ต่อหน้าหลุมศพใหญ่นั้นชายหนุ่มชุดขาวกำลังนั่งพิงหลังกับต้นไม้ใหญ่พร้อมจอกเหล้าในมือที่กำลังถูกค่อยๆ ยกดื่มไปเรื่อย
สีหน้าของเขาในเวลานี้มันช่างดูสุดแสนโดดเดี่ยว
ข้างๆ กันนั้นภายในก้อนเพลิงสีขาวบริสุทธิ์มันก็เกิดเสียงโหยหวนร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
“เย่หยวน ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! ข้าขอร้องเจ้าเถอะ อย่าได้สังหารข้าเลย! ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยไว้ชีวิตข้า ข้าย่อมจะยอมรับใช้เป็นทาสของเจ้าไปตลอด…”
“หนวกหู!” เย่หยวนดีดนิ้วขึ้นเร่งพลังของไฟที่มอดไหม้อยู่นั้น
เจี่ยวชางนั้นได้แต่ต้องกรีดร้องขึ้นด้วยความโหยหวนอีกครั้งพร้อมจิตที่อ่อนแอลงทุกที
สุสานนี้มันย่อมจะเป็นหลุมศพที่เย่หยวนตั้งไว้ให้แก่จี้เฉินหยังเมื่อครานั้น มันตั้งอยู่ข้างๆ กับโถงจักรพรรดิโอสถเก่า
เย่หยวนนั้นยกเหล้าขึ้นมาดื่มพร้อมกล่าวบอกกับความว่างเปล่าตรงหน้า “มันผ่านไปกว่าสองพันปีแล้ว ท่านพ่อ ความแค้นลึกล้ำนี้จะได้สะสางลงเสียที เวรกรรมนี้… มันได้สิ้นสุดลงแล้ว! การจะบดทำลายจิตของเจี่ยวชางมันต้องใช้เวลาเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าวัน ลูกจะอยู่ดูมันจนครบเวลาสี่สิบเก้าวันเอง”
เย่หยวนยกเหล้าขึ้นจิบอีกครั้งก่อนจะยิ้มขึ้นมา “นึกถึงเวลานั้นที่ข้าอายุได้ราวหกขวบ ท่านสอนข้าให้หลอมโอสถเป็นครั้งแรกและข้าก็หลอมก้อนสีดำขึ้นมา ทางท่านก็ดีใจยกใหญ่ปรบมือขึ้นมากล่าวบอกว่าข้านั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำผู้คน”
“ท่านบอกข้าเสมอว่าอย่าได้โอหังเกินตัวและอย่าได้บ้าบิ่นเกินชีวิต ข้านั้นทุ่มเทชีวิตศึกษาเต๋ากว่าสองร้อยปีและสร้างความเปลี่ยนแปลงมหาศาลขึ้นที่เมืองบึงเมฆ!”
“…”
มันเหมือนกับว่าเขานั้นกำลังนั่งคุยถึงเรื่องวันวานกับคนรู้จักอันแสนห่างไกล
พูดไปน้ำตาของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ หลั่งไหลลงมาอาบกาย
ความรักที่พ่อของเขามีต่อลูกชายนี้ เวลาห้าร้อยปีที่ได้อยู่ด้วยกันนี้จี้เฉินหยังได้ให้สิ่งที่เหนือล้ำกว่าคำพูดกล่าวใดๆ มันคือความรักของพ่อที่มีต่อลูก จี้เฉินหยังได้มอบมันได้แก่เย่หยวนอย่างไม่มีปิดบัง
การที่เย่หยวนก้าวขึ้นมาถึงจุดที่อยู่นี้ได้มันย่อมจะเป็นเพราะว่าจี้เฉินหยังสิ้น
เย่หยวนนั้นไม่ได้เข้าใจถึงคำที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลประเมินตัวเขาใดๆ ไม่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายบอกว่าเขามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี
นอกจากประสบการณ์ที่มากกว่าคนทั่วไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้เย่หยวนเป็นเย่หยวนในทุกวันนี้ได้ก็ล้วนมาจากจี้เฉินหยัง มาจากพ่อของเขาผู้นี้
จะบอกว่าจี้เฉินหยังนั้นเป็นแสงไฟที่ส่องนำทางชีวิตให้แก่เย่หยวนก็คงไม่ผิดนัก
แม้หลังจากได้ไปเกิดจุติใหม่ ก่อนที่เสี้ยววิญญาณของจี้เฉินหยังจะจางหายไปเขาก็ยังทิ้งบทเรียนสุดท้ายอันแสนสำคัญไว้ให้แก่เย่หยวน
เจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าวันนั้นได้ผ่านไปได้รวดเร็ว เวลานี้เย่หยวนยกขวดเหล้าขึ้นมาเทแต่มันก็ไม่เหลือน้ำเหล้าสุราใดๆ อีก
