ชายหนุ่มผู้นั้นที่ได้ยินก็ถึงกับผงะไป ในเวลานี้หลงเสี่ยวฉุนได้วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังพร้อมหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาอาฆาต
“เย่หยวน ข้าไว้ใจเจ้า! แต่เจ้ากลับหักหลังข้า!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้นอย่างโกรธแค้น
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา “สาวน้อย เจ้าหนีออกจากบ้านเช่นนี้ตระกูลของเจ้าคงเป็นห่วงแย่แล้ว เจ้าบอกว่ามาขอบคุณที่ข้าสังหารฉีเจิ้นลงมันย่อมจะหมายความว่าเจ้าเองก็รักพี่ไม่น้อยมิใช่หรือ? เช่นนั้นแล้วเจ้าจะยอมทนเห็นเขาทรมานจากความเป็นห่วงเจ้าเช่นนี้?”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นหยุดเท้าลงทันทีที่ได้ยินพร้อมแสดงสีหน้าท่าทางคิดหนักออกมา
ที่ด้านข้างนั้นหลงเสี่ยวไห่ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะกล่าวถึงเรื่องใดก่อนดี
เขาหันไปมองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “เจ้า…เจ้าสังหารฉีเจิ้นลง? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
เทพถ่องแท้สังหารเทพสวรรค์?
หลงเสี่ยวไห่ย่อมจะรู้สึกว่าเรื่องราวที่ได้ยินนี้มันมิใช่ความจริง
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินนั้นต้องยกมือขึ้นกุมขมับด้วยท่าทางปวดหัวน้อย ๆ “เจ้าพี่โง่! เรื่องราวนี้มันใหญ่โตลือลั่นไปทั่วทั้งเมืองแต่เจ้ากลับไม่รู้ถึงมัน! เขาผู้นี้มีนามว่าเย่หยวนและเขาผู้นี้แหละคือรองมหาปราชญ์ที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแต่งตั้งขึ้นมา! เขานั้นเก่งกาจล้ำฟ้า!”
ตอนนี้ใบหน้าของหลงเสี่ยวไห่นั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึงอย่างไร้อารมณ์อื่นเจือปน สมองของเขาในเวลานี้มันไม่อาจจะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับนี้ได้
“ร-รองมหาปราชญ์?”
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้จะเป็นผู้มีเบื้องหลังใหญ่โตเช่นนั้น
หลงเสี่ยวฉุนนั้นไม่คิดสนใจท่าทางตื่นตะลึงของหลงเสี่ยวไห่มากมายนัก นางหันกลับไปหาเย่หยวนด้วยท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากอีกหน่อย “อ่า…ที่เจ้าว่ามามันก็มีเหตุผล แต่กว่าข้าจะได้ออกมาสู่โลกภายนอกเช่นนี้มันยากเย็นแค่ไหน แต่พี่ข้าคนนี้เขากลับไม่ยอมให้ข้าไปไหนไกล ข้าจึงได้แต่ต้องแอบหนีออกมาเช่นนี้”
หลงเสี่ยวฉุนนางนี้อาศัยอยู่ในโลกเสมือนมาแสนนานและรู้สึกอยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งอย่างบนโลกภายนอก
แต่ระหว่างทางมานั้นหลงเสี่ยวไห่มักจะห้ามมิให้นางไปไหนมาไหน นางจึงรู้สึกอึดอัดมากจนถึงขั้นต้องแอบลอบหนีออกมา
หลงเสี่ยวไห่เองก็เพิ่งจะมาถึงตามหลังหลงเสี่ยวฉุนหลายวันและคิดถึงแต่เรื่องของนางจนไม่อาจจะไปสนใจเรื่องราวที่เย่หยวนฆ่าสังหารฉีเจิ้นใด ๆ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่เจ้านั้นก็แค่กังวลว่าเจ้าจะเป็นอันตรายไป เขาจึงไม่ได้ให้เจ้าเดินทางไปไหนไกลตัวมิใช่หรือ?”
