากิเลนข้าไปทั้งยังขโมยพลังสายเลือดกิเลนเรา แถมยังทำร้ายคนเผ่ากิเลนข้า เจ้าคิดว่าเรื่องมันจะจบลงด้วยลมปากเช่นนี้?” ฉีเฉินกล่าวขึ้น
“เรื่องนั้น…” ซินหลัวเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าอึดอัดใจ
เพราะเดิมทีเรื่องนี้มันก็เป็นความผิดคนของเจ้ามิใช่หรือ? ตอนนี้เจ้ากลับหัวรั้นเปลี่ยนจากเลวเป็นร้าย
เผ่ากิเลนนั้นไม่ได้ออกสู่โลกภายนอกมาแสนนานและย่อมจะไม่เข้าใจเรื่องราวของโลกหล้าแม้แต่น้อย
สมบัติที่คนผู้หนึ่งได้รับมามันก็ย่อมจะเป็นของคนผู้นั้น มันจะไปเป็นของเผ่ากิเลนได้อย่างไร?
แน่นอนว่าทางเย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับไป “เจ้ายังจะอยากได้หน้าอีก เจ้าเฒ่า? ได้สิ ในเมื่อเจ้าคิดจะเอาสมบัติ ข้าก็จะให้เจ้าเสียเดี๋ยวนี้! ข้าแค่อยากรู้ว่าบรรพบุรุษของเจ้าจะตอบสนองอย่างไรต่อลูกหลานที่ไม่รักดีเช่นนี้!”
พูดจบเย่หยวนก็พลิกฝ่ามือส่งกระดูกอันเงาวับออกมาถือไว้ในมือ และแน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นกระดูกจักรพรรดิกิเลยแล้ว
เมื่อกระดูกจักรพรรดิกิเลนถูกนำออกมา มันก็ส่งคลื่นพลังโบราณไปทั่วทุกหนแห่งทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...