ตอน ตอนที่ 2254 สิ่งใดที่ไม่อาจฆ่าเจ้าจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2254 สิ่งใดที่ไม่อาจฆ่าเจ้าจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เย่หยวนนั้นสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงไปด้วยแค่การดีดนิ้วแม้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นั้นจะไม่ได้ประมาทแม้แต่น้อย
พวกเขาทั้งหลายที่อยู่เบื้องบนนั้นต่างย่อมเข้าใจค่ายกลเบื้องล่างเหมือนดั่งแค่ปลายนิ้วของตนจึงได้คิดใช้มันทำร้ายทำลายเย่หยวนลงด้วย
เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นกลับรู้จักค่ายกลทั้งหลายนี้เหมือนดั่งเป็นสวนหลังบ้านตน
เขานั้นใช้การเคลื่อนไหวที่เร็วล้ำหลบเข้าตาค่ายกลพร้อมใช้พลังค่ายกลโจมตีสวนกลับไป
จากนั้นเขาก็ได้ดีดนิ้วขึ้นอย่างต่อเนื่องทำลายเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปอีกมากมาย
นี่มันคือการต่อสู้โดยใช้พลังของค่ายกล พลังบ่มเพาะใดๆ นั้นไม่มีผลใดในที่แห่งนี้
ดูท่าแล้วเย่หยวนย่อมจะเข้าใจค่ายกลทั้งหลายนี้ได้เหนือล้ำกว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย!
“จัดการสองคนด้านหลังมันก่อน!”
ท่ามกลางความวุ่นวายนั้นมีเสียงคนร้องบอกขึ้นมาทำให้เป้าหมายการโจมตีตกไปอยู่ที่เจียงซือและขวังต้าวแทน
เย่หยวนหรี่ตาลงพร้อมขยับมือรับอย่างรวดเร็วรับการโจมตีของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ไว้อย่างหมดจน
เทียนหยานที่ได้เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ “มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเคยมายังเขาแปดโมฆะ? อาจจะเพราะแบบนั้นมันจึงเข้าใจถึงค่ายกลของเขานี้อย่างลึกซึ้ง!”
ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นต่างได้แต่อ้าปากค้างมองดูเย่หยวนน้อยที่กำลังปกป้องสองตัวถ่วงหลบรอดจากการโจมตีของจอมเทพค่ายกลแปดดาวนับไม่ถ้วน
“พี่เทียนหยาน! ดูท่ามันคงมีแต่ท่านแล้วที่จะจัดการมันลงไปได้!” ซุ่ยหยวนกล่าว
เทียนหยานเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักใจ “ตราบเท่าที่เฒ่าคนนี้เข้าไปถึงระยะร้อยเมตร ข้าย่อมจะจัดการมันได้แน่!”
พูดจบคนทั้งสามก็ก้าวเดินต่ออย่างสุดตัว
ด้วยฝีมือของจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้การนำทางคนทั้งสามไปนั้นมันย่อมจะแสนรวดเร็วจนทำให้ระยะห่างค่อยๆ ย่นลงเรื่อยๆ
ความเร็วการเดินของเย่หยวนนั้นมันตกลงอย่างมากเพราะต้องหลบการโจมตีของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายไปด้วย
แต่แน่นอนว่าเหตุผลมันก็เพราะว่าเขาต้องปกป้องตัวเจียงซือและขวังต้าวไปด้วย
เจียงซือนั้นได้แต่เดินมาด้วยใบหน้าเหยเก ตัวเขาที่เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ตัวถ่วงไร้ค่า
เมื่อได้เห็นว่าเทียนหยานและพวกกำลังใกล้เข้ามาถึงเรื่อยๆ จิตใจของเขามันก็เริ่มสั่นรัว
“สหายหนุ่มเย่ ขอบคุณเจ้ามากที่ปกป้องมาตลอดทาง! ดูท่าข้าจะไม่มีชะตาได้ครองเจ้าธนูสาบานสังหารเทพนี้จริงๆ เจ้าเอามันเดินทางต่อเถอะ อย่าได้กังวลเรื่องข้าอีกเลย!” เจียงซือกัดฟันบอก
กว่าที่เจียงซือจะก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้นั้นเขาย่อมจะต้องผ่านชีวิตมานับล้านๆ ปีได้เจอประสบการณ์มากมายอย่างไม่อาจนับ
แต่คนที่ซื่อตรงและมากคุณธรรมอย่างเย่หยวนนี้ ทั้งชีวิตเขาไม่เคยจะพบเจอมาก่อน
ในสภาพเวลานี้ของเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่อาจผ่านทุกข์ทลายไปได้
เพราะฉะนั้นจะตายตอนนี้หรือตายหลังจากนี้อีกหน่อยมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่มากมายนัก
หากต้องเป็นตัวถ่วงทำให้เย่หยวนได้รับอันตรายนั้น เขายอมตายเสียจะดีกว่า
“เงียบเถอะ! แค่ขยะทั้งหลายนี้มันหยุดข้าไม่ได้หรอก! เป็นคนเฒ่าคนแก่กลับมาทำตัวเหมือนเป็นเด็กสาวไปได้ ท่านไม่คิดว่าการยอมตายลงตรงนี้มันน่าอับอายบ้างหรือ? วางใจเถอะ! เมื่อข้ารับมือไม่ไหวจริงๆ ข้าจะโยนท่านทิ้งไปแน่แม้ท่านจะขอร้องให้ข้าช่วยอย่างไร!” เย่หยวนพูดไปแต่มือก็ยังไม่หยุดควบคุมค่ายกล
ในเวลานี้เย่หยวนได้ยิงลำแสงพลังงานออกมาทำลายร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกคนทิ้งไปจนทำให้เจียงซือต้องอ้าปากค้าง
เจ้าหมอนี่มันสุดยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!
