การประลองที่เดือดดาลเช่นนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึง
เหล่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ต้องมองดูภาพตรงหน้าด้วยปากอ้าค้าง
พวกเขาแต่ละคนล้วนเบิกตากว้าง กลัวว่าตัวเองจะพลาดการประลองนี้ไปแม้แต่วินาทีเดียว
ค่ายกลนั้นเป็นของตาย ผู้คนนั้นเป็นของเป็น
การประลองระหว่างสองยอดปรมาจารย์เต๋าค่ายกลเช่นนี้มันเหมือนเป็นการสั่งสอนวิชาแก่พวกเขาโดยตรง
มีหรือที่การมาค่อยนั่งวิเคราะห์ค่ายกลด้วยตัวเองนั้นมันจะให้ประโยชน์ได้มากเท่าฟังคำตอบที่ถูกต้องจากยอดปรมาจารย์?
คนทั้งสองนั้นยังคงขยับเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ จนขึ้นไปสูงขึ้นบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง
เย่หยวนนั้นยังคงรักษาสภาพป้องกันการโจมตีจากเทียนหยานได้อย่างดี
พวกเจียงซือที่อยู่ด้านหลังนั้นต่างแทบจะลืมหายใจลงไปสิ้น
“เจ้าเด็กคนนี้มันทนได้จริงๆ จนเวลานี้มันก็ยังไม่ตายลง!”
“น่าเสียดายที่ค่ายกลปิดกั้นด้านหน้านั้นข้ายังวิเคราะห์ไม่แล้วเสร็จ ตอนนี้คงไม่อาจตามขึ้นไปดูการประลองได้แล้ว”
“พวกเขาทั้งสองนี้ต่อสู้กันมาเป็นระยะกว่าสองพันหกร้อยกิโลเมตร ค่ายกลที่อยู่สูงไปด้านบนนั้นมันมีแต่จะยิ่งอันตรายขึ้น ข้าว่าเจ้าเด็กคนนั้นคงไม่อาจรอดไปได้แน่”
…
การประลองวิชาของคนทั้งสองนั้นดำเนินต่อเนื่องไปนานถึงแปดวันแปดคืนเต็ม
ในเวลานี้เย่หยวนได้ป้องกันการโจมตีของเทียนหยานอย่างหนักแน่นจนผู้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานย่อมจะกดดันเย่หยวนจนถึงขีดจำกัด ตัวเย่หยวนนั้นมีสิทธิที่จะพลาดลงได้ในทุกเมื่อ
แต่เย่หยวนกลับยังคงรักษาชีวิตไว้ในสภาพที่ถูกกดดันอย่างหนักนั้นได้ตลอดแปดวันแปดคืน!
ในระหว่างแปดวันแปดคืนที่ผ่านมานี้คนทั้งสองได้ก้าวขึ้นมาเลยผ่านระยะสองพันกิโลเมตรไปแล้ว
ค่ายกลปิดกั้นของเขาแปดโมฆะในระยะสองพันแปดร้อยกิโลเมตรขึ้นไปนั้นมันคือระดับของมหาค่ายกลเจ้าฟ้าดิน!
เว้นเสียแต่ว่าในระหว่างการต่อสู้เอาเป็นเอาตายนั้นไม่ได้มีใครทันสังเกตเลยว่าแววตาของเย่หยวนมันมีแต่จะเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลาแปดวันแปดคืนที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้เข้าใจเต๋าค่ายกลมากขึ้นกว่าเท่าตัวหากเทียบกับความรู้ความเข้าใจที่เขาเคยมีผ่านๆ มา!
เวลาหกสิบปีที่เขาใช้ศึกษาวิชาเต๋าพื้นฐานนั้นมันได้ทำให้เย่หยวนได้มุมมองใหม่ในการศึกษาเต๋าค่ายกล
และเวลาแปดวันแปดคืนนี้มันก็ได้ทำให้ความเข้าใจในเต๋าค่ายกลของเขาสูงล้ำขึ้นจนถึงระดับใหม่!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมาคอยช่วยชี้นำสั่งสอนเกี่ยวกับค่ายกลของเขาแปดโมฆะให้ด้วยแล้ว
การประลองของเขาและเย่หยวนนั้นมันเหมือนดั่งการสั่งสอนวิชาของตนเองออกมาให้อีกฝ่ายไปด้วย
สภาพของคนทั้งสองนี้มันเหมือนดั่งอาจารย์ผู้มากวิชาและศิษย์ที่ฉลาดหลักแหลม
เย่หยวนนั้นได้ใช้วิธีการเดียวกับที่เขาศึกษาเต๋าโอสถในการศึกษาเต๋าค่ายกล
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียแม้จะเป็นค่ายกลที่ซับซ้อนยุ่งยากปานใด สุดท้ายในสายตาของเย่หยวนแล้วมันก็คือค่ายกลพื้นฐานหลายๆ ค่ายกลวางเรียงเชื่อมต่อกัน
ไม่ว่ามันจะเป็นค่ายกลที่ซับซ้อนปานใด สุดท้ายมันก็แค่ความอัจฉริยภาพในการจัดเรียงค่ายกล ทำให้สามารถสร้างพลังมหาศาลขึ้นมาได้
เพราะฉะนั้นความเร็วในการศึกษาค่ายกลของเย่หยวนมันจึงรวดเร็วกว่าคนทั่วไปมากมายนัก เพราะเขาแค่ต้องศึกษาจุดเชื่อมต่อของค่ายกลย่อย
ตอนที่เขาไปยังเขาราบเพลิงเองเย่หยวนก็ได้ทำลายค่ายกลระดับแปดนั้นลงอย่างรวดเร็วด้วยวิธีเดียวกันนี้
แต่ทว่าความเร็วในการศึกษาวิเคราะห์ก็เรื่องหนึ่ง ความเข้าใจที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมีมันก็อีกเรื่องหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
คนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้ล้วนแล้วแต่มีเส้นทางเต๋าของตัวเองสิ้น
เรื่องเดียวกันนี้หากมองจากมุมมองความคิดของคนหมื่นคนมันก็อาจจะกลายเป็นหมื่นเรื่องราวได้
ค่ายกลปิดกั้นเดียวกันนี้ มันก็ย่อมจะทำให้คนที่ศึกษาได้ความรู้ที่แตกต่างกันไป
การศึกษาวิชาจากตัวศัตรูนี้มันได้ทำให้ความเข้าใจต่อค่ายกลของเย่หยวนลึกล้ำขึ้นอย่างมากจนถึงขั้นเริ่มมองออกว่าผู้สร้างค่ายกลนี้ทำมันขึ้นมาได้อย่างไร!
เหตุผลที่เขาตั้งหลักรอเทียนหยานนั้นเองก็เพราะเหตุนั้น
ความแตกต่างระหว่างตัวเขาและจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมันมีอยู่จริง แต่ช่องว่างนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่ใครๆ คิด
แม้ว่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นจะเก่งกาจจนผู้คนขนหัวตั้งแต่หากคิดสังหารเย่หยวนแล้วมันก็ยังมิใช่เรื่องง่ายดายนัก
อย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีทางจะสังหารลงได้ก่อนถึงระดับความลึกสองพันแปดร้อยกิโลเมตร!
แต่ระหว่างการต่อสู้ไปจนถึงระยะสองพันแปดร้อยกิโลเมตรนั้น เย่หยวนก็จะศึกษาพัฒนาเต๋าค่ายกลไปอย่างมากล้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...