จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2163

“เอาล่ะ เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลาย จะมีความขัดแย้งใดกันมาก็ขอให้ไปตัดสินกันที่ลานศึกหมอกเถอะ”

ในเวลานี้ผู้อาวุโสพิทักษ์อ่าวฉีที่นำคนทั้งหลายมาก็หันมาพูดว่า

คนทั้งหลายในที่นี้ต่างเป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์มีตัวตนสูงล้ำ อนาคตอาจก้าวขึ้นถึงความเป็นมังกรสวรรค์ได้

แม้ว่าเขาเองก็จะเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่อาจจะไปพูดกล่าวดุด่าใดๆ คนทั้งหลายนี้ได้แม้สักคำ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นครั้งนี้เขาก็จำใจต้องพูดขัดขึ้นมาเพราะหากปล่อยไว้มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่

“หึ!” อ่าวหยูพ่นลมออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะเงียบปากลง

อ่าวฉีจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เอาล่ะ มันใกล้ถึงเวลาเต็มที เราควรเข้าไปในเขามังกรสวรรค์ได้แล้ว!”

จากนั้นเขาก็สะบัดแขนออกข้างหนึ่งดึงร่างของคนทั้งหลายเข้าไปด้วยพลังที่ไม่อาจต้านก่อนจะบินลอยเข้าไปในเขามังกรสวรรค์นั้น

เย่หยวนนั้นรู้สึกเหมือนภาพตรงหน้าดับมืดไปเสี้ยววินาทีก่อนจะพบว่าตัวเองนั้นยืนอยู่บนลานกว้างหนึ่ง

ด้านบนลานกว้างนี้มันมีหมอกหนาบังไว้ทำให้ไม่อาจเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยู่เบื้องบน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าแม้เวลานี้พวกเขาจะเข้ามาในเขตเขามังกรสวรรค์แล้วจริง แต่มันก็คงเป็นแค่ส่วนตีนเขาเท่านั้น

เมื่อเข้ามาถึงภายในนี้เย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณอันหนักหน่วงที่ไม่ด้อยไปกว่าที่เขาแห่งถงเทียน

แน่นอนว่าสถานที่เช่นนี้ย่อมจะเป็นสวรรค์แห่งการบ่มเพาะ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดแม้แต่อ่าวเจิ้นคนนั้นเองก็ยังอยากจะเข้ามาอาศัยอยู่ภายใน

ในเวลานี้มันปรากฏร่างของเด็กหนุ่มมากมายยืนอยู่บนลานกว้างพร้อมๆ กับตัวเย่หยวน คนทั้งหลายนี้แต่ละคนเองก็ล้วนมีตรามังกรสวรรค์อยู่บนหว่างคิ้วสิ้น ดูท่าแล้วคงเป็นทายาทมังกรสวรรค์กันทุกคน

“คนจากปราการมังกรม่วงนี่นา หึๆ ครั้งก่อนปราการมังกรม่วงเองก็ได้แค่ที่โหล่ คนที่มาครั้งนี้เองก็ดูไม่เท่าไหร่!”

“พวกอ่อนแอมันก็เป็นพวกอ่อนแออยู่วันยันค่ำ ต่อให้จะเป็นทายาทมังกรสวรรค์เองมันก็มีพวกขยะเปียกอยู่เหมือนกันแหละ!”

“ข้าว่านะพวกปราการมังกรม่วงทั้งหลายควรจะถูกตัดสิทธิไปเสียด้วยซ้ำ! ครั้งนี้พวกมันส่งมาแม้แต่เทพสวรรค์หนึ่งดาว ดูท่าทางปราการมังกรม่วงมันคงไม่มียอดฝีมือแล้วจริงๆ”

เย่หยวนและพวกยังมาถึงไม่ทันได้พักหายใจพวกเขาทั้งหลายก็ต้องได้ยินเสียงร้องดูถูกลอยมาตามลมเสียก่อน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนี้ต่างจะดูถูกเหยียดหยามปราการมังกรม่วงไม่น้อย แต่ละคนต่างแสดงท่าทีออกมาอย่างไม่คิดปิดปังแม้แต่น้อย

อ่าวฉีเองก็ได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ อยู่ตรงนั้น คนทั้งหลายนี้เป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะมีตำแหน่งสูงส่งจนเขาไม่อาจเถียงใดๆ กลับไปได้

