จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2234

“อ้า!”

“อ่าก!”

เสียงแล้วเสียงเล่าดังขึ้นมาอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง

เทพสวรรค์หลายต่อหลายคนต่างถูกลากลงบ่อเลือดไป

เวลานี้ทุกผู้คนต่างมีสีหน้าแตกตื่นเพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเห็นตัวตนของศัตรูได้

หวู่เจียงนั้นก็แสดงสีหน้าเหยเกออกมาก่อนจะกล่าวขึ้น “นี่แห่งนี้มันคือเขตระดับหกแท้ๆ เหตุใดมันจึงได้มีเจ้าตัวประหลาดพวกนี้ปรากฏขึ้นมาได้?”

เย่หยวนหรี่ตาลงตอบ “สมบัติล้ำค่ากำเนิดขึ้นมา แน่นอนว่าเรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะเกิดขึ้นได้ เนตรสุริยันจันทราเทวะ เบิก!”

เย่หยวนนั้นพัฒนากายเนื้อขึ้นมาถึงระดับเจ็ดทุกขจุติ เวลานี้เนตรสุริยันจันทราเทวะเองก็ย่อมจะพัฒนาขึ้นมาถึงอาณาจักรสูงแล้ว

ในเวลานี้เมื่อใช้งานเนตรสุริยันจันทราเทวะออกมาทุกสิ่งอย่างบนโลกหล้ามันก็แจ่มชัดขึ้นทันที

ภายใต้แสงสีแดงเลือดทั้งหลายนี้มันมีเงาสีเทาวิ่งไหวอยู่ทั่วทิศ

พวกมันทั้งหลายนี้หลบซ่อนอยู่หลังแสงสีเลือด และใช้มันเป็นที่หลบซ่อนตัวตน

ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็คงไม่อาจมองเห็นมันได้ง่ายๆ

ฟุบ!

หนึ่งในร่างสีเทานั้นพุ่งตัวเข้ามาหาผีเทพสวรรค์ขวังต้าว

แต่ตัวขวังต้าวเองไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนนั้นเลย

เย่หยวนหรี่ตาลงมองก่อนจะร้องบอก “เจตจำนงดาบ ฟัน!”

ดาบโปร่งแสงปรากฏขึ้นมาฟันร่างสีเทานั้นลงอย่างรวดเร็ว

“ฮี้!”

เจ้าร่างสีเทานั้นร้องออกมาด้วยเสียงสุดประหลาดก่อนจะพุ่งตัวหายไปยังบ่อเลือดอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงร้องแปลกๆ นั้นขึ้นมาจากด้านหลังตัวขวังต้าวก็ต้องหันมามองอย่างตื่นตัว เป็นตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะได้รู้ตัวว่าตนเกือบได้ลงนรกไปแล้ว

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหรี่ตาลงมองด้วยรอยยิ้ม “เป็นพลังจิตที่หนักแน่นนัก มันแทบจะปรากฏเป็นร่างออกมา! ดูท่าจิตศักดิ์สิทธิ์ของมันผู้นี้คงอยู่ในระดับเจ็ดขั้นสุดแน่แล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันไม่ธรรมดา!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางหัวเราะขึ้น “จะเป็นระดับเจ็ดขั้นสุดแล้วอย่างไร? มันจะทนอยู่ได้สักกี่น้ำเชียว?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งพยักหน้ารับออกมา “ยิ่งมันเก่งกาจเท่าไหร่มันก็ยิ่งเบามือเราได้มากเท่านั้น! หากมีมันอยู่ด้วยแล้วแน่นอนว่าเราย่อมจะไม่ต้องลงมือไปอีกนาน บ่อโลหิตมีสภาพเป็นเช่นนี้มันย่อมจะมีของดีอยู่ไม่น้อย แต่พร้อมๆ กนนั้นมันก็จะยิ่งอันตรายขึ้นกว่าเก่ามาก”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างพยักหน้ารับออกมา รู้สึกเห็นด้วยอย่างชัดเจน

เย่หยวนนั้นจัดการเจ้าตัวประหลาดนั้นไปหนึ่งตัวและก็ไม่ได้คิดจะลงมือใดๆ ต่ออีก

ปล่อยให้เรื่องราวมันผ่านไปหากไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเขาตรงๆ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การเป็นตัวเด่นย่อมมิใช่เรื่องดี

หากมิใช่เพราะต้องช่วยผีเทพสวรรค์ขวังต้าวแล้วตัวเขาก็ย่อมจะไม่ลงมือใดๆ

จากนั้นมันก็จะมีผีเต๋าอีกหลายตนถูกลากลงบ่อเลือดไปตามทาง

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งจึงชี้นิ้วออกมาสั่งเย่หยวน “เจ้า ไปจัดการพวกเงาสีเทานั้นให้สิ้น!”

เย่หยวนขมวดคิ้วและถามกลับไป “หากข้าบอกว่าไม่เล่า?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่ง “ไม่ทำเจ้าก็ตาย!”

แน่นอนว่าด้วยระดับพลังสายตาของจักรพรรดิเทพสวรรค์พวกเขาย่อมจะมองเห็นเหล่าเงาสีเทานี้

เพียงแค่ว่าไม่มีพวกเขาคนใดคิดลงมือจัดการ

เหล่าเงาสีเทาทั้งหลายนั้นมันเป็นร่างวิญญาณ การจะสังหารพวกมันลงก็ต้องใช้พลังจิตวิญญาณอย่างมาก

จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมจะอยากเก็บพลังไว้จัดการกับอะไรที่เป็นอันตรายมากกว่านี้

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นกล่าวสั่งออกมามันย่อมมีน้ำหนักกว่าคำของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชาง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวมันก็คือสุดยอดตัวตนในกลุ่มคนทั้งหลายนี้!

ที่ด้านข้างจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางยิ้มพูดเสริมขึ้นมา “เด็กน้อย เป็นแค่เหยื่อล่อก็ทำตัวให้สมหน้าที่หน่อย! รีบๆ ไปตายได้แล้ว!”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นไม่ได้คิดสนใจใดๆ ในชีวิตของคนทั้งหลาย

สำหรับพวกเขาแล้วเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายมันก็เป็นแค่เหยื่อล่อ

เทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นมีอำนาจปกครองดินแดนได้

แต่ต่อหน้าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว พวกเขาก็ยังเป็นแค่มดปลวก!

และมดปลวกนั้นมันไม่มีสิทธิใดมาต่อรองกับคน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