“นายน้อย? แม่นางท่านจำคนผิดหรือไม่?” เย่หยวนอดไม่ได้ที่จะถามกลับมา
แต่คำพูดนี้มันกลับทำให้สีหน้าของลู่เอ๋อซีดขาวลงพร้อมร่างที่สั่นเทา “นายน้อย นี่ลู่เอ๋อเอง ท่าน… ท่านลืมลู่เอ๋อไปแล้วหรือ?”
เวลากว่าหกสิบปีมานี้ลู่เอ๋อได้เดินทางไปเกือบทั่วทั้งแดนกลางจนสุดท้ายก็ได้มาเจอกับเย่หยวนเข้าในวันนี้
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าแม้ได้เจอหน้ากัน เย่หยวนจะกลับไม่อาจจดจำนางได้อีกแล้ว!
มันต้องเป็นเรื่องราวที่สั่นสะท้านหัวใจนางปานใด?
ลู่เอ๋อนั้นแทบสิ้นสติลงเมื่อได้ยินคำของเย่หยวน
แต่ทางเย่หยวนก็ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น พยายามที่จะนึกจดจำใบหน้านี้
เพราะแม้เขาจะไม่อาจจดจำเรื่องราวใดๆ ได้แต่เขากลับรู้สึกว่าในหน้าของนางตรงหน้านี้มันดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน
“แม่นางรู้จักข้าหรือ? ขอโทษด้วยจริงๆ แต่ข้านั้นเสียความทรงจำไปจึงไม่อาจจะจดจำเรื่องราวใดๆ ก่อนหน้าได้เลย” เย่หยวนได้แต่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
แต่ทางอาซิ่วนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นราวกับได้พบศัตรูคู่แค้น
หรือว่าแม่นางผู้นี้จะเป็นคนรักของอาหนิง?
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว… ตัวนางจะมีหวังใดๆ ไปสู้ได้?
ต่อหน้ารู้ร่างหน้าตาของลู่เอ๋อนี้ตัวอาซิ่วไม่มีความมั่นใจใดๆ ในตัวเองแม้แต่น้อย
“นั่นสินะ! หากมันไม่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมีหรือที่นายน้อยจะไม่กลับไปหาข้า?” ลู่เอ๋อพูดปลอบตัวเองด้วยรอยยิ้มแสนขมขื่น
“เย่หยวน เจ้าบ้านี่! ข้าอุตส่าห์ฝากให้เจ้าดูแลศิษย์น้องเมิ่งลี่! แต่นอกจากเจ้าจะไม่ได้พานางออกมาแล้วเจ้ากลับลืมเลือนแม้แต่ตัวตนของเจ้าเองไปหรือ? แค่นึกย้อนถึงวันนั้นที่เจ้ามาเรียกศิษย์น้องเมิ่งลี่ว่าลี่เอ๋อๆ ข้าก็ชักขัดใจขึ้นมาแล้ว วันนี้เจ้ากลับจะบอกว่าตนเองนั้นลืมเลือนนางไปสิ้นหรือ?” ชายที่มากับลู่เอ๋อระเบิดเสียงตวาดลั่น
แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นหลินฉางชิงแล้ว!
