เมื่อสัมผัสถึงแรงระเบิดที่ออกมาจากร่างนี้ตัวเย่หยวนก็ต้องอมยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ
ทุกขจุติระดับเจ็ดนี้มันเป็นฝันร้ายกับผู้บ่มเพาะร่างกายจริงๆ
หากไม่มีเจตจำนงที่แน่วแน่แล้ว คนทั้งหลายคงไม่อาจทนรอดมาได้
เพียงแค่ว่าเรื่องนี้มันเป็นจุดแข็งของเย่หยวน
กระบวนการนี้มันสุดแสนเจ็บปวด แต่หากผ่านไปได้มันก็จะมีรางวัลอันหอมหวานรออยู่
ด้วยกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนี้ พลังกายและสายเลือดของเขามันย่อมจะพุ่งทะยานสูงล้ำฟ้าดินขึ้นไปอีก
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้เลยว่าต่อให้จะไม่ใช้ปราณเทวะใดๆ แต่เขาก็พอจะจัดการพวกมารนรกเทพสวรรค์ทั้งหลายลงได้ด้วยหมัดเดียว
“หึๆ บรรลุครั้งนี้มันเหนือคาดเสียจริงๆ! ปราณ กาย จิตสามเส้นทางจุติพร้อมๆ กันทำให้พลังฝีมือข้าในเวลานี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา
“ปราณ กาย จิตผสานเป็นหนึ่งมันช่างน่ากลัวเสียจริงๆ! น่าเสียดายที่นอกจากเจ้าแล้วมันไม่มีใครในมหาพิภพถงเทียนทำได้เช่นนี้!” หวู่เฉินเองก็พูดขึ้นตามด้วยความชื่นชม
เย่หยวนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มก่อนจะสัมผัสได้ถึงตรามังกรที่หว่างคิ้วจนทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแน่น
“ดูท่า…ผู้อาวุโสท่านนั้นจะลึกล้ำเสียจริงๆ ถึงขั้นทิ้งตราเช่นนี้ไว้ได้โดยข้าไม่รู้ตัว! แต่ว่า…เจ้าตรานี้มันเหมือนเป็นดั่งไข่มีพลังมากล้นแฝงอยู่ภายใน รอให้ข้าฟูมฟักมัน”
เรื่องของตรานี้เย่หยวนรู้สึกได้ทันทีว่ามันเป็นฝีมือของไป่เชิน
การที่จะฝังตราเช่นนี้ลงบนร่างของเขาได้โดยเขาไม่ทันรู้ตัวนี้ นอกจากไป่เชินผู้นั้นแล้วในที่นี้มันจะยังมีใครทำได้?
ที่สำคัญเวลานี้ตัวเขายังไม่อาจสัมผัสถึงความอันตรายใดๆ จากตรานี้ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่กังวลกับมันให้มากความ
“เย่หยวน!
“ท่านเย่!”
…
จู่ๆ มันก็เกิดเสียงร่ำร้องขึ้นมาจากที่ห่างไกล แน่นอนว่ามันย่อมเป็นพวกหลงเสี่ยวฉุนทั้งหลายแน่แล้ว
“ข้านึกแล้วเชียวว่าเจ้าต้องรอด!”
หลงเสี่ยวฉุนมองดูภาพตรงหน้าอย่างสบายใจ แต่จู่ๆ นางก็ต้องเบิกตากว้างออกมา “เจ้า…เจ้าบรรลุแล้ว?”
เย่หยวนพยักหน้า “หึ ผสานปราณ กาย จิตสามเส้นทางเข้าด้วยกันนี้มันทำให้ข้าได้เจอทุกขจุติอย่างไม่คาดคิด เดิมทีเจ้าผลึกมารดำที่เก็บมาไว้มันคงไม่พอ แต่ใครจะไปคิดว่าเหล่ามารนรกเทพสวรรค์ทั้งหลายมันจะเอาพลังมาวางให้ถึงหน้าบ้านเช่นนี้ ช่วยแก้ปัญหาให้ข้าได้มากทีเดียว”
เมื่อทุกผู้คนได้ยินพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้าง
การคิดกับมารนรกเทพสวรรค์เป็นดั่งสิ่งของเช่นนี้ มันคงมีแต่ท่านเย่คนนี้เท่านั้นที่ทำได้
ทางหลงเสี่ยวฉุนจึงอมยิ้มออกมาด้วยสีหน้าชั่วร้าย ก่อนจะใช้ทีเผลอต่อยหมัดเข้ามาหาเย่หยวน
คลื่นพลังที่รุนแรงนี้มันหนักหน่วงจนมิติแตกร้าว
ทางเย่หยวนที่เห็นก็ต่อยหมัดสวนออกมา
ปัง!
ร่างของหลงเสี่ยวฉุนลอยปลิวกลับออกไปหลายก้าวกว่าที่จะลุกขึ้นยืนกลับมาได้
ส่วนเย่หยวนยังยืนมั่นอยู่กับที่
ได้เห็นภาพนี้เหล่าหลงซุนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างอีกครั้ง
พวกเขานั้นรู้ดีว่าหลงเสี่ยวฉุนนี้เก่งกาจปานใด นางนั้นเก่งพอที่จะปะทะกับมารนรกเทพสวรรค์หนึ่งดาวซึ่งๆ หน้าได้
แต่สาวน้อยผู้เก่งกาจคนนี้กลับถูกเย่หยวนต่อยจนลอยลิ่ว!
ที่สำคัญไปกว่านั้นดูท่าแล้วเย่หยวนจะยังไม่ได้ออกแรงต่อยเสียด้วยซ้ำไป
เย่หยวนนั้นเพิ่งบรรลุขึ้นมาหมาดๆ ย่อมจะยังมีอาณาจักรที่ไม่หนักแน่นมากมาย แต่เขากลับเก่งกาจได้ถึงปานนี้!
“เก่งเสียจริงๆ! สมชื่อเป็นกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด! หากเจ้าลงมือจริงๆ แล้วข้าว่าเจ้าคงมีพลังไม่แพ้เทพสวรรค์สองดาวแน่!” หลงเสี่ยวฉุนบอก
เย่หยวนจึงตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ “หากมันเป็นแค่เทพสวรรค์สองดาวข้าคงชนะได้ไม่ยากนัก”
นี่คือความเก่งกาจของกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด!
การบรรลุขึ้นระดับเจ็ดมานี้ มันได้ช่วยทำให้เขามีฝีมือเพิ่มขึ้นไปอีกไม่รู้กี่พันเท่า
รวมกับวรยุทธบ่มเพาะที่เหนือล้ำและวรยุทธต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม การจะก้าวข้ามดาวไปต่อสู้มันจึงมิใช่เรื่องยากเย็นเลย
“ตัวประหลาด!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอก
นางนั้นถูกยกย่องเป็นยอดอัจฉริยะแห่งเผ่ามังกรเสมอมา
แต่ต่อหน้าเย่หยวนแล้วนางกลับไม่อาจจะหาสิ่งที่ตนเหนือกว่าได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...