จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2114

สรุปบท ตอนที่ 2114 หลงเสี่ยวฉุน: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2114 หลงเสี่ยวฉุน – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2114 หลงเสี่ยวฉุน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของซินหลัว ฉีเฉินเองก็ตกตะลึงไปไม่น้อย

เจ้ากระดูกจักรพรรดินั้นมันเหนือล้ำอย่างที่เขาคาดคิดจริง ๆ!

ด้วยตำแหน่งของฉีเฉิน ตัวเขาย่อมจะได้พบเห็นกระดูกจักรพรรดิที่บรรพบุรุษละทิ้งไว้ให้มามากมาย

แต่ตัวเขานั้นไม่เคยจะคิดฝันว่ากระดูกจักรพรรดิชิ้นหนึ่งจะทำให้เผ่ากิเลนไม่อาจขัดขืนได้เช่นนี้

ทั้งยังเรื่องที่ฉีเจิ้นเป็นถึงเทพสวรรค์ด้วย

มันจะไม่เท่ากับว่าตราบเท่าที่เย่หยวนมีกระดูกจักรพรรดินี้ในมือแล้วเขาจะไม่ต้องเกรงกลัวใด ๆ เลยเมื่อเจอกับเทพสวรรค์เผ่ากิเลนหรือ?

เรื่องนี้มันย่อมจะปล่อยไว้ไม่ได้ ตัวเขาต้องนำพากระดูกนี้กลับไปยังเผ่า!

“ไม่นานแน่ซินหลัว เรื่องราวนี้เผ่ากิเลนข้าจำจดมันไว้ขึ้นใจแล้ว อาณาจักรวิญญาณประจิมเจ้าจะต้องพบเจอความพิโรธจากเผ่ากิเลนเรา! ฉีหยุน ไปกัน!”

พูดจบทางฉีเฉินก็ได้นำฉีหยุนเดินทางกลับไปทันที

ซินหลัวที่รู้อยู่แต่แรกว่าเรื่องเช่นนี้คงเลี่ยงไม่ได้ จึงได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ดูท่ามันจะไม่อาจเลี่ยงการเสียเลือดเนื้อได้แล้ว

เมื่อคิดมาได้ถึงตรงนี้ซินหลัวก็อดไม่ได้ที่จะคิดแค้นเย่หยวนขึ้นมา

เขานั้นระบายความไม่พอใจของตนออกมา แต่มันกลับทำให้เผ่าอสูรต้องตกสู่สงคราม

หลังจากฉีเฉินจากไปร่างของกงหยางเลี่ยก็ปรากฏตัวขึ้น

“ท่านกงหยาง! เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?” ซินหลัวถาม

กงหยางเลี่ยตอบกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด “จะทำอย่างไรได้อีก? หากเผ่ากิเลนนั้นมาถามเราจริง ๆ เราก็คงมีแต่ต้องให้พวกมันเอาตัวเย่หยวนไป!”

ซินหลัวหน้าซีดขาวลงทันทีที่ได้ยิน “แต่…เขานั้นเป็นถึงรองมหาปราชญ์!”

กงหยางเลี่ยนั้นหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “จะเป็นรองมหาปราชญ์แล้วทำไม? กำลังของเผ่ากิเลนนั้นเจ้าเองก็ทราบดีแก่ใจ หากสงครามมันเริ่มขึ้นแล้วจะต้องมีการสูญเสียเท่าไหร่ ถึงเวลานั้นเจ้าคิดว่าเผ่าอื่น ๆ ทั้งหลายจะอยู่นิ่ง? หรือเพราะว่าเย่หยวนคนเดียวนี้เราจะต้องทำให้เผ่าอสูรตกสู่สภาวะวิกฤต? ที่สำคัญต่อให้จะเป็นตัวท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเองที่ออกมาท่านก็คงส่งมอบตัวเย่หยวนออกไปอย่างไม่ลังเลเช่นกัน ที่สำคัญจะบอกว่าเขาเป็นรองมหาปราชญ์ใด แต่สุดท้ายเขาก็ยังเป็นแค่เทพถ่องแท้ วันหน้าใครจะไปแน่ใจได้? ในมหาพิภพถงเทียนนี้สิ่งที่มีค่าที่สุดนั้นคืออัจฉริยะ แต่สิ่งที่ด้อยค่าที่สุดมันก็คืออัจฉริยะ!”

เพราะก่อนที่อัจฉริยะจะเติบโตขึ้นเป็นยอดฝีมือได้ พวกเขาก็จะเป็นได้แต่อัจฉริยะ

ในมหาพิภพถงเทียนนี้การเกิดและตายมันเกิดขึ้นในทุกวินาที อัจฉริยะนั้นมิใช่จะมีแค่เย่หยวนคนเดียว

เย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำอย่างแท้จริง แต่มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างเขาจะไปสนใจยอดอัจฉริยะวิชาโอสถระดับหกดาว?