แต่หลินฉางชิงคนนี้เองก็มีความรักต่อเยวี่ยเมิ่งลี่ที่ลึกล้ำมาก
เวลาที่ผ่านมานี้คนทั้งหลายย่อมไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะยังมีชีวิตรอด
แต่หลินฉางชิงนั้นกลับไม่ยอมแพ้คิดตามหาเย่หยวนเพื่อสอบถามข่าวของเยวี่ยเมิ่งลี่
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจเดินทางออกมากับลู่เอ๋อไปทั่วแดนกว่าหกสิบปีเพื่อหาข่าวของเย่หยวน
สิ่งเดียวที่พวกเขาทั้งสองพอจะตั้งความหวังได้คือเรื่องของแสงสีทองที่บินหายไปทางตะวันออกนั้น
เพราะฉะนั้นคนทั้งสองจึงได้ออกเดินทางตามแม่น้ำโกรธาต่ำไปทางตะวันออก ค้นหาแต่ละเมืองๆ ไปเรื่อย
ในระหว่างการเดินทางนี้คนทั้งสองย่อมจะได้ยินข่าวที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่สุดท้ายมันก็มีแต่ความผิดหวังรอพวกเขาอยู่
เมื่อความหวังใดๆ มันเริ่มจางหายลงทางหลินฉางชิงก็ได้แต่ต้องเดินทางไปอย่างไม่คิดหวังว่าจะเจอกันอีก
มีเพียงความดื้อรั้นของลู่เอ๋อเท่านั้นที่ทำให้การเดินทางหกสิบปีนี้ยังคงดำเนินต่อมาได้
และก็อย่างที่คนโบราณว่า ‘สวรรค์มีตา’ แม้จะต้องเจอความยากลำบากและผิดหวังไปมากแต่สุดท้ายวันนี้พวกเขาก็ได้มาพบเจอเย่หยวน
แต่สุดท้ายมันก็กลับกลายมาเป็นสภาพเช่นนี้
เมื่อหลินฉางชิงได้เห็นสภาพของเย่หยวน ความคับแค้นใจในเวลาหลายปีนี้มันจึงได้ปะทุขึ้น
เมื่อเย่หยวนได้ยินคำว่า ‘เมิ่งลี่’ สองคำนั้น ดวงใจของเขากลับปวดร้าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“นี่! พวกเจ้าเป็นใคร! กล้ามาตวาดใส่อาหนิงกลางหมู่บ้านตระกูลเฉินเรา เจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่คือที่ใด?” อาซิ่วรีบเดินเข้ามาขวางหน้าเย่หยวนไว้
หลายปีมานี้คนที่มายังหมู่บ้านตระกูลเฉินย่อมต้องแสดงท่าทีนอบน้อม ไม่มีใครกล้าทำตัวโอหังเช่นนี้ต่อหน้าเย่หยวนทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นคนหมู่บ้านตระกูลเฉินเอง รวมไปถึงตัวอาซิ่วนั้นจึงได้เริ่มเชื่อว่าตนเองอยู่เหนือผู้คนไปด้วย
เมื่อได้เห็นหลินฉางชิงตวาดลั่นออกมาเช่นนั้นอาซิ่วจึงอดไม่ได้ที่จะเข้ามาด่าว่า
“ไสหัวไป! เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเจ้า!”
หลินฉางชิงนั้นสะบัดฝ่ามือผลักร่างของอาซิ่วลอยลิ่วไปไกล
แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้เห็นคนโหดเหี้ยมใดๆ แม้ว่าฝ่ามือนี้มันจะทำร้ายอาซิ่ว แต่ก็มิใช่บาดแผลที่สาหัสใดๆ
“อาซิ่ว!” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าหลินฉางชิงอย่างดุดัน
หลินฉางชิงเองก็จ้องหน้าเย่หยวนกลับพร้อมกล่าวบอก “ในเมื่อเจ้าจำไม่ได้ ข้าก็จะกระทืบเจ้าจนกว่าเจ้าจะจำได้เอง!”
ปัง!
คลื่นพลังรุนแรงจากร่างของเขาปะทุออกจนทำลายเรือนรับรองนี้กระจุยเป็นทั่วทิศ
เรื่องราวนี้ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายต่างต้องหันมาสนใจมองดูเรื่องราวตามๆ กัน
“นี่มัน… เป็นคลื่นพลังที่รุนแรงอะไรปานนี้! เจ้าหนุ่มคนนี้มีพลังระดับใดกัน?”
“หรือว่า… อาณาจักรเทพถ่องแท้?”
“ฉิบหายแล้ว! กำลังของอาหนิงนั้นมันพอที่จะจัดการนภาสวรรค์แต่เทพถ่องแท้คงเกินกำลังไปมาก!”
…
ชาวบ้านทั้งหลายต่างไม่ใช่คนโง่บ้านนอกทั่วๆ ไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...