ลมพัดโชยสายน้ำเย็นไหล แต่นักรบผู้กล้าหาญนั้นไม่ย้อนกลับมา!
เรื่องราวที่เย่หยวนบุกเข้าไปน้ำนิลเพลิงด้วยตัวเองเพื่อช่วยผู้เป็นที่รักนั้นมันแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ายอดฝีมือระดับสัตว์ประหลาดอย่างเย่หยวนนั้นย่อมจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั้งหลายที่เข้าไปในถ้ำนิลเพลิงด้วยกันมาก เพราะฉะนั้นเมื่อออกมาได้ต่างคนต่างจึงได้สืบสาวถึงที่มาของเย่หยวนคนนี้
และในโลกใบนี้ความลับมันย่อมไม่มีอยู่จริง ทั้งเย่หยวนยังได้บอกประกาศตัวตนไปตั้งแต่อยู่ในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ลั่วเฟิง เรื่องราวมันยิ่งจะไม่เป็นความลับใดๆ อีก
เป็นเวลานั้นเองที่ผู้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึงเพราะแท้จริงแล้วเขาคนนี้คือรองมหาปราชญ์ในข่าวลือเมื่อหลายปีก่อนผู้นั้น!
แต่ที่เหนือล้ำกว่าความตกตะลึงมันก็คือความสงสาร
ยอดอัจฉริยะในระดับนี้กลับต้องมาตายลงในถ้ำนิลเพลิง มันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายล้ำ!
เพราะหลังจากจบเรื่องราวแล้วถ้ำนิลเพลิงนั้นมันก็ได้พังทลายลง ทางเข้าถ้ำจางหายไปอย่างไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย มิติย้อนกลับไปอย่างที่มันควรเป็น ทำให้แม่น้ำโกรธาต่ำไหลลงมาอีกครั้ง
ทุกผู้คนต่างเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนคงได้ตายลงแล้ว
สิ่งเดียวที่ยังเป็นปริศนาก็คือก่อนที่ทางเข้านั้นจะปิดตายลงมันได้มีแสงสีทองพุ่งทะยานออกมาจากภายในถ้ำและจางหายไปบนท้องฟ้า
ในตอนแรกๆ คนทั้งหลายยังคิดเดาไปว่าเจ้าสิ่งนั้นอาจจะเป็นเย่หยวนที่หนีออกมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดเช่นนั้นมันก็จางหายไปสิ้น ไม่มีใครได้พบเจอเย่หยวนทำให้ความสงสัยนั้นหายไปจากใจคน
เพราะว่าสาวรับใช้ของรองมหาปราชญ์นางนั้นยังคงอยู่ที่วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ลั่วเฟิง
ตั้งแต่นั้นมา เย่หยวนก็ไม่ได้ย้อนกลับไปหาลู่เอ๋ออีกเลย
เวลานี้ ณ ยอดตะวันลับ ลู่เอ๋อนั้นได้แต่ต้องนั่งร้องไห้ “นายน้อย พวกเขาต่างกล่าวว่าท่านตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อ! ต่อให้จะต้องพลิกแผ่นดินนี้ข้าก็จะหาท่านให้เจอ”
ในพริบตาเดียวเวลากว่าสามปีก็ได้ผ่านไป
ไกลออกไปจางอาณาจักรเมฆานทีมันมีเขาลูกหนึ่งนามว่าเขาผ่อนสงบ
ดวงตาวันที่ค่อยๆ สาดแสงขึ้นมาจากทิศตะวันออกนั้นเคลื่อนผ่านเหนือหัวผู้คนส่องให้เห็นถึงหมู่บ้านน้อยๆ กลางเขาแห่งนี้
ภายในหมู่บ้านนั้นมันมีควันของการหุงหาอาหารลอยคลุ้ง เป็นสัญญาณบอกผู้คนว่าได้เวลาลืมตาตื่น
เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มิใช่นักยุทธใดๆ เป็นเพียงแค่ชาวบ้านคนธรรมดา
หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มร่างกำยำที่ร้องกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้างั่ง ไปผ่าฟืนเสียหน่อยไป! หมู่บ้านตระกูลเฉินเราไม่เลี้ยงดูคนที่ไม่ทำการทำงานหรอกนะ!”
ที่ยืนอยู่ตรงข้ามชายหนุ่มร่างกำยำนั้นมันคือชายหนุ่มในชุดบาง บนใบหน้าของเขานั้นไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
เจ้างั่งเองก็ไม่กล่าวตอบอะไร เดินเข้าไปช่วยผ่าฟืนตามที่ได้รับสั่ง
ปัก!
ปัก!
ปัก!
ท่อนไม้โอ๊กขาวท่อนแล้วท่อนเล่าถูกชายหนุ่มคนนี้ผ่าลง
ชายหนุ่มร่างกำยำนั้นได้แต่ต้องเบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงง
โอ๊กขาวนั้นติดไฟไหม้ง่ายทั้งยังให้ความร้อนสูงจึงเป็นแหล่งเชื้อเพลิงชั้นดีของผู้คนในหมู่บ้าน
แต่มันนั้นขึ้นชื่อเรื่องความแข็งที่แม้แต่นายพรานที่เก่งกาจที่สุดในหมู่บ้านยังต้องจามขวานสามถึงสี่ครั้งกว่าจะผ่ามันลงได้
การผ่าฟืนนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นงานที่หนักหนาสาหัสมาก
การที่ชายหนุ่มร่างกำยำนั้นสั่งให้ชายหนุ่มร่างผอมบางไปผ่าฟืนมันเป็นเพราะที่จะกลั่นแกล้งอีกฝ่าย
แต่อีกฝ่ายนั้นกลับสับมันลงได้ด้วยการจามขวานแค่ครั้งเดียว ที่สำคัญยังผ่าลงได้อย่างเรียบสวยราวกับว่าใช้เลื่อยยนต์ตัดไม่มีเสี้ยนไม้ใดๆ กระเด็นออกมาทั้งสิ้น
แปลก!
แปลกมาก!
ไม่ว่าจะดูอย่างไรเจ้าเด็กคนนี้มันก็มีสภาพกึ่งเป็นกึ่งตาย มีหรือที่จะแข็งแรงได้ปานนั้น?
เวลานั้นเองที่มีเด็กสาวอีกคนวิ่งมาดึงตัวเจ้างั่งไว้และหันมาร้องด่าชายหนุ่มร่างกำยำ “อายอง เจ้าแกล้งอาหนิงอีกแล้ว!”
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นได้เห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเขาก็เริ่มแดงขึ้นมาด้วยความอิจฉา
เด็กสาวผู้นี้มีนามว่าอาซิ่วเป็นเด็กสาวที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน ส่วนตัวอายองนั้นเป็นนายพรานรุ่นใหม่ที่มีอนาคตสดใสที่สุดของหมู่บ้านตระกูลเฉิน!
ตัวเขาและอาซิ่วนั้นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ทั้งสองต่างทั้งยังหนุ่มสาวและใสซื่อ เป็นคู่กิ่งทองใบหยกในสายตาของทุกผู้คนในหมู่บ้าน
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองเติบโตขึ้นมาถึงช่วงวัยนี้ทางอายองก็เริ่มตกหลุมรักอาซิ่วอย่างไม่อาจห้ามใจและคิดกับนางว่าเป็นของตายที่ต้องได้คู่กันในที่สุด
แต่แม้จะมีความคิดที่ไม่ดีงามมากมายเช่นนั้น อายองก็เป็นคนที่ขยันขันแข็ง มีความสามารถโดดเด่นที่สุดในหมูนายพรานหนุ่มด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...