จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2209

ปัง ปัง ปัง…

คลื่นพลังรุนแรงล้ำนั้นแผ่กระจายไปทั่วทั้งเขา

ยิ่งหลินฉางชิงสู้ไปมากเท่าใด เขาก็ยิ่งตกตะลึงขึ้นมากเท่านั้น!

เพราะเวลานี้เขาได้ใช้พลังจนถึงขีดสุดของอาณาจักรเทพถ่องแท้แล้วแต่ค่ายกลของเย่หยวนนั้นก็ยังคงรับการโจมตีของเขาไว้ได้สิ้น!

ทำไมเจ้าหมอนี่มันจึงยังแข็งแกร่งได้ปานนี้?

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะกันพลังโจมตีของข้าได้สิ้น!”

หลินฉางชิงนั้นยิ่งสู้ไปก็ยิ่งเครื่องร้อนขึ้นจนเผลอปล่อยพลังออกมามากขึ้นกว่าเก่าเรื่อยๆ จนก้าวขึ้นถึงพลังระดับเทพสวรรค์ในที่สุด!

เมื่อคลื่นพลังระดับเทพสวรรค์ปรากฏแล้ว ฟ้าดินมันย่อมจะเปลี่ยนสีไปอย่างแท้จริง

ในป่ารกร้างนี้มันไม่มีตัวตนใดที่สูงส่งถึงปานนั้น

เวลานี้เหล่าสัตว์ร้ายทั้งหลายบนเขาผ่อนสงบต่างวิ่งหนีหาที่หลบกันอย่างไม่คิดชีวิต

ทางเย่หยวนเอง ยิ่งได้รับการโจมตีไปมากเท่าใด ฝ่ามือของเขาก็ยิ่งวาดค่ายกลที่ลึกล้ำมากขึ้นเท่านั้น

ในเวลาหกสิบปีมานี้เย่หยวนได้ศึกษาผสานเต๋าค่ายกลเข้ากับการหลอมโอสถ จนแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าตนเองอยู่ในระดับใดกันแน่

แต่เรื่องความเก่งกาจนั้นไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย!

ด้วยเวลากว่าหกสิบปีมานี้เย่หยวนย่อมจะได้ผลึกปราณเทวะไว้ไม่น้อย ทำให้เขาสามารถเขียนค่ายกลลงได้อย่างไม่มีคำว่าหยุดพัก

ปัง ปัง ปัง…

เสียงระเบิดดังสนั่นยังคงดังต่อไป

แต่พลังของค่ายกลที่เย่หยวนเขียนนั้นมันกลับรุนแรงหนักหน่วงมากขึ้นกว่าเก่าอย่างไม่อาจเชื่อป้องกันการโจมตีของหลินฉางชิงไว้สิ้น

ชาวบ้านทั้งหลายที่ได้เห็นต่างต้องอ้าปากค้าง เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เห็นว่าอาหนิงนั้นเก่งกาจได้ปานใด!

“ที่แท้นี่คือฝีมือของอาหนิง!”

“พระเจ้าช่วย หมู่บ้านเราไปเจอจอมเทพโอสถเจ็ดดาวเข้าจริงๆ หรือนี่!”

เฉินหยานนั้นได้แต่ต้องนั่งนิ่ง “ข้าเกรงว่า… อาหนิงคงมิใช่แค่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ! เฮ้อ สุดท้ายวันนี้มันก็มาถึงสินะ!”

พูดมาถึงตรงนี้ตัวเฉินหยานก็ได้แต่ถอนหายใจ

เพราะเขานั้นเข้าใจดีว่าอีกไม่นานเย่หยวนคงต้องจากพวกเขาทั้งหลายไปแล้ว!

เวลาหกสิบปีมานี้เย่หยวนได้สร้างความเจริญให้แก่หมู่บ้านตระกูลเฉินอย่างไม่อาจนับ ทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นแทบได้เกิดใหม่

เวลานี้หมู่บ้านตระกูลเฉินนั้นมีอำนาจมากพอจะเอาชนะได้แม้แต่เมืองหลวงจักรพรรดิ!

ในเวลาแค่หกสิบปีนี้สำหรับนักยุทธทั่วๆ ไปนั้นมันย่อมไม่พอแม้แต่จะก้าวจากอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นต้นขึ้นขั้นกลางเสียด้วยซ้ำ

แต่เย่หยวนกลับเปลี่ยนให้ชาวบ้านทั้งหลายกลายเป็นราชันพระเจ้าได้

มันต้องเป็นพลังที่เหนือล้ำฟ้าดินปานใด!

ยิ่งตัวหลินฉางชิงสู้ไปเขาก็ยิ่งตกตะลึงจนเริ่มออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้เขาเริ่มใช้การผสานแนวคิดสองอย่างเข้าด้วยกันแต่ก็ยังไม่อาจพังค่ายกลของเย่หยวนนี้ลงได้

‘ให้ตายสิ! ไม่อาจจะกระตุ้นใดๆ มันได้ เป็นฝ่ายข้าที่ถูกบังคับให้ใช้กำลังฝีมือที่แท้ออกมาแทน! ขยะที่ไม่มีแม้แต่พลังปราณเทวะเช่นนี้กลับทำให้ข้าต้องเอาจริงหรือ? เจ้าหมอนี่มันยังเป็นคนอยู่จริงๆ หรือไม่?’ หลินฉางชิงได้แต่ต้องร้องร่ำขึ้นในใจ

เพราะเย่หยวนนี้ได้ทำให้สามัญสำนึกของหลินฉางชิงพังทลายลงอีกครั้ง

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันคือคนพิการอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ต่อให้เย่หยวนจะพิการเขาก็ยังไม่อาจจะวางตัวเหนืออีกฝ่ายได้

“ไม่รู้ด้วยแล้ว! หากเจ้าตายก็โทษตัวเองไปเถอะ!”

หลินฉางชิงร้องขึ้นมาด้วยจิตใจที่รุ่มร้อนก่อนจะยกระดับพลังขึ้นมาจนถึงพลังที่แท้จริงของตนเอง พลังของเทพสวรรค์สองดาว

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ได้ใช้พลังของการผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันจนมิติเริ่มแตกร้าว

ปัง ปัง ปัง…

เสียงระเบิดดังขึ้นอีกชุดหนึ่ง!

แต่ครั้งนี้เย่หยวนไม่อาจจะทนรับมันไว้ได้ไหว

ค่ายกลหลายชั้นที่เขาวาดไว้นั้นเริ่มค่อยๆ แตกสลายลงเร็วเกินกว่าที่เขาจะวาดลงใหม่ได้ทัน

“ฮ่าๆๆ… ขอดูหน่อยเถอะว่าจะยังโอหังไปได้อีกนานเท่าใด! ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าก้มหัวลงให้ได้!” หลินฉางชิงร้องบอกด้วยเสียงหัวเราะลั่น

แต่ในเวลานั้นเองเย่หยวนกลับค่อยๆ หลับตาลง!

“หืม? แปลกๆ แล้ว!”

หลินฉางชิงนั้นมีสัญชาตญาณที่ดีจึงสัมผัสได้ทันทีว่าค่ายกลของเย่หยวนมันกำลังก้าวเข้าสู่จุดสมบูรณ์ภายใต้แรงกดดันจากตัวเขานี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