ความเคารพที่เขาแสดงต่อเย่หยวนล้วนแต่เกิดขึ้นมาเพราะมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

ที่สำคัญไปกว่านั้นกงหยางเลี่ยยังมีเรื่องค้างคาในใจ

เพราะการปรากฏตัวของเย่หยวนนี้มันทำให้ชื่อเสียงของมหานักบวชขนแดงต้องสั่นคลอน

การยืมมือเผ่ากิเลนสังหารเย่หยวนลงนี้เองมันก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก

ที่ด้านข้างทางซินหลัวนั้นย่อมจะเข้าใจได้

เรื่องราวในเวลานี้มันมิใช่สิ่งที่ตัวเขาจะยุ่งใด ๆ ด้วยได้แล้ว

เมื่อการฆ่าสังหารฉีเจิ้นลงนั้นเย่หยวนไม่ได้คิดกังวลใด ๆ

หลังจากกลับมาถึงที่พักเขาก็เริ่มเข้าสู่การเก็บตัวเพื่อสลายพลังของเต๋าจากลายพระเจ้าที่ค้างอยู่ในร่าง เขานั้นใช้เวลาถึงสิบวันกว่าที่จะไล่ความเย็นเยือกนั้นออกไปได้หมด

ระหว่างที่ใช้พลังของลายพระเจ้าออกมานั้นเขาจะมีพลังสูงล้ำฟ้าก็จริง แต่มันก็จะตามมาด้วยผลเสียมหาศาล

ภายใต้สถานการณ์ปกติเย่หยวนย่อมจะไม่คิดใช้ลายพระเจ้าออกมา

แต่เวลานี้เย่หยวนเองก็ไม่ได้เกรงกลัวพลังของเผ่ากิเลนมากนัก

ด้วยกระดูกจักรพรรดิกิเลนในมือนี้ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นต้น ๆ ของเผ่าออกมา ตัวเขาก็คงพอจัดการลงได้

เย่หยวนนั้นยิ่งเข้าใจในคำพูดของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นมากขึ้นและมากขึ้นเมื่อได้เห็นพลังนี้ คำพูดที่เขากล่าวไว้ว่าคนในยุคโบราณนั้นเก่งกาจกว่าคนในยุคปัจจุบันมาก

กระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้มันผ่านแดดผ่านฝนผ่านกาลเวลามาแสนนานแต่ก็ยังมีพลังได้ถึงขนาดนี้

เย่หยวนเองก็รู้สึกเห็นด้วยในทันที ดูท่านิสัยของฉีเจิ้นนี้มันจะไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมาต่อหน้าตัวเขา

หลงเสี่ยวฉุนมองดูเย่หยวนตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งก่อนจะถามขึ้น “ข้าได้ยินมาว่าฉีเฉินนั้นมันวางเดิมพันกับเจ้าไว้แต่สุดท้ายฉีเจิ้นกลับกลัวหัวหดไม่กล้ารับคำท้าทายและไปบอกเลิกการเดิมพัน พร้อมยังพูดจาข่มขู่เจ้าด้วยชื่อเสียงเผ่าตนจึงถูกเจ้าฆ่าสังหารลงใช่หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “มันเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นจริง”

หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ฉีเจิ้นเจ้าโง่นั่นมันอวดดีไม่คลายจริง! แต่ตอนนี้มันคงไม่อาจจะไปอวดอะไรใครได้แล้ว ฮ่า ๆ ๆ …”

พูดไปนางก็หัวเราะลั่นขึ้นด้วยท่าทางสุดแสนจะสุขใจ

เมื่อหัวเราะแล้วเสร็จนางก็เดินเข้ามาตบบ่าเย่หยวนด้วยท่าทางเหมือนคนรุ่นใหญ่กว่า “จำไว้เถอะ หากพวกเฒ่าเผ่ากิเลนมันมาหาเรื่องเจ้า เจ้าแค่ประกาศนามข้าออกไป หลงเสี่ยวฉุน เข้าใจนะ?”

เย่หยวนรู้สึกขำขันขึ้นมาในใจ ยอดฝีมือเผ่ากิเลนนั้นเป็นตัวตนระดับใด? เหตุใดต้องมากลัวเด็กน้อยอย่างเจ้าด้วย?

แต่ท่าทางเหมือนเด็กตัวน้อยไม่รู้จักโลกของนางนี้มันกลับทำให้เย่หยวนไม่อาจหุบยิ้มลงได้ จึงได้พยักหน้ารับออกไป “หลงเสี่ยวฉุน อืม ข้าจำได้แล้ว”

“เสี่ยวฉุน!”

“เสี่ยวฉุน! เจ้าอยู่ไหน?”

ที่ด้านนอกมันเกิดเสียงสั่น ๆ ร่ำร้องเรียกขึ้นมาอย่างกังวล

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้ยินนางก็สะท้านไปทั้งกายก่อนจะรีบวิ่งไปหลบที่โถงหลัง

แต่ก่อนนางจะจากไปนางก็ได้หันหน้ามาหาเย่หยวนพร้อมบอก “อย่าได้บอกว่าข้าอยู่ที่นี่ เข้าใจหรือไม่? ไม่เช่นนั้นข้าจะตีเจ้า!”

หลงเสี่ยวฉุนยกกำปั้นขึ้นมาพร้อมทำท่าข่มขู่ก่อนจะวิ่งหนีหายไปด้านหลัง

จนในที่สุดมันก็ได้มีชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน

เมื่อได้เห็นเย่หยวนชายหนุ่มผู้นั้นจึงรีบยกมือขึ้นคารวะพร้อมถาม “พี่ชายท่านนี้ ท่านเห็นเด็กสาวผู้มีเขางอกบนหัวบ้างหรือไม่?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เห็น นางวิ่งไปหลบที่โถงหลังแล้ว”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