อาการบวมบนใบหน้าของหลงจ้าวเทียนนั้นมันเพิ่งจะลดลงไปได้ไม่นานแต่ด้วยหมัดนี้ของหลงเสี่ยวฉุนมันก็เริ่มกลับมาบวมขึ้นอีกครั้ง
“ห-หัวหน้า ท่านต่อยผิดคนแล้ว!” หลงจ้าวเทียนได้แต่ร้องขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ซึม
หลงเสี่ยวฉุนหันไปยิ้มมองเขา “ข้าต่อยไม่ผิดหรอก เย่หยวนนี้คือพี่น้องคนสนิทของข้า เจ้าคิดต่อยให้เขาหน้าบวมเป็นหัวหมู สมควรแล้วที่เจ้าจะกลายเป็นหัวหมูไปเอง”
“พ-พี่น้องคนสนิท?” หลงจ้าวเทียนร้องขึ้นอย่างตกตะลึง
เย่หยวนเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดกล่าวใด ๆ เขาจึงได้แต่ถามเรื่องที่สงสัยที่สุดขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าเข้ามาในถ้ำเนตรมังกรด้วยเหตุใด?”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นยกนิ้วขึ้นมาปัดจมูกตนก่อนจะตอบ “หึ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกหลงจื่อเฒ่ามันคงไม่ได้คิดเรื่องดี ๆ ไว้แน่และได้คิดจะไปหาท่านแม่ แต่สุดท้ายข้ากลับไปได้ยินท่านแม่กับลุงฉือพูดถึงเรื่องของเจ้าเสียก่อน เดิมทีข้านั้นคิดจะหยุดยั้งมันแต่กว่าจะทันรู้มันก็สายไปเสียแล้ว ข้าจึงได้ใช้โอกาสที่พวกเขาทั้งหลายไม่ทันรู้ตัวหลบพุ่งเข้ามาภายในนี้ เจ้านั้นถูกส่งลงมาในนี้เพราะข้าพาเจ้ามาแดนมังกรแต่แรก มีหรือที่ข้าจะปล่อยให้แขกที่ข้าชวนมาด้วยตนเองเจอความฉิบหายได้? แน่นอนว่าข้าต้องตามเข้ามาพาตัวเจ้าออกไปแล้ว!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เอ่อขึ้นมาในใจ
ตั้งแต่ที่ตัวเขานั้นได้เห็นหลงเสี่ยวฉุนครั้งแรกเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้ในสายเลือดของตน
บางทีพวกเขาทั้งสองอาจจะเป็นญาติกันจริง ๆ ก็ได้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็ไม่มีใครรู้ว่าบรรพบุรุษของเผ่ามังกรมาจากที่ใด
บางทีเขาอาจจะเกิดในปราการมังกรพิรุณนี้ด้วยซ้ำ?
“เฮ้อ เด็กคนนี้ เจ้าเองก็เอาแต่ใจเสียเหลือเกิน เมื่อเจ้าลงมาเช่นนี้แล้วคนทั้งหลายในโลกภายนอกจะแตกตื่นกันปานใดแล้ว” เย่หยวนถอนหายใจยาว
หลงเสี่ยวฉุนนั้นหัวเราะตอบกลับมา “ใครสนเล่า! ไม่ว่าอย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้ชอบจะอยู่ในปราการมังกรพิรุณอยู่แล้ว ออกมาเช่นนี้ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองกำลังมันดูสนุกกว่าเป็นไหน ๆ เจ้าน่ะเทียนน้อยทำไมเจ้ายังไม่มากราบขอโทษเย่หยวนอีก?”
หลงจ้าวเทียนนั้นมาถึงด้วยความมั่นหน้า คิดแต่ว่าจะทำให้เย่หยวนหน้าบวมเป็นหัวหมูเหมือนที่ตนเป็น
ใครจะไปคาดคิดว่านอกจากจะไม่อาจทำให้หัวเย่หยวนบวมเป็นหมูได้แล้ว มันกลับเป็นหัวเขาเองที่บวมขึ้นอีกครั้ง
สุดท้ายเขาจึงได้แต่ต้องมาก้มหัวขอโทษเย่หยวนอย่างคับแค้นใจ!