เมื่อเหล้าสุราได้หมดลงไปแล้วน้ำตาของเขาก็เริ่มเหือดแห้งลงตาม
เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและมองดูที่หลุมศพนั้น “เดิมทีข้านั้นก็คิดอยากจะอยู่คุยกับท่านพ่ออีกหลายวัน แต่เวลานี้อาการของหลินเสวียมันไม่ดีนัก ทั้งตัวลี่เอ๋อยังถูกลากตัวจับไปถึงมิตินรกและมหาพิภพถงเทียนก็กำลังจะพบภัยยิ่งใหญ่ ลูกนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปจัดการเรื่องราว! หลังจากลูกจัดการเรื่องทั้งหลายลงสิ้นแล้ว ลูกจะกลับมานั่งคุยกับท่านพ่อให้สมใจ”
ในเวลานี้จิตสุดท้ายของเจี่ยวชางมันก็ได้ถูกเผาไหม้จนสิ้นลง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางนั้นจางหายไปจากฟ้าดิน
เมื่อมองเห็นว่าจิตของเจี่ยวชางหายไปสิ้นแล้วเย่หยวนก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาในจิตใจ
เขานั้นรู้สึกโล่งและสงบจนเข้าสู่สภาวะไร้ตัวตน
แต่จู่ๆ เจ้าเขาน้อยแห่งถงเทียนมันก็พุ่งออกมาจากตัวเย่หยวนและหยุดลงตรงหน้าเขา
เย่หยวนจึงหันไปมองที่มันนั้นด้วยสายตาที่สัมผัสได้ถึงความข้องเกี่ยวอย่างไม่อาจอธิบาย
เมื่อมองดูที่เขาน้อยแห่งถงเทียนนี้ ภาพที่เย่หยวนเห็นมันก็แตกต่างจากเขาน้อยแห่งถงเทียนที่เขาเคยได้เห็นไปมาก
เพราะว่าเวลานี้เขาน้อยแห่งถงเทียนมันเปี่ยมไปด้วยสีสีนทั้งยังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตัวเขานั้นมันเกิดขึ้นมาจากการก่อตัวกันของลูกบาศก์น้อยๆ จำนวนมหาศาล
แต่เหล่าลูกบาศก์ทั้งหลายนั้นมันไม่ได้เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบทำให้ตัวเย่หยวนเองก็ไม่อาจเข้าใจโครงสร้างของมันได้
“นี่มันคือ… คลื่นของต้นกำเนิดยอดเต๋า? อ่า เขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันเป็นสิ่งที่ลึกล้ำและช่วยให้ข้าคิดค้นบัญญัติเทพแห่งถงเทียนขึ้นมาได้ แน่นอนว่ามันย่อมจะเกี่ยวข้องกับยอดเต๋าอย่างมากแล้ว! ข้าแค่ไม่รู้ว่าเจ้าเขาน้อยแห่งถงเทียนนี้มันเกี่ยวข้องอย่างไรกันแน่กับเขาแห่งถงเทียนของจริง”
แต่ไม่นานคิ้วของเย่หยวนก็ต้องยกสูงเพราะมันเกิดแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากหลุมศพของจี้เฉินหยัง
มันพุ่งผ่านและหายไปพริบตา!
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ
“นี่… นี่มัน… เสี้ยววิญญาณของท่านพ่อมันควรจะดับหายสิ้นไปแล้วสิ! เป็นไปได้อย่างไรที่มันจะยังมีจิตศักดิ์สิทธิ์ใดๆ หลงเหลือ? เรื่องนั้น… หรือมัน… คลื่นพลังต้นกำเนิด?” เย่หยวนได้ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อาจหาคำอธิบาย
ก่อนนั้นที่เขาอยู่ในดินแดนไร้สุดเขาได้เห็นเสี้ยววิญญาณของพ่อหายไปกับอากาศต่อหน้าต่อตา
แต่เวลานี้มันกลับเกิดปรากฏจิตศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากหลุมศพ?
“วิญญาณที่หลงเหลือ… เวรกรรม… ต้นกำเนิด… หรือว่ามันคือสังสารวัฏ?”
ในวินาทีนี้สมองของเย่หยวนได้คิดไปมากมายอย่างเกินกว่าที่จะอธิบาย
วิญญาณของพ่อเขานั้นยังไม่ได้ดับลง แต่เป็นเสี้ยววิญญาณที่ดับลง
เมื่อเจี่ยวชางตายลงเวรกรรมและบ่วงใดๆ ของพ่อเขาจึงได้หมดสิ้นลง
เพราะฉะนั้นพ่อของเขาจึงได้กลับคืนสู่ต้นกำเนิดและเข้าสู่สังสารวัฏ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...