หลงเสี่ยวฉุนคิดไปนิดก่อนจะหยักหน้าออกมา แต่สุดท้ายนางก็ส่ายหัวขึ้นอีกครั้ง “แต่ข้าเก่งนะ!”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะลั่น “คนที่มาล้วนเป็นแขก ในเมื่อพวกเจ้ามากันแล้วก็มานั่งดื่มกันเสียหน่อยสิ”
“เย้ ๆ! ข้าชอบดื่มสุราที่สุดเลย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น
แต่ดื่มแค่ไม่กี่แก้วนางก็แทบจะล้มหัวทิ่มเสียแล้ว
แต่ในเวลานี้ความเมามันยิ่งทำให้ใบหน้าของนางนั้นเดิมขึ้นมาดูน่ารักน่าเอ็นดูกว่าเก่า
หลงเสี่ยวฉุนนั้นได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นออกมาทำให้หลงเสี่ยวไห่ได้เข้าใจถึงตัวตนของเย่หยวนในที่สุด แต่ยิ่งได้ฟังไปเขาก็ยิ่งตื่นตะลึงมากขึ้นเท่านั้น
ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้กลับเก่งกาจเหนือฟ้า!
เขานั้นเคยประลองโอสถกับฉีเจิ้นมาก่อนและย่อมจะรู้ดีถึงความเก่งกาจของฉีเจิ้น
แต่ฉีเจิ้นคนนั้นกลับไม่กล้าแม้แต่จะประลองกับเย่หยวน!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็อยากจะลองฝีมือตนดูและขอท้าประลองเย่หยวน แน่นอนว่าผลลัพธ์มันต้องเป็นไปดั่งคาดไม่มีอะไรผิดแปลก
เท่านี้หลงเสี่ยวไห่ก็ยิ่งชื่นชมเย่หยวนได้สุดใจขึ้น
ในที่สุดเขาก็ได้รู้แล้วว่าเหตุใดฉีเจิ้นนั้นถึงไม่กล้าแม้แต่จะประลอง
หลงเสี่ยวฉุนนั้นมองดูเรื่องราวอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาชื่นชมเย่หยวนอย่างมาก
หลงเสี่ยวไห่นั้นเองก็เป็นคนบ้าการโอสถ พูดคุยเรื่องราวโอสถกับเย่หยวนไปนานถึงสามวันสามคืนเต็มก่อนที่จะพอใจ
“เฮ้อ มันก็ชักช้าปานนี้แล้ว ผู้อาวุโสของข้าคงกังวลมากแล้ว ไม่เช่นนั้นข้าล่ะอยากจะอยู่คุยกับพี่เย่อีกสักสองสามเดือน” หลงเสี่ยวไห่กล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเสียดาย
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่ต้องกังวล ตราบเท่าที่พวกเจ้าคิดอยากคุยก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”
หลงเสี่ยวไห่เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน “พี่เย่พูดจริง?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นรู้สึกถูกชะตากับพวกเจ้าทั้งสองราวกับเราเป็นพี่น้อง พบเจอพวกเจ้ามันก็ดั่งได้พบเจอครอบครัว ข้าย่อมจะไม่ปฏิเสธ”
หลงเสี่ยวฉุนจึงพยักหน้ารับตาม “ใช่ ๆ ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้ามันก็เหมือนได้เห็นพี่ชายไม่มีผิด”
หลังจากคุยกันอีกสักพักคนทั้งสองก็เตรียมตัวจากลา
แต่ก่อนจะจากไปหลงเสี่ยวฉุนก็หันหน้ากลับมาบอกเย่หยวนอีกครั้ง “เจ้าจำไว้นะ หาพวกกิเลนมันมาหาเรื่องรังแกเจ้า จงประกาศชื่อข้าออกไป!”
เย่หยวนแค่ยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่สนใจมากมาย
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...