แต่ทว่าคำสั่งของหลงเสี่ยวฉุนนั้นมีหรือที่เขาจะกล้าปฏิเสธ?
หลงเสี่ยวฉุนนั้นเป็นคนบ้ากำลัง หลายวันมานี้แน่นอนว่าหลงจ้าวเทียนย่อมจะถูกทรมานอย่างไม่มีหยุดเมื่อหลงเสี่ยวฉุนเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา
“น-นายท่าน เทียนน้อยผิดไปแล้ว!” หลงจ้าวเทียนร้องขึ้นด้วยใบหน้าสุดขื่นขม
เมื่อได้เห็นสภาพนั้นของหลงจ้าวเทียน ตัวหลงซุนก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมา
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดจะไปถือสาเอาความคนเช่นนี้มาแต่แรกแล้ว
“ในเมื่อเจ้าคิดอยากเล่นตำแหน่งหัวหน้านักนะเสี่ยวฉุน วันหน้าพวกเราก็มาผสานสองฐานนี้เข้าด้วยกันเถอะ ข้ายกตำแหน่งหัวหน้าให้เจ้า” เย่หยวนบอก
“ได้ ๆ!” หลงเสี่ยวฉุนยิ้มรับ
…
เวลานี้ฐานค่ายทั้งสองได้เริ่มทำการรวมกันเป็นฐานเดียวโดยมีหลงซุนและหลงจ้าวเทียนจัดการรายละเอียดเล็กน้อยต่าง ๆ แน่นอนว่าสุดท้ายทั้งสองนั้นก็ต้องหาเรื่องทะเลาะกันจนได้
ส่วนทางเย่หยวนนั้นได้พาตัวหลงเสี่ยวฉุนมานั่งคุยกันเป็นการส่วนตัว
หลงเสี่ยวฉุนมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาที่ไม่คิดอยากเชื่อ “มันเหมือนได้เห็นผีจริง ๆ! ในสถานที่เช่นนี้เจ้ากลับไม่ได้บ่มเพาะช้าลง กลับกันกลับบ่มเพาะได้รวดเร็วขึ้นเสียอีก!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปพร้อมใช้บัญญัติเทพแห่งถงเทียนออกมาหมุนกลืนพลังงานคลื่นชั่วร้ายรอบ ๆ กาย
เมื่อหลงเสี่ยวฉุนเห็นภาพนั้นนางถึงกับต้องอ้าปากค้าง “จ-จ-เจ้า…เจ้ากลับใช้พลังงานชั่วร้ายนี้เป็นทรัพยากรบ่มเพาะได้? นี่…นี่มันยิ่งกว่าได้เห็นผีเสียอีก! ตั้งแต่ยังเล็กมาข้าคิดเสมอว่าตนนั้นเป็นตัวประหลาด วันนี้ได้มาเห็นเจ้าแล้วมันทำให้ข้าเป็นคนธรรมดาไปเลยจริง ๆ!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหัวเราะตอบกลับมา “เจ้านั่นเป็นสาวน้อยสุดน่ารักน่าเอ็นดู มีส่วนใดเป็นตัวประหลาดเล่า?”
หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะตอบกลับมา “ข้าแตกต่างจากคนทั้งหลาย”
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความเศร้าเหงาและเจ็บปวดที่แฝงมากับเสียงหัวเราะนั้นอย่างชัดเจน
เย่หยวนนั้นได้ยินมาแสนนานแล้วว่าพวกหลงห่าวทั้งหลายนั้นเรียกหลงเสี่ยวฉุนว่าดาวหายนะ
ดูท่าตัวนางผู้นี้คงมีเรื่องราวที่เศร้าสร้อยปิดซ่อนไว้
เพียงแค่ว่าหากตัวหลงเสี่ยวฉุนไม่คิดอยากเล่า ตัวเย่หยวนก็ไม่คิดจะถามใด ๆ อีก
“หึ ๆ หากเฒ่าหลงจื่อทั้งหลายมันได้มาเห็นสภาพของเจ้าตอนนี้แล้วมันคงต้องโกรธแค้นจนกลับไปเกิดใหม่แน่!” หลงเสี่ยวฉุนพยายามพูดขึ้นมาเปลี่ยนเรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...