คนของปราการมังกรม่วงทั้งหลายนั้นรวมไปถึงตัวอ่าวหยูต่างล้วนแสดงสีหน้าเหยเกออกมา

“อ่าวฉี ครั้งนี้ก็เป็นเจ้านำมาอีกแล้วหรือ? ครั้งก่อนเองปราการมังกรม่วงเจ้าก็แทบจะถูกกวาดล้างสิ้น เจ้าเด็กที่รอดกลับไปได้นั้นก็ถูกถอนตรามังกรสวรรค์ไปเสียด้วย เจ้าเด็กคนนั้นมันตายไปหรือยังเล่า?” ไม่ไกลออกไปก็มีเสียงของจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกผู้หนึ่งกล่าวดังขึ้น

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ต้องหันกลับไปมองอย่างไม่พอใจ “หลงจื่อเฟิง พวกเจ้าเองก็ได้แค่ที่ห้า มีหน้ามาทำตัวอวดดีเช่นนี้หรือ?”

หลงจื่อเฟิงหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ต่อหน้าปราการมังกรเทวะนั้นข้าย่อมจะไม่กล้า แต่ต่อหน้าปราการมังกรม่วงเจ้านั้นจักรพรรดิผู้นี้ย่อมจะกล่าวว่าได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือศึกทายาทมังกรครานี้ปราการมังกรเมฆาเรามีหลงฉีที่มีโอกาสจะคว้าอันดับหนึ่งในสามมาได้!”

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ยขึ้น “หนึ่งในสาม เจ้าก็ช่างกล้าพูด! แม้จะไม่นับคนจากปราการมังกรเทวะแต่ทางปราการมังกรดำหรือปราการมังกรมงคลเองก็เก่งกาจมีพลังสายเลือดเข้มข้น แค่คนของเจ้านี้ก็จะขึ้นไปถึงหนึ่งในสามได้?”

หลงจื่อเฟิงยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในมาได้ถึงสองอย่างและที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังสามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้อีกด้วย! เจ้าคิดว่าเขามีกำลังพอจะติดหนึ่งในสามหรือไม่เล่า?”

ตรามังกรสวรรค์นั้นย่อมจะมิใช่แค่ตราแสดงตำแหน่ง

ตรานี้มันคือสิ่งที่ยอดฝีมือในเขามังกรสวรรค์มอบให้แก่มังกรรุ่นหลัง หากมันถูกปลุกตื่นขึ้นมาได้คนผู้ที่สามารถปลุกมันนั้นก็จะได้รับพลังมหาศาล ช่วยพัฒนาทักษะเทวะภายในไปอีกหลายขั้น เพิ่มพลังให้อย่างไม่อาจคาดวัดได้

แน่นอนว่าหากคิดอยากปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมานี้มันย่อมจะต้องใช้ทั้งโชคและพรสวรรค์อย่างมากเกินจินตนาการ

ในหมู่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้มันมีคนที่สามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้แค่ไม่กี่คน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรนั้นมันปลุกขึ้นได้ยากกว่าของเผ่ากิเลนมาก ทั้งยังมีพลังที่รุนแรงเหนือล้ำกว่ามากด้วยเช่นกัน.ไอรีนโนเวล.

หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในขึ้นมาได้ถึงสองอย่างย่อมจะต้องมีพลังฝีมือเหนือล้ำอย่างไม่อาจคาดเดา!

ได้ยินคำพูดอวดนี้ของหลงจื่อเฟิงสีหน้าของเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายเองมันก็เปลี่ยนแปลงไป

เพราะหากมันเป็นจริงดั่งที่หลงจื่อเฟิงว่าแล้ว เขาผู้นั้นก็ย่อมจะเก่งกาจพอได้รับหนึ่งในสามอันดับแรกไป!

“มากันครบแล้วสินะ” ในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงแห้งๆ เสียงหนึ่งดังเข้าหูทุกผู้คน

จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายแก่ท่าทางราวนักปราชญ์ค่อยๆ บินร่อนลงมายังกลางลาน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่นำทางมานั้นต่างก้มคุกเข่าลงทันทีที่ได้เห็นชายแก่ผู้นี้

“ขอคารวะท่านเฉินซิง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