“น-นายท่าน เราไปไกลกว่านี้ไม่ไหวแล้ว! ออกจากเขตแดนนี้ไปมันจะเป็นถิ่นของมารนรกระดับเจ็ดแล้วนะท่าน!”
“ใช่แล้วท่านเย่ ท่านนั้นเก่งกาจอาจรอดมือของพวกมารนรกระดับเจ็ดได้จริง แต่…แต่พวกเราทำไม่ได้!”
ระหว่างที่วิ่งตามเย่หยวนมาทั้งหลงซุนและหลงจ้าวเทียนต่างก็ได้แต่ร่ำร้องขึ้นด้วยร่างกายสั่นกลัว
หลงเสี่ยวฉุนจึงพูดขึ้นมาด้วยท่าทางภาคภูมิ “จะกลัวสิ่งใด? ย่าทวดเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว มีหรือที่ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าตายไปง่าย ๆ?”
“พระเจ้าช่วย ย่าทวดข้า พวกมารนรกระดับเจ็ดนั้นมันเก่งกาจเหนือคนทั้งหลายในระดับเดียวกันไปมาก! หากมันแค่พ่นลมหายใจใส่เรา เราก็คงได้ตายลงแล้ว!” หลงซุนร้องกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว
“โฮ่ก!”
เสียงร้องกังวลนั้นยังไม่ทันจางหายก็เกิดเงาร่างหนึ่งสูงราวสี่เมตรปรากฏกายขึ้น
และคลื่นพลังชั่วร้ายที่มันปล่อยออกมาจากร่างกายนั้นมันทำให้คนทั้งหลายต้องหยุดเท้าลงทันที!
“พระเจ้าช่วย พูดยังไม่ทันขาดคำ ทำไมมันถึงได้มาถูกจังหวะเช่นนี้เล่า?”
หลงซุนและหลงจ้าวเทียนนั้นแทบจะฉี่ราดลงตรงนั้น ไม่มีแรงใด ๆ จะวิ่งหนีอีกต่อไป
มารนรกระดับเทพสวรรค์!
เจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้มันมีหัวเป็นดั่งเสือและสีตัวเป็นดั่งม้า ฟันเขี้ยวลากยาวออกมานอกปากทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต้องอกสั่นขวัญหาย
“หึ ในที่สุดก็มีตัวที่พอมือออกมาเสียที ข้าจะขอใช้เจ้านี่แหละ!”
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกพร้อมชักดาบกระดูกออกมาตั้งท่าพร้อมรบ
“ห-หะ? นายท่าน ท่านบ้าไปแล้วหรือ? นี่มันมารนรกระดับเทพสวรรค์เชียวนะ!”
หลงซุนร้องขึ้นมาด้วยเสียงสั่น ๆ
มารนรกเทพสวรรค์นั้นเป็นตัวตนที่เหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ทั่ว ๆ ไปมากมาย กำลังของพวกมันนั้นย่อมจะเหนือล้ำกว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั่วไปทั้งหลาย
แม้พวกเขาทั้งหลายจะรู้ว่าเย่หยวนมีพลังต่อสู้เหนือล้ำฟ้าดิน แต่หากเจอกับมารนรกเทพสวรรค์แล้วมันก็คงยังไม่มากพอ!
“เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อนเลย ข้านั้นได้ปะทะกับพวกมารนรกเทพสวรรค์มาไม่น้อยและเกือบเสียท่าไปหลายที จัดการพวกมันด้วยกำลังของเจ้าตอนนี้คงยังยากเกินไป!” หลงเสี่ยวฉุนพูดขึ้นจากด้านข้าง
นางนั้นโลดแล่นล่ามารนรกอยู่ในถ้ำเนตรมังกรมาแสนนาน หลายปีมานี้นางย่อมจะเคยได้ปะทะกับพวกมารนรกระดับเจ็ดที่เข้ามาหากินในแดนของพวกมารนรกระดับหกบ้าง
ตัวหลงเสี่ยวฉุนนั้นมีกายเนื้อที่สุดแสนแข็งแกร่งทำให้ปกติแล้วนางย่อมจะมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในระดับเดียวกันไปมาก
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวนางก็ยังไม่อาจจะจัดการพวกมันลงได้ แค่นั้นก็แสดงให้เห็นได้แล้วว่าพวกมารนรกเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้เก่งกาจปานใด
“หึ หากมันอ่อนแอก็น่าเบื่อสิ ที่สำคัญสิ่งที่ข้าต้องการที่สุดในการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์นั้นมันก็คือพลังงานชั่วร้ายที่หนาแน่น ตอนนี้พลังงานจากพวกมารนรกระดับเทพถ่องแท้มันไม่พอจะใช้แล้ว”
เย่หยวนกล่าวออกมาพร้อมก้าวเท้าเข้าหามารนรกเทพสวรรค์อย่างไม่เกรงกลัว
“เจ้ามนุษย์จอมโอหัง เจ้าคิดหาเรื่องมารนรกผู้สูงส่งผู้นี้ เทพสวรรค์ผู้นี้จะฉีกเจ้าเป็นชิ้น!” ภายในห้วงความคิดของเย่หยวนมันเกิดเสียงหนึ่งดังส่งเข้ามา
แม้ว่าเหล่ามารนรกทั้งหลายมันจะดุร้ายกระหายเลือด แต่มันก็มิใช่สัตว์ร้ายไร้ความคิด
ตรงกันข้าม พวกมันนั้นมักจะมีความคิดแยกแยะเรื่องราวได้ดี เพียงแค่ว่าภาษาที่ใช้มันแตกต่างทำให้พวกเขาทั้งหลายแทบจะไม่เคยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนคำพูดใด ๆ
เมื่อพวกมันทั้งหลายนี้เห็นมนุษย์หรืออสูรแล้ว สิ่งเดียวที่พวกมันคิดก็คือสังหาร!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หึ ๆ เจ้าโง่ไม่รู้ประมาณตน วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้เองว่าตนเองนั้นต่ำต้อยปานใด!”
“หึ แค่มนุษย์กลับกล้าทำปากดีไม่กลัวฟ้าดิน! สักวันหนึ่งพวกเราจะออกไปจากที่แห่งนี้และเข้ายึดครองมหาพิภพถงเทียนไว้ให้จงได้! แต่เวลานี้ เจ้าจงมาเป็นอาหารของเทพสวรรค์ผู้นี้เสียเถอะ! คมนรก!”
เจ้ามารนรกนั้นยกกรงเล็บฟาดออกมาด้านหน้าส่งคลื่นพลังอันเฉียบคมหลายเส้นออกมา
เจ้าคลื่นพลังทั้งหลายนี้มันเฉียบคมจนแทบจะตัดขาดมิติออกจากกัน
เมื่อได้เห็นคลื่นพลังอันดุดันนั้นทั้งหลงซุนและหลงจ้าวเทียนต่างก็หน้าซีดขาว ตอนนี้แม้แต่ตัวหลงเสี่ยวฉุนยังมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ดาบสลักกลวง!”
ด้วยกำลังของเย่หยวนในเวลานี้แล้วการจะปล่อยดาบสลักกลวงออกมานั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องใหญ่ใด ๆ อีก
คลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงพุ่งทะยานออกไปรับกับคมนรกนั้น
เจ้ามารนรกต้องเบิกตากว้างมองดู ดูท่าแล้วมันเองก็คงไม่คิดว่าเย่หยวนจะมีกำลังต่อต้านได้ถึงปานนี้
คมนรกของมันนั้นต่อให้จะเป็นมนุษย์เทพสวรรค์มา มันก็คงไม่อาจแก้ไขลงได้ง่ายดายปานนี้ แต่นี่กลับถูกเทพถ่องแท้ผู้หนึ่งแก้ลงได้
“หึ ๆ มันก็เท่านี้! ดูนี่เถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...