จัดการจอมเทพค่ายกลแปดดาวลงง่ายดายราวกับหั่นเนื้อ
หากมิใช่เพราะจำนวนที่มากมายแล้ว มันย่อมจะไม่เป็นปัญหาใดๆ แก่เย่หยวน
เจียงซือนั้นได้แต่มองดูภาพตรงหน้าพร้อมสูดหายใจเข้าลึก
ความเร็วที่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งสามตามมานั้นมันรวดเร็วมากจนเวลานี้พวกเขาอยู่ห่างกันแค่ไม่ถึงห้าร้อยเมตรแล้ว
“ใครก็ตามที่ฆ่าเจ้าเด็กคนนี้ได้ จักรพรรดิผู้นี้จะมอบสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดให้พร้อมกับโอสถเย้ยสวรรค์ปิติสามเม็ด!”
ในเวลานั้นเทียนหยานก็ได้กล่าวขึ้นอีกครั้งทำให้คนทั้งเทือกเขาแปดโมฆะได้ยินสิ้น
โอสถเย้ยสวรรค์ปิตินั้นมันเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดที่มีค่ามากกว่าสิ่งใด!
ที่ข้างๆ เย่หยวนนั้นเจียงซือได้แต่ยืนมึนด้วยตาที่แทบถลนออกจากเบ้า
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อกี้เพิ่งจะถูกรุมแท้ๆ เหตุใดสถารการณ์มันกลับพลิกกลับได้เช่นนี้?
พวกเทียนหยานทั้งสามนั้นที่ยังยิ้มอยู่เมื่อวินาทีก่อนต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน?” ซุ่ยหยวนมองดูภาพตรงหน้านั้นด้วยปากที่อ้าอย่างไม่อาจหุบลง
เทียนหยานนั้นหรี่ตาลงมองดูเย่หยวนอย่างตื่นตะลึงจนต้องสูดหายใจเข้าลึก
“เจ้าเด็กคนนี้มันศึกษาเต๋าค่ายกลไปด้วย! ระหว่างทางที่มานั้นวิชาค่ายกลของมันมีแต่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ! จนตอนที่มันถูกล้อมใกล้ตายนี้มันได้ยืนพลังของคนทั้งหลายนั้นในการศึกษาค่ายกลที่อยู่รอบๆ จนถึงที่สุด! เวลานี้… มันบรรลุเข้าใจแล้ว!” เทียนหยานได้แต่ต้องมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง
ที่ด้านข้างนั้นซุ่ยหยวนและกู้หวนต่างยืนฟังด้วยปากที่ยังอ้าค้าง
“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับศึกษาวิชาไประหว่างสู้ บ้าแล้ว?” กู้หวนได้แต่ร้องบอก
เทียนหยานนั้นส่ายหัวออกมา “เจ้าเด็กคนนี้มันมีเต๋าค่ายกลของตนเองอยู่แล้ว! ความเข้าใจของเต๋าค่ายกลที่มันมีนั้นคงถึงระดับต้นกำเนิดได้ง่ายๆ! เขาแปดโมฆะนี้มันมีค่ายกลเหมือนเป็นหนังสือเรียนขนาดใหญ่ให้แก่เหล่าจอมเทพค่ายกลทั้งหลาย เพียงแค่ว่าเจ้าจะมีปัญญาเข้าใจมันหรือไม่ก็เท่านั้น! เจ้าเด็กคนนี้มันต้องไม่เคยมาที่เขาแปดโมฆะมาก่อนแน่ๆ เพราะฉะนั้นความรู้ที่มันได้จากค่ายกลนี้จึงมากล้นช่วยให้มันพัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดดด้วยเวลาสั้นๆ นี้! ซี๊ด… เป็นเด็กที่น่ากลัวเสียจริงๆ!”
เทียนหยานนั้นวิเคราะห์ออกมาได้ใกล้เคียงความเป็นจริงอย่างมาก
เพราะสิ่งที่เย่หยวนทำมาตลอดทางก็คือการศึกษาค่ายกลนี้!
เหตุผลที่เขาขึ้นผ่านช่วงตีนเขามาได้อย่างรวดเร็วนั้นมันเป็นเพราะว่าค่ายกลที่ตีนเขามันเรียบง่ายเข้าใจได้ไม่ยาก เย่หยวนจึงสามารถเข้าใจและใช้งานมันได้ด้วยเวลาสั้นๆ
จนถึงตอนที่เทียนหยานได้ใช้สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดมาล่อเหล่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวให้มาโจมตีเย่หยวน ทำให้เย่หยวนได้ศึกษาค่ายกลทั้งหลายจากการใช้งานของอีกฝ่ายจนสุดท้ายความเข้าใจที่เขามีต่อค่ายกลนี้มันจึงเพิ่มพูนขึ้นไปอย่างไม่อาจจินตนาการ
เพราะหากเย่หยวนคิดอยากขึ้นเขาไปจริงๆ แล้วความเร็วของเขาย่อมจะไม่ได้ช้าเช่นนี้
แต่เย่หยวนไม่ได้รีบร้อนใดๆ เขาไม่ได้หนีเอาชีวิตรอด แต่เขากำลังหาพลังที่จะต่อต้านศัตรูอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานได้ต่างหาก!
เพียงแค่ว่ามีหรือที่พวกเทียนหยานทั้งหลายจะรับรู้ถึงเรื่องนั้นได้!
……………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...