การโจมตีสวนกลับอย่างรุนแรงบ้าคลั่งของเย่หยวนนี้มันได้ทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา
เวลานี้พวกเขาได้รู้สึกตัวแล้วว่าสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์มันย่อมมิใช่สิ่งของที่จะได้มาง่ายๆ!
เด็กหนุ่มคนนี้มีเต๋าค่ายกลที่เหนือล้ำกว่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวส่วนใหญ่ไปมาก
สิ่งเดียวที่เขายังขาดก็คือการบ่มเพาะ
แต่บนเขาแปดโมฆะนี้ที่มีพลังปิดกั้นรุนแรงทุกหย่อมหญ้าพลังบ่มเพาะใดๆ มันจึงไม่มีค่าสิ้น
เพราะค่ายกลปิดกั้นในที่แห่งนี้มันรุนแรงจนเกินไป!
ใครก็ตามที่ใช้พลังปิดกั้นได้ดีกว่าก็ย่อมจะเป็นฝ่ายมีชัย!
คนที่บ่มเพาะขึ้นมาถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้นั้นย่อมจะมิใช่คนโง่มากมาย
พวกเขาทั้งหลายนั้นเดิมทีได้ยินคำว่าสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดและเห็นว่าเย่หยวนมีพลังบ่มเพาะและอายุที่น้อยนิด จึงคิดจะเข้าไปลงมืออย่างไร้กังวล
แต่เวลานี้มันกลับกลายเป็นเวลานี้เย่หยวนนี้แข็งเป็นหิน หาใช่ลูกไม้อ่อนๆ
ส่วนตัวพวกเขาทั้งหลายนั้นกลับเป็นเหมือนไข่บางๆ ที่พุ่งตัวเข้าไปชนหินก้อนนั้น
ทุกผู้คนต่างถอนร่นระยะออกมาเปิดทาง
แต่ความเร็วการปีนของเย่หยวนมันกลับไม่ได้รวดเร็วขึ้นใดๆ แต่ช้าลงแทน
พวกเทียนหยานทั้งสามนั้นมองดูภาพตรงหน้าก่อนจะเดินขึ้นมาตามจนทัน
ทุกผู้คนต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างประหลาดใจ เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้รู้ว่าตนเองนั้นเป็นได้แค่ตัวประกอบอย่างแท้จริง
“ที่แท้เจ้าหมอนี่มันก็ไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีใครมาโจมตีมันหรือไม่!”
“ให้ตายสิ! พวกที่ตายไปนี่คงได้แต่ทุบอกชนหัวในโลกหน้า!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันกำลังศึกษาตัวค่ายกลปิดกั้นอยู่ สุดท้ายเรากลับไปช่วยสั่งสอนมันให้ เสียเวลาไปตั้งนานที่แท้…”
…
ในเวลานี้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างแทบอยากจะกระอักเลือดออกมาเสียตรงนั้น
เป็นอตนนี้ที่พวกเขาได้เข้าใจว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้ช้าลงเพราะพวกเขา แต่เป็นตัวเย่หยวนเองที่ชะลอเท้าลง
พวกจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานทั้งสามคนนั้นได้เดินตามขึ้นมาจนถึงระยะร้อยเมตรในที่สุด
ซุ่ยหยวนนั้นยิ้มขึ้นมา “เจ้าเด็กนรก ไม่คิดเห็นพวกเราอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!”
เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายมันก็เกิดลำแสงพลังงานจากภายในค่ายกลพุ่งขึ้นมาใส่
จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานหรี่ตาลงมองก่อนจะปัดพลังนั้นทิ้งไป
“เก่งกาจจริงๆ กล้ามาลบหลู่จักรพรรดิผู้นี้! ดีมาก เจ้าฟ้าดินผู้นี้อยากจะรู้ว่าเจ้านั้นจะมีปัญญาสักเท่าไหร่ มีพอที่จะต่อต้านอำนาจของเจ้าฟ้าดินผู้นี้หรือไม่!”
เทียนหยานนั้นร้องกล่าวก่อนจะพลิกฝ่ามือขึ้น
เย่หยวนชี้นิ้วออกมาแก้ไขมันอย่างง่ายดาย
จากนั้นการประลองวิชาของคนทั้งสองมันก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเต็มตัว!
ทั้งสองฝั่งนั้นต่างค่อยๆ ประลองกันไปขึ้นบนเขากันไป เปลี่ยนแปลงพลังของค่ายกลปิดกั้นออกมาโจมตีกันอย่างไม่มีสิ้นสุด
ระหว่างคนทั้งสองนี้มันก็มีระยะห่างกับราวร้อยเมตรได้แต่ในระยะนั้นมันได้มีค่ายกลถูกดึงเข้ามาขวางอย่างมากมายมหาศาล
หากพลาดไปเพียงนิดแล้วนนอกจากจะเสียท่าให้ศัตรูแต่จะถูกพลังของมันนี้ทำลายตัวเองจนไม่เหลือแม้แต่เศษซาก
ลำแสงพลังงานมากมายถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องโดยที่มือของทั้งสองฝ่ายนั้นต่างขยับหมุนวนจนไม่อาจมองตามได้ทันอีกต่อไป
เหล่าจอมเทพค่ายกลทั้งหลายที่ได้เห็นต่างได้แต่อ้าปากค้าง
เต๋าค่ายกลที่คนทั้งสองใช้ออกมานี้มันทรงพลังจนผู้พบเห็นต้องลืมหายใจ
แต่ละการขยับเคลื่อนไหวนั้นมันรุนแรงและเฉียบคม
ความอัจฉริยะภายในด้านนี้มันแตกต่างจากวิชายุทธทั่วๆ ไปนัก
เพราะนี่มันคือการประลองความเข้าใจที่มีต่อเต๋าค่ายกล ประลองความเข้าใจที่มีต่อเขาแปดโมฆะนี้
ทางด้านจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นได้แสดงฝีมือที่สมชื่อของเจ้าฟ้าดินผู้เชี่ยวชาญค่ายกลออกมา!
ตัวตนของเขานี้มันอยู่ใกล้กับต้นกำเนิดเต๋าค่ายกลอย่างมาก มีกำลังฝีมือที่ทำให้ผู้คนได้แต่ต้องสิ้นหวัง
เย่หยวนนั้นไม่สามารถจะโจมตีกลับไปได้มากมายท่ามกลางพลังนั้น
ตอนแรกๆ เย่หยวนก็เองก็ยังพอรับมือจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานได้อย่างเท่าเทียม
แต่ยิ่งผ่านเวลาไป จุดที่เย่หยวนหลบหลีกได้มันก็ยิ่งแคบลงเรื่อยๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...